เรื่องที่ ๑๒๘รอดตาย! ในอเมริกา
คุณอารยา งามอุโฆษ อยู่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เล่าว่า มารดาชื่อ เซ็งฮ้วย งามอุษโฆษ อายุ ๖๓ ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวานมานานกว่า ๑๐ ปี มีอาการปวดหัวเข่าและบวมเป็นบางครั้ง พยายามรักษาอยู่เสมอ จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.๒๕๔๑
คุณเซ็งฮ้วยมีอาการเป็นลมบ่อยครั้ง ต้องหยุดทำงานรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เวลาผ่านไป ๑ เดือนแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น กลับกำเริบขึ้นมา มีแผลพุพองที่ปาก ลามไปทั่วริมฝีปาก จึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล พบว่าน้ำตาลในเลือดสูงมาก ๗๐๐-๘๐๐ ทำให้ตับ ไต ไม่ทำงาน เลือดไม่พอเลี้ยงร่างกาย หัวเข่าไม่มีน้ำมันหล่อลื่น กระดูกเสื่อมทำให้เดินไม่ได้ ปวดแสบในหัวเข่า แพทย์รักษาด้วยวิธีการให้เลือด ให้น้ำเกลือและถ่ายปัสสาวะทางสาย ยาง แพทย์แจ้งว่าถ้าไม่รักษาคงตายภายใน ๗ วัน ถ้ารักษาคนเจ็บจะปวด ทรมานมาก ยืดเวลาได้ก็จริง แต่จะต้องตายเหมือนกัน เพราะรักษาไม่หาย สามีของคนป่วยและลูกๆ จึงตัดสินใจขอให้แพทย์ทำการรักษา
คุณอารยาคิดได้ว่าทั้งบิดา มารดาเคยทำบุญสร้างพระประจำตัวไว้ที่มหาธรรมกายเจดีย์แล้ว เมื่อได้ติดต่อถามกัลยาณมิตรของวัดชื่อ คุณนารี คงปาน ได้รับคำแนะนำให้สร้างองค์พระเพิ่มอีกในระยะนี้ เพื่อจะเติมบุญ และรับพระของขวัญศักดิ์สิทธิ์พระมหาสิริราชธาตุและบุญจากการสร้างพระมาช่วยเหลือคนป่วย เมื่อปรึกษาคนป่วย ท่านก็เต็มใจสร้างอีก ๓ องค์ คุณอารยาได้รับเทป หนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ และบทสวดสรรเสริญ จึงนำมาสวดให้มารดาฟัง คนป่วยจะพนมมือรับฟังหลับบ้างตื่นบ้าง เพราะอาการเพียบหนัก ทุกครั้งที่ลูกสาวสวดบทสรรเสริญให้ฟัง คนป่วยมักน้ำตาไหลพราก คุณอารยาบอกที่ข้างหูมารดาให้ท่องคำว่า สัมมา อะระหัง เรื่อยไป พร้อมทั้งนึกถึงให้พระมหาสิริราชธาตุช่วย เวลานั้นอาการยังคงทรุดหนักอยู่เรื่อยๆ ลูกให้แม่นำภาพพระมหาสิริราชธาตุวางไว้ที่หน้าอกตลอดเวลา
คืนนั้นเอง คุณเซ้งฮ้วย บอกลูกว่า มีผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้จักเลย ได้มาเยี่ยม มาถึงได้ขึ้นมาเหยียบบนเตียงนอนของคนเจ็บ แล้วจึงลงจากเตียงเขย่าแรงๆ ๒-๓ ครั้ง พูดว่า "เตียงนี้ แข็งแรงดีนะ" คุณเซ้งฮ้วยเรียกพยาบาลมาดู ผู้ชายคนนั้นก็เดินออกไป จากนั้นอาการป่วยก็ดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนคุณพ่อของคุณอารยาอยู่ที่บ้าน คืนเดียวกันนั้นเกิดนอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาตอนตี ๓ สวดมนต์เสร็จ ภาวนา สัมมา อะระหัง อธิษฐานจิตต่อพระมหาสิริราชธาตุ ขอให้ภรรยาหายป่วย สักครู่ได้ยินเสียงผู้ชายพูดอย่างหนักแน่นมาก เสียงดังว่า "หาย" รู้สึกแปลกใจจึงเดินไปดูว่าใครพูด แต่ก็เห็นว่าไม่มีใคร ทุกคนหลับหมด
นับแต่นั้นมา คนป่วยก็มีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งสามารถย้ายออกมาอยู่ในสถานที่พักฟื้น อยู่ได้เพียง ๑ อาทิตย์ โลหิตเกิดจางและมีเม็ดเลือดแดงต่ำมาก ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีก เพื่อทำการผ่าตัดใส่ท่อสายยางที่แขน เริ่มทำการฟอกเลือด ขณะคนป่วยอยู่บนเตียง คุณพ่อคุณอารยานั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เตียง เกิดความรู้สึกว่ามีเงาคนเดินมาหยุดอยู่ตรงปลายเท้าคนป่วย แล้วเงานั้นก็เดินออกไป จึงเงยหน้าขึ้นดู ไม่เห็นมีใคร ลุกเดินตามไปดูที่ประตู ก็ไม่มีใคร
จากนั้นอาการของผู้ป่วยดีขึ้นเรื่อยมาประมาณ ๘๐% ของคนปกติ ยังอยู่แต่เรื่องทำกายภาพบำบัด รับประทานอาหารเองได้ ลุกนั่งเองได้
ในครอบครัวจึงร่วมทำบุญสร้างองค์พระภายในมหาเจดีย์มาอีก ๒ องค์ และตั้งใจทำบุญเป็นประธานรองฉลอง มหาธรรมกายเจดีย์ ในวันมาฆบูชาปี พ.ศ.๒๕๔๓ คุณอารยากล่าวตอนท้าย ว่า
"พวกเราทุกคนในครอบครัว มีศรัทธาเชื่อมั่นในบุญมาก จึงขอเชิญชวนท่านผู้มีบุญทั้งหลาย ที่ยังไม่ตัดสินใจสร้างองค์พระ รีบสร้างเถิดค่ะ ขณะนี้เหลือจำนวนจำกัด จะปิดรับภายในมาฆบูชา ปีพ.ศ.๒๕๔๒ นี้เอง บุญครั้งนี้ยิ่งใหญ่มหาศาล เราได้ร่วมกันทุ่มสุดฤทธิ์ ปิดเจดีย์ เป็นเกียรติประวัติชีวิตของตัวเราและพระศาสนาตลอดไป"
ผู้ชายแปลกหน้าที่คนเจ็บเห็น คงเป็นเทพยดาที่ดูแลพระมหาสิริราชธาตุของคุณเซ็งฮ้วย ซึ่งได้ทำบุญสร้างองค์พระที่พระมหาเจดีย์ไว้แล้ว พระของขวัญองค์จริงยังไม่ได้รับ แต่เทพยดาย่อมทราบว่าคุณเซ็งฮ้วยเป็นเจ้าของ ท่านจึงไปดูแลเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย
การแสดงอาการขึ้นเหยียบบนเตียงที่คนป่วยนอน และเขย่าดู พร้อมทั้งบอกว่าเตียงนี้แข็งแรง แสดงภาพเหตุการณ์เป็นข้ออุปมาให้เป็นข้อคิดว่า ร่างกายของ คุณเซ็งฮ้วยยังแข็งแรงอยู่ เพราะเตียงเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ต่อเนื่องอยู่กับร่างกายคนเจ็บ เหมือนที่เราดูภาพยนต์จีน เห็นหมอสมัยโบราณใช้เส้นด้ายวัดชีพจรที่แขนคนไข้สตรีสูงศักดิ์ เส้นด้ายสามารถสื่อให้หมอรู้ว่าคนไข้ป่วยอาการอย่างไร เป็นโรคอะไร ทำนองเดียวกัน เตียงที่รองรับร่างกายคุณเซ็งฮ้วย ย่อมสามารถบอกให้รู้ว่า ร่างกายคนที่นอนอยู่บนเตียงแข็งแรงมากน้อยเพียงใด แล้วบอกให้เจ้าตัวทราบ
แล้วยังไปบอกสามีคนป่วยถึงที่บ้าน ขณะทำสมาธิอธิษฐานขอพรให้ภรรยาหายป่วยว่า "หาย" โดยการเปล่งออกมาเป็นคำพูดดังๆ ให้ได้ยิน สิ่งเหล่านี้คืออานุภาพของเทพยดาที่ดูแลองค์พระมหาสิริราชธาตุ ขอให้ครอบครัวของคุณอารยา งามอุษโฆษ เชื่อมั่นเลื่อมใส และหมั่นประกอบบุญกุศล ให้ทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนาเรื่อยไป เพื่อให้เทพยดาท่านมีส่วนในการอนุโมทนาบุญ ได้บุญเพิ่ม ทำให้ท่านมีกำลังใจในการคุ้มครองดูแล ให้ความร่มเย็นเป็นสุขต่อทุกคนในครอบครัวตลอดไป