เรื่องที่ ๒๑๑ ไม่รู้เป็นโรคอะไร

ต้องเข้าโรงพยาบาลเกือบทุกอาทิตย์ ด้วยอาการหายใจไม่สะดวก ท้องอืดแน่นหน้าอก แต่แพทย์ยืนยันว่า...

คุณกันจะณา ไทยตรง ภรรยาผู้ใจบุญ

คุณกันจะณา ไทยตรง สามีชื่อ คุณอโนชา อยู่พิจิตร เล่าว่า ได้เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรก วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๑ เนื่องจากสามี ทำงานอยู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.พิจิตร เจ็บป่วยมาตลอดเกือบ ๑๐ เดือน รักษาอย่างไรไม่หาย กระทั่ง ๒-๓ เดือนสุดท้าย ต้องเข้าโรงพยาบาลเกือบทุกอาทิตย์ ด้วยอาการหายใจไม่สะดวก ท้องอืดแน่นหน้าอก ในที่สุดเข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชน แพทย์ยืนยันว่าไม่พบโรคร้าย คงเป็นเพราะมีกรดเกิดในกระเพาะอาหารมาก

ในครอบครัวจึงพากันเครียดทั้งตัวคนป่วยและคุณกันจะณา นอนไม่ใคร่หลับสนิทเป็นสัปดาห์ๆ จึงคิดจะรักษาด้วยยาสมุนไพร ชุดหนึ่งราคาเป็นหมื่นบาท เมื่อโทรศัพท์บอกพี่สาวที่กรุงเทพฯ ให้ช่วยซื้อให้ พี่สาวยืนยันว่าไม่ต้องกินยา ให้มาทำบุญสร้างพระที่วัดพระธรรมกายแล้วจะหายป่วย จึงได้เล่าเรื่องให้แม่ พี่สาวน้องชาย น้องสะใภ้ฟัง และพากันมาวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๑ ได้ฟังธรรม ถวายอาหารพระที่สภาหลังคาจาก ขณะที่รับประทานอาหารกลางวัน พบคุณหมอท่านหนึ่งเล่าว่ามารดาของเขาหายจากอาการอัมพาตเพราะมาทำบุญที่วัดนี้ โรคบางอย่างเกิดจากบาปกรรม ถ้าเติมบุญให้มากเข้าไว้ กรรมจะเบาบางหรือหมดไป โรคก็จะหาย

คำพูดของคุณหมอท่านนั้น ทำให้คุณกันจะณาคิดได้ว่า ตลอดเกือบ ๑ ปีที่สามีป่วย เธอทำบุญน้อยมาก แทบจะไม่ได้ทำเลย ไม่ใช่เพราะไม่อยากจะทำ แต่หาวัดที่น่าศรัทธาทำไม่ได้ บางแห่งก็แย่งกันรับของแจก บางแห่งก็เดินกันสับสนวุ่นวายไม่เป็นระเบียบ ไปแล้วไม่มีคำสอนอะไรที่ทำให้เป็นที่พึ่งของจิตใจ จึงไม่อยากทำบุญ

วันนั้นได้ทำบุญสร้างองค์พระ ๓ องค์ เคยฝากผู้อื่นมาสร้างไว้แล้ว ๑ องค์รวมเป็น ๔ องค์

รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๑ ได้มาทำบุญที่สภาธรรมกายหลังใหม่ ได้ร่วมพิธีหล่อองค์พระด้วยทำให้คนทั้งครอบครัว รู้สึกรักวัดนี้มาก สงบ สะอาด มีระเบียบ และเงียบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทำบุญเสร็จรู้สึกมีพลังใจ ร่างกายแข็งแรงขับรถกลับพิจิตรได้
 

คุณอโนชา อยู่พิจิตร สามีของคุณกันจะณา

เมื่อถึงบ้าน สามีมีอาการดีขึ้น นอนหลับได้ ทำให้เขามีเรี่ยวแรงขึ้น อาการต่างๆ พลอยดีตามไปด้วย คุณกันจะณามาชวนญาติพี่น้องทำบุญสร้างองค์พระ รวมทั้งเพื่อนด้วยรวมเป็น ๕ องค์ภายใน ๒ วัน สามีพลอยดีใจด้วย ดูสีหน้าของเขาอิ่มเอิบ ไปโอนเงินเข้าวัดอย่างมีความสุข

วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๑ สามีเกิดป่วยมากอีกครั้ง คุณกันจะณาอ่านหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเรื่องอานุภาพการทำน้ำมนต์ เมื่อยังไม่มีพระของขวัญองค์จริง จึงนำภาพพระมหาสิริราชธาตุมาแกว่งในน้ำ สวดสรรเสริญท่าน ตั้งจิตอธิษฐานให้ท่านทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ รักษาสามีให้หายโดยเร็ว เพื่อให้ทันไปทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ

เมื่อคนป่วยได้ดื่มน้ำมนต์แล้ว อาการอืดแน่นกลับหายไปหมด รับประทานอาหารได้เป็นปกติ วันที่ ๑๐ ตุลาคม ออกจากโรงพยาบาล ๑๒.๐๐ น. พากันเข้ากรุงเทพฯ รีบมาทำบุญที่วัด ถึงวัด ๑๗.๐๐ น. ได้ทำบุญสมใจ

คุณกันจะณากล่าวตอนท้ายว่า "ไม่ทราบว่าสามีป่วย เป็นเพราะผลกรรมของดิฉันเองหรือเปล่า เพราะเมื่อก่อนยังไม่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย ดิฉันเห็นพี่สาว ๒ คน ทำบุญราว ๓ แสนบาท ดิฉันไม่เคยเห็นเพราะไม่รู้จักวัด จึงคิดไปตามที่คนอื่นซึ่งไม่เคยไปวัดคิดกัน (คือคิดทางไม่ดี) พอตอนนี้ตนเองรู้จักวัดแล้ว เข้าใจดีทุกอย่าง เต็มใจทำบุญด้วยเงินจำนวนมากๆ
ดิฉันจะไม่เขียนเล่าอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุให้ทุกคนได้ทราบ ก็เหมือนไม่สรรเสริญท่าน จึงเขียนมาค่ะบุญใดที่ดี ที่บริสุทธิ์ ในวัดพระรรมกาย ขอให้ชนะอุปสรรคภัยพาลทั้งปวงโดยง่ายเทอญ"

โรคภัยไข้เจ็บเกิดจากสาเหตุ ๔ อย่าง คือเกิดจากกรรม จิตใจ ดินฟ้าอากาศที่อยู่อาศัยและเกิดจากอาหารการกิน
สาเหตุ ๓ ประการหลัง แก้กันไปตามสมุฎฐานตามวิธีแพทย์ปัจจุบัน หรือเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการของโรค เช่นกินอาหารบางอย่าง ท้องเสีย ก็เว้นไว้ไม่บริโภค โรคเหล่านี้ก็พอรักษากันได้ แต่โรคเกิดจากรรมนั้น รักษาอย่างใดก็ไม่หาย ต้องใช้หนี้จนกรรมนั้นหมดลง จึงจะหาย หรือมิฉะนั้นหากกรรมหนักมาก อาจจะถึงตาย ตายแล้ว ยังใช้หนี้ไม่หมด กรรมก็อาจตามไปทวงต่อในภพชาติเบื้องหน้า แต่ถ้าเจ้าตัวรู้ว่าเป็นโรคเกิดจากกรรม แล้วรีบทำบุญใหญ่ให้มากๆ เข้าไว้ บุญใหญ่ๆ มีกำลังมาก สามารถตัดรอนบาปกรรมเก่าที่ทันอยู่ทำให้อ่อนกำลังจนเป็นอโหสิกรรม เลิกส่งผลได้

สามีคุณกันจะณา คงเป็นโรคเกิดจากกรรม เพราะหมอหาสาเหตุไม่พบ เมื่อทำบุญใหญ่สร้างองค์พระ กระทั่งดื่มน้ำมนต์ และใจยึดมั่นศรัทธาในพระรัตนตรัยแล้ว กรรมก็หมดกำลังส่งผล กรรมเหมือนกับสุนัขตามมากัด คนถูกกัดรีบหนีขึ้นรถยนต์ ขับไปเร็วกว่ากำลังวิ่งของสุนัข ก็ย่อมพ้นอันตราย