"หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ"
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตน และประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิด ”
ปัจฉิมโอวาท...คำสอนสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ที่แม้แต่พระราชาหรือมหาเศรษฐี นักบวช คนจน คนรวย ยาจก วนิพก ขอทาน นักค้นคิดนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ ในอดีตและปัจจุบัน ไม่ได้ฟัง ! ทำให้คิดถึง คำที่พระองค์ทรงตรัสยืนยันไว้ว่า...
" เมื่อไฟไหม้บ้าน ภาชนะเครื่องใช้อันใด ที่เจ้าของนำออกไปได้ของนั้นก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ที่นำออกไม่ได้ถูกไฟไหม้วอดวายอยู่ ณ ที่นั้นเองฉันใดเมื่อโลกนี้ถูกไฟคือความแก่ ความตายไหม้อยู่ก็ฉันนั้น คือผู้ฉลาดย่อมนำของออกด้วยการให้ทาน ของที่บุคคลให้แล้ว ชื่อว่านำออกดีแล้ว มีความสุขเป็นผล ส่วนของที่ยังไม่ได้ให้ หาเป็นเช่นนั้นไม่ โจรอาจขโมยเสียบ้าง ไฟอาจจะไหม้เสียบ้างอีกอย่างหนึ่งเมื่อความตายมาถึงเข้า บุคคลย่อมละทรัพย์สมบัติและแม้สรีระของตนไว้ นำไปไม่ได้เลย ผู้มีปัญญารู้ความจริงข้อนี้แล้ว พึงบริโภคใช้สอย พึงให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เมื่อได้ให้ ได้บริโภคตามสมควรแล้ว เป็นผู้ไม่ถูกติเตียน ย่อมเข้าสู่ฐานะอันประเสริฐ "
เสียดายคนมีบุญเก่า มีปัญญา มาเกิดเป็นนักประดิษฐ์ เป็นมหาเศรษฐีระดับโลก ราชบัณฑิตนักปราชญ์ ทั้งหลาย ไม่มีโอกาสได้ฟัง หรือได้ฟังแต่ไม่เข้าใจ หรือพึ่งเข้าใจคำสุดท้ายของพระพุทธเจ้า บนเตียงก่อนตาย เสียด๊าย เสียดาย ไม่ทันเสียแล้ว...ได้แต่นอนรำพึงว่า “เสียดาย มันสายเกินไป...” แล้วคนมีปัญญา เป็นผู้ได้โอกาส อย่างพวกเรา ทำไง กันดี นะพี่น้องนักสั่งสมบุญ นักสร้างบารมี ทั้งหลาย !!! หากยังสบายดี ไม่นอนบนเตียงคนป่วย เตียงที่แพงที่สุดในโลก ที่สตีฟจ๊อบกล่าวไว้ก่อนตายแล้ว25 พฤศจิกายน นึ้ มา ม๊ะมา มาหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ด้วยทองคำบริสุทธิ์กันดีกว่า เพื่อความไม่ประมาท ดังที่พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้ กันดีกว่านะ ท่านผู้ได้โอกาสทั้งหลาย...
17 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2558
ธรรมะริมทาง ไปที่สุดแห่งธรรม