รู้จัก หยุด หยุดและไม่หยุด
หลายคนหยุดทำงานสักหนึ่งวันก็ไม่ได้
หลายคนไม่มีเวลาพักผ่อน นอนตื่นสาย
หลายคนไม่มีเวลาอยู่ในบ้านหลังใหญ่
อย่างสบาย
หลายคนไม่มีเวลา จะใช้เงิน
แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าให้หยุดอย่างนั้น
เพราะดูเหมือนว่าจะยากเกินไป สำหรับชีวิตจ้าละหวั่น
ในสังคมเมืองใหญ่เดี๋ยวนี้
หยุดที่นี่ หมายถึงหยุดการพูดสิ่งที่ผ่านมาแล้ว หยุดการหยิบยกเอาเรื่องที่จะเป็นที่มาแห่งความฉุนเฉียว ร้อนใจ หยุดการร่ำไรอยู่กับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ หยุดคำพูดร้อนหูเอาไว้ที่ตัวของเราเอง ไม่พูดต่อไป และสำคัญที่สุด ควรที่สุดคือหยุดการวิจัย วิพากษ์วิจารณ์บุคคล เหตุการณ์ หรือการกระทำของผู้ใด
สำหรับผู้ที่ทำงานกับคนมากๆมานาน จะทราบได้ทันทีว่า การกระทำเช่นนี้ คือชนวนไปสู่การแตกร้าว การเพ่งเล็ง ปัดแข้งปัดขา การสุมหัวกันนินทา ที่ทำงานใด หน่วยงานใด บริษัทใด มีบุคคลที่ใฝ่ในการกระทำเช่นนี้อยู่ จะทำให้หน่วยงานนั้นร้อนรุ่มอยู่ตลอดเวลา เป็นที่อิดหนาระอาใจของผู้เกี่ยวข้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา และถ้าหากมีการกระทำเด่นชัดจนรู้ว่าเป็นใคร บุคคลนั้นจะถูกเจ้านายที่ทรงปัญญา เปี่ยมประสบการณ์ หาทางไขว้เขวโยกย้ายไปไว้ในหน่วยอื่นเป็นแน่
สำคัญที่สุดก็คือคนนั้นนั่นเองจะเป็นผู้ที่รุมร้อนอยู่ตลอดเวลา หาความสุขไม่ได้ ใฝ่หา เสาะหาแต่เรื่อง แต่ความผิดความไม่ดีของคนอื่นมาไว้ในใจของตน เตรียมที่จะวิจารณ์ครหา ถกปัญญา หรือเล่าต่อไปในแนวความคิดของตน หารู้ไม่ว่า นั่นเท่ากับเป็นการคีบถ่านแดงๆ มาใส่ไว้ในใจก่อนจะทันเอาไปไว้ที่ใครก็ไหม้ตัวเอง
เสียก่อนแล้ว เพราะคนที่หยิบถ่าน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ย่อมจะได้ไอร้อนก่อนใครแน่ๆ เท่ากับสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองเสียก่อนเป็นการประเดิม
นี่คือลักษณะของการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ซึ้งถึงอิทธิพลของใจ ใจที่มีพละกำลังได้ถูกทอนกำลังลงด้วย การสะสมเอาเรื่องร้อนๆไว้ เป็นการเปลืองที่ใจ แทนที่จะบรรจุความสดชื่านแจ่ใสให้เต็มอิ่ม และเมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลคนนั้นจะกลายเป็นคนร้อน ขี้หงุดหงิด มักโกรธ ขี้ระแวง เสียเวลาไปกับการจับผิดคนอื่น ทำให้โอกาสที่จะหันกลับมาพัฒนางานของตัวเองกลับน้อยลง
คงนึกภาพได้ทันทีว่า คนที่มีลักษณะเช่นนี้จะมีผลงานเป็นอย่างไร แล้วจะก้าวถึงความสำเร็จได้หรือไม่
ฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะรู้รักษาตัวรอดเสียแต่เนิ่นๆด้วยการไม่พกพา ไม่ใฝ่หาเรื่องร้อนใจ ไม่ใฝ่หาเรื่องร้อนใจ
ไม่วุ่นวายกับเรื่องของคนอื่น หยุดทุกอย่างไว้กับตัวเอง พิจารณาตัวเองเป็นเนืองนิจ หยุดทุกอย่างไว้กับตัวเอง
พิจารณาตัวเองเป็นเนืองนิจ พัฒนางานของตัวและส่วนที่เกี่ยวข้องจนเป็นนิสัย
แต่ไม่หยุดที่จะให้ ไม่หยุดที่จะโอบอ้อมอารีย์
เท่านี้เอง อีกประตูหนึ่้งสู่ความสำเร็จ คือการรู้จักหยุดและไม่หยุด แต่นั่นแหละก่อนอื่นใด จะต้องรู้จักคืนความเป็นธรรมชาติ ความสดใสให้ใจเสียก่อน ทุกอย่างดังกล่าวนี้ จึงจะเป็นไปได้โดยง่าย
จากหนังสือ กุญแจใจ