**พุทธภาษิตสอนใจ**
ชีวิตคือละคร
การดูละคร ควรย้อนดูชีวิตเราด้วย เพราะชีวิตเรา ก็เหมือนกับละครเรื่องหนึ่ง เป็นละครชีวิตจริง ที่ผู้เขียนบท ผู้กำกับแสดง และตัวละคร คือ คนเดียวกัน นั่นคือ ตัวเราเอง ละครในชีวิตจริง เป้าหมายหรือจุดจบ ไม่ใช่อยู่ที่การแต่งงาน การแต่งงาน เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เพราะชีวิตนั้น นับจากวันแต่งงาน พระเอกนางเอกในละครเรื่องนี้ ต้องเจออะไรต่อมิอะไร อีกมากมาย เจอสุข ทุกข์โศก เศร้า มีรัก มีร้าง มีจาก มีเสียใจ มีดีใจปะปนกันไป จึงเปรียบกับละครในทีวี ไม่ได้เลย
ไม่ว่าตัวละคร (ตัวเรา) ได้รับบทเป็นอะไร บทบาทการแสดงก็คือ กรรม หรือการกระทำ ในฐานะผู้แสดง จึงต้องแสดง ให้สมบทบาทที่สุด เป็นพ่อแม่ เป็นลูก เป็นสามีภรรยา เป็นนักเรียนนักศึกษา เป็นเพื่อน ก็ทำให้ดีที่สุด
ดังพุทธภาษิตที่ว่า "กัมมุนา วัตตะตี โลโก แปลว่า สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามการกระทำ ของตนเอง"
ดังนั้น ทุกคนเป็นพระเอก นางเอก ในละครชีวิตจริงทั้งนั้น จงแสดงบทบาท ที่ตนเองมีให้ดีที่สุด ก่อนที่ละครจะจบลง ดังคำประพันธ์ที่ว่า
โลกนี้เหมือนดังละคร ปวงนิกรเราท่านเกิดมา
ต่างร่ายรำทำทีท่า ตามลีลาของบทละคร
บางครั้งก็เศร้า บางคราวก็สุข บางทีก็ทุกข์ หัวอกสะท้อน
มีรัก มีร้าง มีจาก มีจร พอจบละคร ชีวิตก็ลา..จากโลกนี้ไป