เรารักพระพุทธศาสนา
การโจมตีว่าร้าย โดยเริ่มต้นที่หลวงพ่อก่อน ว่าร้ายวัดพระธรรมกายยังไม่มีปัญหา แต่ไปกระทบสังฆมณฑล ทำให้ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนคลอนแคลน มีหลายวัดจำนวนมากได้มาเล่าให้หลวงพ่อฟัง เดี๋ยวนี้พระเณรจะอดตายกันแล้ว ญาติโยมไม่ค่อยจะใส่บาตรตักบาตรกัน เพราะว่าสับสนกับสื่อที่ออกไปอย่างนี้
เพราะฉะนั้น ใครไปตักเตือนสื่อได้ ก็ให้ไปตักเตือนกัน จะด้วย
วิธีการใดก็ไปบอกเขาว่า อย่าไปทำ มันเป็นบาปกรรม เป็นสิ่งที่ไม่ดี
พลอยทำ ให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เอาเฉพาะหลวงพ่อธัมมชโยเดือดร้อน
รูปเดียวก็พอแล้ว อย่าไปทำ ให้คนอื่นเดือดร้อน
ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนากันนะ แล้วก็วิชชาธรรมกาย ซึ่งเป็นวิชชาหรือเป็นวิธีการที่จะให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว นี่เป็นเป้าหลัก เป้าหมายที่จะสอนให้ทุกคนเข้าถึงวิชชาธรรมกาย ถึงพระธรรมกายในตัว เพราะถ้าเข้าถึงได้แล้ว จะมีความสุขมาก มีความเบิกบาน มีกำลังใจในการสร้างความดีเกิดขึ้นมากมาย จะเป็นคนดีในสังคม คนดีที่โลกต้องการ จะทำ ให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นช่วยกันปกป้องวิชชาธรรมกาย
ย้ำอีกที ความตั้งใจหลวงพ่อมีเพียงประการเดียว คือมุ่งที่จะแนะนำ สั่งสอนให้ชาวโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย ถ้าเขาเข้าถึงแล้ว
เราจะมีความสุข มีปีติ ตัวเขาก็มีความสุข เราก็มีความสุข มีเพียงแค่นี้เอง
ที่สร้างอะไรขึ้นมาใหญ่โตก็เพื่อรองรับมหาชนที่เขามากันมากมาย มาศึกษาวิชชาธรรมกาย มาปฏิบัติธรรม ไม่ได้มาทำ ความชั่วเลย ทำ เพื่อการนี้เท่านั้น ไม่ใช่เพื่ออยากเด่นอยากดัง อยากเป็นใหญ่เป็นโต เป็นศูนย์อำ นาจ ไม่เคยคิดเรื่องกะโหลกกะลาเหล่านี้ ไม่ได้สนใจเลย ถ้าสนใจ
สิ่งเหล่านี้ก็ไม่มาบวช บวชมาก็มุ่งอย่างนี้อย่างเดียว เพราะฉะนั้นไปบอกกันนะ ใครเข้าใจไม่ถูกต้อง ก็ให้เขาเข้าใจให้ถูกต้อง
ปัจจุบันนี้หลวงพ่อไม่ได้อดทนอะไรเลย ไม่ได้มีความรู้สึกอะไร เพราะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการให้มันเป็นไปยังไง เราเข้าใจเขาเสียแล้ว
ใจเราก็สบาย มีปีติเบิกบานในคุณงามความดีที่ทำกันผ่านมา และที่กำลังจะทำกันต่อไป ไม่ว่าจะบีบบังคับหลวงพ่อไปอยู่ตรงไหน หลวงพ่อก็ยัง
ต้องทำความดีต่อไป เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่จะต้องช่วยตัวเองให้พ้นจากบ่าวจากทาสของพญามาร
คู่ต่อสู้ของหลวงพ่อก็คือ เวลากับพญามารเท่านั้น เพราะหลวงพ่อต้องแข่งกับเวลา ต้องเอาชนะพญามารในตัว คือกิเลส
ในใจยังมีอยู่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ต่อสู้กันอยู่ทุกวันเลย
ไม่ได้คิดไปสู้ใคร
เพราะฉะนั้น จะไปว่าร้ายใคร หลวงพ่อก็ทำไม่เป็น ไม่ได้ถูกฝึกฝนมาอย่างนั้น ใจมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น จะไปจ้วงจาบใคร จะไปว่าร้ายใคร มันทำไม่เป็น พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงสอนว่า อนูปวาโท ไม่ว่าร้ายใคร ก็ทำ
มาตลอด ทำไปตามประสาอย่างนั้นแหละ
๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
จากหนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่่ 2