ในสังคมเรานั้นมีคนอยู่หลากหลายประเภทจริงๆ มีทั้งคนโง่ที่อวดฉลาด คนฉลาดที่แกล้งโง่ และ คนที่วางตัวเก่ง บางคนก็น่ารู้จัก น่าคบหาด้วย แต่บางคนก็ไม่มีใครอยากคบหาด้วย และ บ่อยครั้งที่พวกเขาไม่รู้ตัวเองว่านิสัยส่วนตัว ทำให้คนรอบข้างต้องเบื่อหน่าย คนเหล่านี้มักถูกเรียกว่าเป็น “คนโง่ชอบอวดฉลาด” ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า “คนโง่” แตกต่างจาก “คนฉลาด” อยู่ 5 อย่างหลักๆดังนี้
เวลาที่รู้สึกว่าอะไรไม่เป็นไปอย่างที่คิด อาจเพราะกลัวเสียหน้า กลัวดูไม่ฉลาด พวกเขาจะแสดงอาการโมโหและก้าวร้าวเพื่อเป็นการกลบเกลื่อน ซึ่งจากการศึกษาเรื่องพฤติกรรมก้าวร้าวกับระดับไอคิวพบว่ามีความสัมพันธ์กัน โดยคนที่มีระดับความฉลาดน้อยจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากกว่า
คนเหล่านี้ไม่ชอบรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ และ มักโยนความผิดให้ผู้อื่น ซึ่งผลการศึกษาด้านประสาทวิทยา พบว่า เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น สมองของคนฉลาดจะมีปฏิกิริยาที่ต่างออกไป เพราะพวกเขารู้ว่าความผิดพลาดทุกอย่าง จะเป็นบทเรียนให้ได้เรียนรู้เพื่อไม่ทำผิดซ้ำสอง แต่คนที่ไม่ฉลาดนั้น จะมักโยนความผิดให้คนอื่น และ ไม่ได้เรียนรู็อะไรจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น หนำซ้ำ ยังทำผิดเรื่องเดิมๆได้เรื่อยๆ และ โยนความผิดให้คนอื่นได้เรื่อยๆ
ในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้ง คนเหล่านี้จะเถียงอย่างหนัก เพื่อให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ และ แทบจะไม่สนเลยว่าในวงสนทนานั้นจะมีคนที่ฉลาดกว่าตัวเองอยู่ด้วยหรือไม่ ไม่ยอมเปิดรับฟังองค์ความรู้ใหม่ๆ แบบนี้ใครจะแนะนำอะไรก็ต้องลำบากใจหน่อยนะ เพราะคนเหล่านี้มักจะฟังแค่ความคิดของตัวเอง ขณะที่คนฉลาดจะเข้าใจ และ พร้อมยอมรับฟังพิจารณาเรื่องทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจหรือพูดอะไรออกไป
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูง มีแนวโน้มที่จะเข้าใจ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และ หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ใครโดยไม่หวังผลตอบแทน ต่างจากคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำแทบมองไม่เห็นหัวคนอื่นเลย อีกทั้งยังมองด้วยว่าการทำอะไรให้ใครโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมาถือเป็นเรื่องแปลก
พวกที่ชอบวิจารณ์ หรือ ติคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดีกว่า เพราะพวกเขาเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่า และ มักเป็นพวกชอบตัดสินคนอื่นไปก่อน โดยมีความลำเอียง(ที่เข้าข้างตนเอง)เป็นที่ตั้ง หรืออีกมุมหนึ่งคือ คิดว่าการกดคนอื่นให้ต่ำลงนั้น คิดว่าเป็นการทำให้ตัวเองดูสูงขึ้น
หากในชีวิตเราต้องเจอคนจำพวกนี้ และ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้ดูไว้เป็นบทเรียนชีวิต นิสัยของคนโง่ที่คนฉลาดเขาไม่ทำกัน และ มองเขาด้วยความเมตตา จะช่วยให้เข้าใจและรู้สึกเห็นใจคนเหล่านี้ได้มากขึ้น
ที่มา : shorturl.at/ctNUZ