มุมอง .. คนมองโลกในแง่ร้าย
คนมองโลกในแง่ดี
และคนใช้ปัญญามองโลก
เรื่องมีอยู่ว่า...
เด็กคนหนึ่งถูกแม่ใช้ไปตักน้ำที่ริมธาร
ระหว่างทางกลับบ้านเขาสะดุดหินหกล้ม
จนน้ำหายไปกว่าครึ่งถัง
เขาเสียใจอย่างมากเพราะใกล้จะถึงบ้านอยู่แล้ว
เขาหยิบหินก้อนนั้นและขว้างออกไปด้วยโทสะ
พอมาถึงบ้านและเจอแม่
เขาก็สาปแช่งหินก่อนนั้นให้แม่ฟัง
และบอกกับแม่ว่าสงสัยช่วงนี้ดวงจะตกทำอะไรเลยติดขัดไปหมด
และเด็กอีกคนหนึ่งถูกแม่ใช้ไปตักน้ำที่ริมธาร
ระหว่างทางกลับบ้านเขาสะดุดหินหกล้ม
จนน้ำหายไปกว่าครึ่งถัง
เขาไม่เสียใจแม้แต่น้อยและพูดกับตัวเองว่า
“น้ำยังเหลืออีกตั้งครึ่งถังแม่ไม่ว่าเราหรอก”
เขาเดินต่อไปจนถึงบ้านด้วยความยิ้มแย้ม
พอเจอแม่เขาเล่าให้ฟังด้วยจิตใจที่เป็นปกติ
และเด็กอีกคนหนึ่งถูกแม่ใช้ไปตักน้ำที่ริมธาร
ระหว่างทางกลับบ้านเขาสะดุดหินหกล้ม
จนน้ำหายไปกว่าครึ่งถัง
เขาไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยและรีบกลับไปตักน้ำเพิ่มทันที
แต่ก่อนที่เขาจะก้าวเดินเขานำหินก้อนนั้นออกจากทางเท้า
เพื่อไม่ให้คนอื่นเดินมาสะดุดเช่นเขา
จากนั้นเขาก็ใช้เวลาครู่หนึ่งมองทางทั้งระยะไกลและใกล้
เพื่อสำรวจเท่าที่จะมองเห็น
ระหว่างทางที่กลับเขาเดินอย่างมีสติมาก
ทั้งดูเส้นทางและควบคุมการถือถังน้ำอย่างดี
พอไปถึงบ้านเขาก็ยื่นน้ำเต็มถังให้กับแม่พร้อมกับรอยยิ้ม
*คนมองโลกในแง่ร้ายมักหาเหตุให้ตนรู้สึกแย่
**คนฉลาดมักหาเหตุให้ตนรู้สึกดี
***คนมีปัญญามักหาเหตุของความผิดพลาดและสร้างเหตุแห่งความสำเร็จขึ้นมา
Cr.N/a
