ด้วยผลสำรวจที่น่าตกใจ พบว่า คนไทยกว่า 33 ล้าน นิยม “ดื่มเหล้า”.เสริมการขาย บริการรุกส่งให้ถึงบ้าน…”จากการสำรวจของ 5 มหาวิทยาลัยดัง เมื่อ วันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมานั้น น.ส.อาภา ศิริวงศ์ ณ อยุธยา สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะกรรรมการบริหารเครือข่ายวิชาการเสพติด ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ร่วมกันสำรวจถึงพฤติกรรมผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายใต้โครงการ “ศึกษาเพื่อประมาณการจำนวนผู้เกี่ยวข้องกับสารเสพติดในประเทศไทย” ในปี พ.ศ.2544 และ พ.ศ.2546
ด้วยวิธีการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งชาย-หญิง อายุ 12-65 ปี จากครัวเรือน 40 จังหวัดทั่วประเทศ ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 8 ชนิด คือ1.น้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์ 2.ไวน์ / ไวน์ชาวบ้าน 3.เบียร์ 4.เหล้าแดง 5.เหล้าขาว (35-40 ดีกรี) 6.เหล้าจีน / เซี่ยงชุน / เหมาไถ 7.ยาดอง และ 8. อุ / กระแช่ / น้ำตาลเมาซึ่งผลการสำรวจที่ในปี 2544 พบว่า ในปี 2544 มีผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึง 33 ล้านคน หรือร้อยละ 73 จำแนกเป็น 1.ดื่มเบียร์ 29 ล้านคน 2.ดื่มเหล้าแดง 20 ล้านคน 3.ดื่มเหล้าขาว 18 ล้านคน 4.ดื่มอุ / กระแช่ / สาโท 15.7 ล้านคน 5.ดื่มไวน์ สปาย 14.6 ล้านคน 6. ดื่มยาดอง / เหล้าดอง 14.4 ล้านคน 7. ดื่มเหล้าจีน 5.6 ล้านคน และ 8.ดื่มน้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์ 4.4 ล้านคน
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรอบ 30 วัน พบว่าในปี 2544 มี 18.6 ล้านคน ปี 2546 มี 15.8 ล้านคน ส่วนผู้ที่ดื่มเป็นประจำคือในช่วงเวลา 1 เดือน ดื่มถึง 20 วัน ในปี 2544 มี 8.4 ล้านคน ปี 2546 มี 11.9 ล้านคนชี้ งานวิจัยแสดงให้เห็นชัดเจนว่าแม้ตัวเลขผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาพรวมจะลดลง กลับมีปริมาณผู้ที่ดื่มเป็นประจำเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง โดยนิยมดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ แต่มีราคาแพงนอกจากนี้ ประธานชมรมพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย นางจรรยาวัฒน์ ทับจันทร์ กล่าวถึงงานวิจัย “การเปลี่ยนแปลงของวิถีชุมชนในการดื่มสุรา : กรณีศึกษาชุมชนระดับตำบล”ว่าจากการวิจัยพฤติกรรมการดื่มสุราของชุมชนในพื้นที่หนึ่งของจังหวัดภาคเหนือ พบว่า กลุ่มผู้ชายไม่ได้ดื่มเฉพาะในเทศกาลงานบุญ หรือใช้สร้างสัมพันธภาพ แต่จะดื่มได้ในทุกโอกาส เช่น ดื่มภายในครอบครัว ดื่มเพื่อแก้ปวดเมื่อย บำบัดโรค เพื่อความสนุกสนานเฮฮา ทำให้เกิดความกล้าในการแสดงออก ขณะที่ผู้หญิงเริ่มมีแนวโน้มการดื่มสุรามากขึ้น ทั้งในเมืองและในระดับชุมชนเพราะคิดว่าเป็นความเท่าเทียมกันทางสังคม
สำหรับในกลุ่มเยาวชนพบว่ามีการดื่มสุรากันอย่างเปิดเผยมากขึ้น อันมาจากการเลียนแบบผู้ใหญ่ โดยเฉพาะมีบางครอบครัวให้การสนับสนุน ที่เปิดโอกาสให้เด็กดื่มเหล้าร่วมกับพ่อแม่และผู้ใหญ่ในบ้าน และจัดกิจกรรมทางสังคมให้กับลูกด้วยเช่น งานวันเกิดเนื่องจากมีความคิดที่ว่า ดีกว่าให้ลูกขับรถไปเมาข้างนอกแล้วเกิดอุบัติเหตุนอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าตกใจที่ว่า อายุเฉลี่ยที่เริ่มดื่มก็น้องลงจากเดิมที่เริ่มดื่มเมื่ออายุ 11-12 ปี แต่จากการสำรวจในครั้งนี้การเริ่มดื่มลดเหลือแค่เพียง 4 ขวบ ก็ดื่มเหล้ากันแล้ว และเมื่อสอบถามลึกลงไปพบว่าเกิดจากการลองดื่มเหล้าที่เหลือก้นแก้ว เลยเริ่มดื่มมาถึงปัจจุบัน นั่นเองประธานชมรมพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทยยังกล่าวถึงว่า ในชุมชนนิยมนั่งดื่มสุรากันตามเขื่อน ร้านอาหาร ร้านเหล้า ซึ่งบางกลุ่มติดเหล้ามาก ดื่มไม่เลือกเวลากันเลยทีเดียว จนชาวบ้านเรียกว่า “กลุ่มเหล้าหวาน” เพราะดื่มเหล้าแทนน้ำ แม้จะไม่มีเงินจ่ายสดก็ใช้วิธีเชื่อไว้ก่อน นอกจากนี้ในรูปแบบการจำหน่ายสุรา ยังมีให้บริหารทั้งแบบสั่งซื้อทางโทรศัพท์ มีบริการส่งถึงที่ รวมไปถึงจัดแบ่งขายให้ตามปริมาณที่ผู้ซื้อต้องการอีกด้วย
ทางด้าน น.พ.ทวีศักดิ์ นพเกษร นักวิจัยอิสระ กล่าวถึงว่า ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะมีประกาศกฎหมายห้ามจำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ความเป็นจริงทางสังคมกลับพบว่า ไม่สามารถลดการดื่มสุราในกลุ่มเยาวชนได้ เนื่องจากรู้จักวิธีการหลบเลี่ยง ด้วยการใช้ผู้ใหญ่กว่าไปซื้อเหล้าแทน เช่น เด็ก ม.3 ให้รุ่นพี่ ม.6 ไปซื้อ หรือบางครั้งผู้ขายมีวิธีการขายที่เลี่ยงกฎหมาย โดยแอบขายให้ทางหลังร้านอีกด้วยสรุปคือพบว่ามีจำนวนคนไทยกว่าครึ่งประเทศทีเดียว นิยมดื่มเหล้ากันจนเป็นเรื่องปกติ โดยมีพฤติกรรมดื่มอย่างต่อเนื่องกว่า 8.4 ล้านคน ขณะที่พบว่าเด็กเริ่มดื่มกันตั้งแต่ระดับอนุบาล ด้วยเหตุได้พฤติกรรมจากมีพ่อ-แม่ (ปู) เป็นต้นแบบ ทางด้านนักวิชาการติงที่พบกฎหมายห้ามขายเหล้าแก่เด็กนั้น เป็นสิ่งที่ไร้ผลเพราะเด็กรู้วิธีเลี่ยงกฎหมายไปได้ ด้วยวิธีการดังกล่าวข้างต้น
หากวิถีแห่ง “แอลกอฮอล์”มีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้เช่นนี้ คนไทย - สังคมไทย ทิศทางจะเป็นไปกันอย่างไร ?
- ทางออกที่น่าสนใจ จากการชี้โทษภัย และแนะนำสิ่งที่เป็นการปกป้องสังคมดี ๆ ให้ยังคงอยู่ต่อไปได้นั้น อาทิ ดร.สังคม - ([email protected]) อ้างอิงข้อมูลจาก:เครือข่ายองค์กรงดเหล้าhttp://www.stopdrink.com/ ที่ว่าจากพิษร้ายของเครื่องดื่มมึนเมา ที่ส่งผลเสียอย่างมากมาย ทั้งต่อสุขภาพ ครอบครัว ทรัพย์สิน ความขาดสตินำอุบัติเหตุมาสู่ตนเอง หรือเหยื่อบริสุทธิ์อื่น ๆ ที่ผ่านเข้ามาในขณะนั้นฤทธิ์ของเหล้า-เบียร์ ทำให้ ผู้ดื่มประมาท กระทำในสิ่งที่ผิดมากมาย ได้แก่
1. ก่อให้เกิดความประมาท เป็นตัวการทำให้เกิดอุบัติเหตุ
2. ไร้สติ-ขาดความยั้งคิด ก่อการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย
3. สร้างความทุกข์ให้ผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใกล้ชิด เช่น พ่อแม่ บุตร ภรรยา (สามี) ตนเองก็เศร้าหมอง หมดศักดิ์ศรี ขาดความนับถือและความมั่นคงทางจิตใจ
4. เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย สถิติค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเหล้าวันละ 80 บาทต่อวัน เท่ากับค่าของข้าว 1 วัน สำหรับครอบครัวเล็กๆ และเท่ากับค่าการศึกษาของลูก 1 คน
5. บั่นทอนสุขภาพ โดยรวม สังขารร่างกายควรนำไปเป็นประโยชน์ แต่ต้องถูกแอลกอฮอล์ในเหล้ามาทำลายอวัยวะทุกส่วนไปเสีย ตั้งแต่ สมอง กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ไต หัวใจ จนถึงอวัยวะเพศ ฯลฯต้องเลือกปรับตัว-เปลี่ยนใจ หลีกเลี่ยงเสียซึ่งอบายมุขจากสุรา-เบียร์ ด้วยการทบทวนถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น
เมื่อรู้ว่าแอลกอฮอล์มีผลเสียก็ไม่ควรไปดื่มอีก สำหรับคนที่ต้องการหักดิบเลิกเหล้า-เบียร์ ให้ปฎิบัติ ดังนี้
- ทบทวนตัวเองทุกวันถึงส่วนดีและส่วนเสียของเหล้า
- ระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เทียบเคียงกับชีวิตที่ดื่มเหล้าและไม่ดื่มเหล้า
- หันมองหน้าลูกเมีย หรือผู้ที่ท่านรัก เคารพ และคำนึงถึงคำแนะนำของบุคคลเหล่านั้น
- นึกถึงภารกิจที่ท่านมีต่อครอบครัว และอนาคตของท่านเอง
- ตัดสินใจเสียวันนี้ว่าจะดื่มต่อไปหรือจะหยุด
- ถ้าจะดื่มต่อไป คิดว่าจะลด ละ เลิกเมื่อใด หรือจะตายไปกับเหล้า
- ถ้าจะหยุด คิดว่าจะทำอย่างไรดี ทำใจเข้มแข็ง สัญญากับผู้ที่ท่านรักว่าจะเลิกดื่ม
- การเลิกเหล้ามี 3 วิธี การใช้พฤติกรรมกลุ่ม ,การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า และการใช้ยา มีสถานบริการทั่วไปทุกโรงพยาบาลของรัฐ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของที่ปรึกษาด้านอดเหล้าอย่างเคร่งครัด
- วางตัวให้ห่างจากขวดเหล้า และห่างจากเพื่อนกินเหล้า หันมาคบกับเพื่อนกลุ่มที่สนใจกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น กีฬา ดนตรี สิ่งดีๆที่ท่านชอบ สิ่งที่ทำให้ท่านหลุดพ้นจากอิทธิพลของเหล้าปฏิบัติเพียงเท่านี้ ทุกท่านก็จะพ้นจากการครอบงำของน้ำเมาได้อย่างสิ้นเชิง รวมทั้ง ..ร่วมยืนยันเพื่อคัดค้าน การนำน้ำเมาเข้าตลาดหุ้นโดยเด็ดขาด ณ เวลานี้
สุมินต์ตรา