คำพ่อ คำแม่
ตอน ความมีน้ำใจ
ลูกรัก..
เคยบอกลูกมาบ้างแล้วว่าคนเราเมื่อจะไปอยู่ที่ไหนจะอยู่กับใครก็ตาม ขอให้เป็นคนมีน้ำใจเข้าไว้ ขาดอะไรก็ขาดได้ไม่มีใครตำหนิ แต่อย่าขาดน้ำใจเป็นใช้ได้ อย่าเป็นคนแล้งน้ำใจ อย่าใจแคบ คิดเอาแต่ได้ ไม่คิดถึงอกใคร ช่วยเหลือใครไม่ได้ คนเราหากเป็นคนแล้งน้ำใจแล้วก็ไม่มีใครอยากจะมาอยู่หรือมาคบหาแบบจริงใจด้วย ที่เขาทนอยู่ก็เพราะไม่มีทางไปเท่านั้น เหมือนแผ่นดินที่แล้งน้ำ ผู้คน สัตว์ พืช และต้นไม้ก็ไม่อยากอยู่ไม่อยากเกิดบริเวณนั้น แต่จะหลบไปอยู่อาศัยกันบนแผ่นดินที่มีน้ำสมบูรณ์ ส่วนคนที่มีน้ำใจจะมีผู้คนมาพึ่งพาอาศัยอยู่ อยู่แล้วก็ไม่อยากจาก แม้ว่าบางครั้งจะอยู่อย่างคับแคบก็ตาม
ลูกรู้อย่างนี้แล้ว ควรพยามทำตัวให้เป็นคนมีน้ำใจเข้าไว้ ยิ่งคนใกล้ชิด คนที่เราต้องพึ่งพา อาศัยเขาช่วยทำการทำงาน เช่น เป็นลูกจ้างหรือลูกน้อง ยิ่งต้องมีน้ำใจต่อเขาให้มาก หากเขาลำบากเดือดร้อนอะไรก็ช่วยเหลือกันไปเท่าที่จะช่วยได้ ใครทำดีทำประโยชน์ให้เรา ก็อย่าลืมบุญคุณของเขา ทดแทนคุณเขา ให้รางวัล ให้กำลังใจเขา อย่างน้อยก็พูดชมเชยเขาให้เขาได้ชื่นใจสักนิดก็ยังดี
การเอื้อเฟื้อเขาด้วยน้ำใจนี่แหละลูกจะเป็นมนต์วิเศษที่ดึงดูดให้เขาติดใจรักใคร่เรา อ่อนน้อมต่อเรา ความมีน้ำใจเป็นสิ่งวิเศษนักลูกเอ๋ย คนเราแม้รูปร่างจะไม่หล่อไม่สวยก็มีเสน่ห์ได้ด้วยความมีน้ำใจ ตรงกันข้าม แม้จะหล่อหรือสวยอย่างไร หากแล้งน้ำใจเสียแล้ว ก็ทำให้หมดเสน่ห์ลงไปมากทีเดียว คนโบราณท่านจึงบอกไว้ว่า “มีน้ำใจเป็นเสน่ห์ แล้งน้ำใจเป็นเสนียด”
พระมหาโพธิวงศาจารย์
(ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต)