คำพ่อ คำเเม่
ตอน เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
ลูกรัก...
ลูกคงจะเคยได้ยินคำว่า “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” มาบ้าง คำนี้มาจากตำนานทางพระพุทธศาสนา ความเดิมมีว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งขออนุญาตแม่ไปค้าขายทางทะเล แม่ไม่อนุญาต เพราะเห็นว่าทะเลมีอันตรายจึงห้ามปราม เขาไม่พอใจจนถึงผลักแม่ล้มกระเด็นไปแล้วก็ออกเดินทาง ต่อมาเรือที่เขาโดยสารไปนั้น
เกิดอับปางลง เขาว่ายน้ำไปจนถึงเกาะแห่งหนึ่ง เกาะแห่งนั้น เป็นเกาะนรก เป็นสถานที่ลงโทษคนที่ทุบตีพ่อแม่ สัตว์นรกบนเกาะนั้นจะถูกกงจักรหมุนบดศีรษะได้รับความเจ็บปวดทรมานอยู่ตลอดเวลา ตายแล้วก็เกิดใหม่เรื่อยไป
ชายผู้นั้นเห็นกงจักรนั้นเป็นดอกบัวที่สวยงามไปด้วย บาปกรรมที่ทำร้ายแม่ จึงเข้าไปขอกงจักรจากสัตว์นรกผู้หนึ่ง สัตว์นรกนั้นคิดว่าคนผู้นี้คงจะทุบตีพ่อแม่มาเหมือนตนจึงได้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปและจะมารับโทษต่อจากตน จึงยกกงจักรให้ เขาถูกกงจักรบดศีรษะ จึงรู้ว่าเป็นกงจักร แต่ก็สายเสียแล้ว
คนไทยเรารู้เรื่องนี้ดีจึงสั่งสอนกันมาแต่โบราณว่า “อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว” คือ อย่าเป็นคนดื้อรั้น ถือแต่ความเห็นของตัว ใครว่าใครสอนไม่ฟังแม้ผู้สอนจะเป็นพ่อเป็นแม่ อย่าเป็นคนเห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี เห็นผิดเป็นถูก คนที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวนั้นจะเห็นผิดแผกไปจากคนดีทั่วไป คนทั่วไปเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ดี ไม่ถูก เป็นเรื่องเสียหาย แต่เขากลับเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งดี เป็นเรื่องถูก ไม่เสียหายอะไร ความเห็นของคน
ทั่วไปไม่ถูก แล้วก็หลงตัวไปทำเข้า กว่าจะรู้ว่าตัวเองเห็นผิดก็มักจะสาย แก้ตัวไม่ได้แล้ว คำโบราณคำนี้มีค่ายิ่งนักแล้วลูกเอ่ย
พระมหาโพธิวงศาจารย์
(ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต)