ชีวิตต้องสู้ ของสุนัขข้างถนน
ถ้าคุณอยากจะดูชีวิตต้องสู้ของใครสักคนหนึ่งผมขอ แนะนำว่า คุณไม่จำเป็นต้องไปดูที่ไหนไกล เพียงก้าวเข้าไปโนโรงอาหารของมหาวิทยาลัยเท่านั้น เราก็จะเห็นเจ้าของชีวิตต้องสู้ ทั้งหูตั้ง หูตูบ ทั้งสี่ขา สามขา ทั้งขาดี ขาเป๋ ทั้งหางงอ หางกุด หางชี้ และหางจุก(ตู)ด ซึ่งแม้เขาเหล่านั้น จะค่อนข้าง หลากหลายบุคลิกลักษณะ แต่ว่าล้วนมาจากพันธุ์ โรดไซด์ (Road Side) หรือพันธุ์ข้างถนนเสมอก้น
สมัยตอนที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัย ผมเองก็ ผูกพันอยู่กับเจ้าสุนัขพันธุ์โรดไซด์หลายตัว จำได้ว่า บางวัน เวลาผมกับ เพื่อนๆ เดินไปไหนมาไหน ก็จะมีเจ้าพวกนี้ เดินตามไปด้วยอีก ๒-๓ ตัว เวลามีอะไรอร่อยๆ ผมก็จะแบ่งให้มันกินบ้าง แม้ว่าเงินผมจะแค่พอมี พอกินก็ตาม แต่ก็แบ่งให้กินในฐานะที่มันเองก็หิวข้าวเป็นเหมือนกับผม
ผมเองก็ไม่รู้ว่า ใครบ้างที่เป็นเจ้าของ แต่ด้วยรูปพรรณสัณฐาน ของพวกมันแล้ว ผมพอเดาได้ว่า มันต้องเคยมีเจ้าของ ตอนที่มันยังสวยๆ อยู่ เจ้าของก็รักมัน แต่พอมันมีขี้เรื้อนขึ้น เพราะเจ้าของไม่อาบนํ้า ทำความสะอาดให้มัน ก็พามันไปทิ้ง ให้เผชิญชะตากรรมเอาเอง ผมเห็น แล้วก็สะท้านใจ
แม้ว่า ผมเองจะไม่ใช่เจ้าของโดยตรงก็ตาม แต่เพราะเห็นแก่ ความเป็นเพื่อนร่วมโลก ก็ถ้าเจอกันเมื่อไร แล้วมีอะไรแบ่งให้กินได้ ก็ให้ กินไป ถ้าไม่มี ก็อดไป เพราะจะให้ไปรับผิดชอบพวกมัน ผมก็คงทำไม่ไหว หรือไม่ก็เจ้าบางตัวโชคดีที่เพื่อนๆ ของผม ซึ่งเรียนสาขาสัตวบาลมาเจอเข้า กลัวว่ามันจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ก็พากลับไปฉีดวัคซีนที่คลินิกสัตวแพทย์ฝึกหัด พอฉีดวัคซีนเสร็จ ก็จับลงทะเบียนเป็นสมาชิกที่นั่นไปเลย
สำหรับลีลาอ้อนขออาหารของเจ้าพวกโรดไซด์ตามโรงอาหาร แต่ละท่านคงทราบแก่ใจดีว่า มันอ้อนขนาดไหน มันรู้จักวิธีที่จะเกริ่น ก่อนจะเข้ามารู้จักกับเราเสียด้วย
ตั้งแต่ยกขาหน้าสะกิดสะเกา ถ้าไม่ได้ผลก็เอาคางมาหนุนตัก พอ เราหันมามอง มันก็ตีหน้าเศร้า แล้วก็เหมือนจะเล่าให้ฟังด้วยแววตาว่า "อร่อยไหมครับพี่ แบ่งให้ผมกินบ้างสิครับ ผมหิ๊ว หิว"
แน่นอนล่ะครับ พวกมันจะต้องเลือกหน้าตาท่าทางมาแล้วว่า ทำหน้าแบบไหน เขาจึงจะสงสารให้มันกิน แต่พอให้มันกินไปแล้ว บางตัว
ดัวยความที่ผมและเพื่อนๆ แบ่งอาหารให้มัน
กินอยู่บ่อยๆ ก็เลยทำให้พวกมันไว้ใจ พอ
เดินไปไหน เจ้าพวกนี้มันจะเดินตามไปส่งด้วย
สักระยะหนึ่ง เมื่อสุดเขตแดนของมันแล้ว ก็จะ
เดินกลับไป ก่อนที่หมาเจ้าถิ่นแถวนั้น จะมา
ราวีกับพวกมัน
มันก็เรียบร้อย ลงไปนอนคอยเลยล่ะคร้บ แต่บางตัวมันก็แสบ พอให้ มันกินไปแล้ว มันจะกินอีก แล้วเราไม่ให้ มันก็เห่าโวยวายลั่นโรงอาหาร ทำเอาเราได้เกิดเป็นดาราใหม่กลางโรงอาหารไปเลย
วันต่อมา ดูเหมือนว่าไฟแค้นของดาราจำเป็นเมื่อวานจะยังไม่สงบ ศัตรูในคาบมิตรของมัน ก็ออกปากเรียก แน่นอน วันนี้พวกมันต้องรู้สึก ว่า พิเศษจริงๆ รีบวิ่งมากันใหญ่ มาเสนอหน้ากันให้สลอน และแล้ว เวลาแห่งการสร้างเวรก็มาถึง ลูกชิ้นปิงปองชุบพริกป่นจนเป็นสีแดงเข้ม ถูกดึงออกมาจากไม้เสียบ แล้วโยนให้มันกินทันที
ด้วยความรีบร้อนที่กลัวตัวอื่นจะมาแย่ง มันเลยกินลูกชิ้นชุบ พริกปนเสียเต็มคำ พอรสพริกออกฤทธิ์ มันร้องเอ๋งมาคำแล้วก็วิ่งพล่านอ้าปากนํ้าลายเยิ้มไปตลอดทาง ผมเห็นแล้ว ก็ได้แต่ส่ายหัว
แต่นึกว่าจะเข็ด เดี๋ยวพอหายเผ็ด มันวิ่งกลับมาอีก คือยังไม่เชื่อว่า เมื่อตะกี้นี้ คือการแก้แค้น
น่าเห็นใจสุนัขละครับ ก็ท้องมันหิว ก็ต้องหาอาหาร จะใหังอมือ งอเท้าแล้วมีกิน ก็คงเป็นไปไม่ได้ ไม่ง้อเขา มันก็ไม่มีกิน ไปง้อ ไปอ้อน เขาแล้ว เขาไม่ให้ ก็สารพัดจะหาวิธีทำให้เขาเห็นใจ ถ้าเขาไม่เห็นใจ ก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากเห่า โฮ่งๆ วันไหนโชคดี พอไปเห่าโวยวายอย่าง นี้เข้า คนเขารำคาญ เขาก็รีบๆ กินให้เสร็จแล้วก็ลุกหนีไป หรือไม่ก็ย้าย ที่นั่งหนีมันไป
แต่ถ้าวันไหนโชคร้าย เห็นเขาลุกขึ้นมาหา ก็นึกว่าจะเอาอาหารมา ให้กิน ที่ไหนได้ กลับให้แข้งเข้าไปเต็มชายโครง เสียงดังพลั่ก ตัวมันล่ะ เซตามแข้ง ท้องไส้จุก หางตกวูบ ขาอ่อนยวบ นอนกองกับพื้น ร้อง เอ๋ง เอ๋ง เอ๋ง ถ้าเป็นคน มันก็คงจะร้องว่า "โอ๊ยๆๆๆ นอกจากไม่ให้กินแล้ว ยังเตะผมอีก" วันไหน ถ้าเจอแบบนี้ ถือว่าเป็นวันโชคร้ายครับ
ด้วยความที่ผมและเพื่อนๆ แบ่งอาหารให้มันกินอยู่บ่อยๆ ก็เลย ทำ ให้พวกมันไว้ใจ พอเดินไปไหน เจ้าพวกนี้มันจะเดินตามไปส่งด้วยสัก ระยะหนึ่ง เมื่อสุดเขตแดนของมันแล้ว ก็จะเดินกลับไป ก่อนที่หมาเจ้า ถิ่นแถวนั้น จะมาราวีกับพวกมัน
แน่นอนล่ะ เมื่อสนิทกับเจ้าพวกนี้มากเข้า วันหนึ่ง เมื่อมันไปมีเรื่อง กับหมาอีกฝูงหนึ่ง จะด้วยสาเหตุอะไร ผมก็ไม่ทราบได้ มันก็กลับมา ตามผมไปด้วย มันมายืนทำฟึดฟัด ฮึดฮัด หายใจแรง แลัวก็ห้นหน้าไป ทางอริ คล้ายๆ จะบอกผมว่า "ลูกพี่ เจ้าพวกนั้นข้ามถิ่นเรามาแล้ว จะ เอายังไงกับมันดีครับ ลูกพี่" เป็นอันว่า มันยกการตัดสินใจให้ผมเสียแล้ว ผมเลยกลายเป็นหัวหน้าแก๊งสุนัขโดยจำเป็น
พอผมเข้าใจในสิ่งที่มันพยายามสื่อสารแล้วก็เดินนำหน้าฝูงสุนัขไป ส่วนพวกมันที่อยู่ขางหลัง ก็ทำ ฮึด ฮัด ฟึดฟัด เป็นสัญญาณบอกให้พวก ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่า "เฮ้ย พวกข้ามาแล้วโว้ย เอ็งดูซะก่อน ลูกพี่ข้าเป็นคน นะโว้ย อย่าช้า รีบกลับไปซะ"
ปรากฏว่า สิ่งที่มันสื่อสารกับอริได้ผล เจ้าพวกนั้นพอเห็นผมเดิน มาด้วย แรกๆ มันก็ทำท่าทางขึงขังดี แต่พอผมเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ มัน ก็แตกหนีกระเจิง เจ้าพวกสุนัขที่ตามไปด้วยเลยได้ใจใหญ่ วิ่งไล่กวด ตามกัดเจ้าพวกนั้น เสียฝุ่นกระเจิง แต่เจ้าพวกฝ่ายอริ มันก็ไวพอตัว มันหนีห่างไปตั้งหลายสิบเมตร พวกมันวิ่งกวดยังไงก็ตามไม่ทัน
ผลจากวันนั้น ก็เป็นอันว่า สุนัขพวกนี้ ได้ยกให้ผมและเพื่อนๆ เป็นห้วหน้าไปโดยปริยาย ก็เอากับพวกมันหน่อย สนุกดี อย่างน้อยก็ เข้าใจพวกมันมากขึ้น และเห็นใจในความบ้านแตกสาแหรกขาดของมัน เพราะตัวของมันเอง ก็ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ จาก ที่มีบ้านเคยอยู่ มีอู่เคยนอน แต่วันนี้กลับมานอนตามข้างถนน เข้ามาก็ หาเศษอาหาร ตามโรงอาหารกิน เวลาป่วยไข้ก็ไม่มีใครจะเยียวยารักษา ทุกข์ทรมานอย่างนั้นไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
นี่แหละครับ ชีวิตต้อง ที่คุณหาดูได้จากโรงอาหาร พวกสุนัข พันธุ์โรดไซด์เหล่านี้ เมื่อท้องหิว ชีวิตยังอยู่ ขายังเดินได้ แรงยังมี ก็ หากินกันไป เมื่ออิ่มท้อง ก็พักผ่อน นอนหลับ ตื่นขึ้นมาก็ดำเนินชีวิต แบบโรดไซด์กันไป
เมื่อผมนึกย้อนกลับมาถึงตัวเอง ก็ได้ข้อคิดว่า คนเรานั้น ไม่ว่า จะเจอปัญหาอะไรก็ตาม ย้งไงก็มีทางแก้ไขที่มากกว่าสุนัข เพราะฉะนั้น เมื่อเจออุปสรรคอะไร ก็ตัองสู้กันไปให้สมกับที่เกิดเป็นคน
เรื่องเล่า...ของพี่ชายคนหนึ่ง
โดย ชัยภัทร ภัทรทิพากร