อนาถบิณฑิกเศรษฐี ตอนที่ 13 มีทรัพย์มากกว่าเดิม
ตั้งแต่นั้นมา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ก็ได้มียศเหมือนเดิมและมีทรัพย์มากกว่าเดิมอีก ๑๘ โกฏิ ในครั้งนั้น มีพราหมณ์ชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่งสามารถดูลักษณะสิริได้ว่า สิริอยู่ที่ตรงไหน แก่ใคร และตรงนั้นจะเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์ คือ จะรวย พราหมณ์นั้นก็คิดว่า ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มีฐานะการเงินที่ตกต่ำลง แล้วกลับมายิ่งใหญ่ขึ้น มีทรัพย์มากยิ่งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ต้องมีสิริแน่นอน วันนี้เราจะไปขโมยสิริของท่านเศรษฐีมา แล้วก็ทำทีไปเยี่ยมเยียนท่านเศรษฐี ผู้รู้ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมก็จะเป็นอย่างนี้
พราหมณ์จึงไปสู่เรือนของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เมื่อไปถึงพราหมณ์นั้นก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากท่านเศรษฐีผู้มีจิตใจที่งดงาม แต่ท่านเศรษฐีก็ไม่ได้รู้หรอกว่า ท่านมีสิริอยู่ตรงไหน คิดว่าตัวท่านมีสิริอยู่แล้ว
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ถามว่า “ท่านมาหาเรา เพื่อต้องการอะไร” ถามกันตรง ๆ เลยว่า มีวัตถุประสงค์อะไร ต้องการอะไรหรือ
พราหมณ์ก็ใช้สายตากวาด ดูทุกสิ่งที่ที่สิริควรจะประดิษฐานอยู่ ดูตามหลักวิชา เห็นสิริประดิษฐานอยู่ที่หงอนไก่ขาวปลอด มีสีดุจสังข์ที่ขัดแล้วใส่อยู่ในกรงทองเพราะไก่ตัวนี้กระมัง ที่ทำให้ท่านเศรษฐีรวย จึงกล่าวกับท่านเศรษฐีว่า “ท่านเศรษฐี ข้าพเจ้าสอนมนต์นักเรียน หรือ มานพทั้งหลาย มีนักเรียนตั้ง ๕๐๐ คน จำเป็นจะต้องอาศัยไก่ขันบอกเวลา” เพราะตอนนั้นไม่มีนาฬิกาปลุก บอกเหตุผลอันสวยงามไปแล้ว “ไก่ของข้าพเจ้า มันขันไม่ค่อยจะตรงเวลา เวลาจะนอน มันก็มีอารมณ์ขันขึ้นมา ข้าพเจ้าและมานพ ๕๐๐ คน จึงกำหนดเวลาไม่ถูกเลย” ช่างมีเหตุผลสวยงาม แต่ประสงค์ร้าย “ท่านเศรษฐี ได้ทราบว่าไก่ของท่านตัวนี้ ขึ้นตรงเวลา ข้าพเจ้ามามีวัตถุประสงค์จะมาขอไก่ตัวนี้ ขอท่านจงได้โปรดยกให้ข้าพเจ้าเถิด”
“ท่านพราหมณ์เชิญเอาไปเถิด ข้าพเจ้าให้ไก่นี้แก่ท่าน” คือ ใจที่มีแต่การให้เพราะว่ายิ่งให้ ยิ่งมีความสุข ความสุขจากการให้จะรู้จักต่อเมื่อได้ให้ แต่ท่านก็ไม่ได้มีความรู้ในการดูสิริจึงยกให้เขาไปเลย