อยากให้ลูกทุกคนเป็นพระอย่างแท้จริง
อยากให้ในองค์กรมีบรรยากาศเหมือนสมัยพุทธกาล คือบรรยากาศที่ลูกทุกคนในองค์กรตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ คิดแบบพระ พูดแบบพระ ทำแบบพระ เป็นพระอย่างแท้จริง อยากให้เป็นกันอย่างนั้น แล้วก็มีพระภายในเป็นเพื่อนในทุกอิริยาบถ ทุกกิจกรรม นั่งนอนยืนเดินเหยียดแขน แขน กลับหน้า กลับหลัง ขบฉัน หรือทำอะไรก็แล้วแต่ นี่คือความตั้งใจของหลวงพ่อ ที่ต้องการให้ลูกทุกคนที่ได้เข้ามาสู่องค์กรเข้าถึงความสมปรารถนา ซึ่งอย่างน้อยที่สุดอยากจะให้รู้ว่า “การเข้าถึงไตรสรณคมน์เป็นอย่างไร”
เราเคยได้ยินได้ฟังได้อ่านในพระไตรปิฎกหรือจากครูบาอาจารย์สั่งสอนว่า “เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านแสดงธรรมโปรดพระเจ้าพิมพิสารและพสกนิกร โดยผู้ฟังธรรมทั้ง ๑๑ ส่วนบรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป อีกหนึ่งส่วนบรรลุธรรมาภิสมัยเข้าถึงไตรสรณคมน์” เราได้ยินได้ฟังกันแล้วก็รู้เรื่องกันได้อย่างดีว่า หมายถึง พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ หรือหมายถึงพระธรรมกายโดยย่อเป็นอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้ว เรายังเข้าไปไม่ถึงจุดนั้น
หลวงพ่อว่าอย่างน้อยที่สุดให้เรารู้จักตรงนี้ก่อนเพื่อเอาไว้เป็นที่พึ่ง อยากให้รู้จักกับคำว่าที่พึ่งที่ระลึกหรือคำว่า สรณะ พึ่งได้จริง หรือลักษณะว่าที่พึ่งที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร มีลักษณะอย่างไร ซึ่งเราจะยอมรับด้วยตนเองว่า “นี่คือที่พึ่งที่แท้จริง"
หลวงพ่ออยากให้เข้าถึงอย่างน้อยที่สุดตรงจุดนี้ และปรารถนามากที่สุด คือ ได้ไปรู้เห็นวิชชาธรรมกาย นั่นคือความปรารถนาลึกๆ ที่มีต่อลูกทุกคน อยากให้ลูกได้เข้าถึง เพราะเราพูดกันมายาวนานหลายสิบปีแล้วเรื่องวิชชาธรรมกาย อยากให้เข้าถึงกันจริงๆ จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวของเราเอง จึงอยากให้ลูกทุกคนสมความปรารถนากัน
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๕
คุณครูไม่ใหญ่