หมั่นสังเกตความคิดในใจ ให้ชำนาญไปเรื่อยๆ
นอกเวลาก็หมั่นสังเกตว่า สิ่งใดเป็นเครื่องเสริมให้ใจของเราก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม แล้วก็สำรวจจิตใจของเราให้ผ่องใสเสมอ ให้อารมณ์ดี อย่าให้ขุ่นมัว หมั่นดักความคิดในใจว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรเป็นกลางๆ อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป และอะไรที่ไม่ใช่บุญไม่ใช่บาป..เราก็หมั่นสังเกต เหมือนกับร่างกายของเรา นอกจากรับประทานอาหารธรรมดาแล้ว ยังมีอาหารเสริมขึ้นมาอีก เพื่อพยุงร่างกายให้แข็งแรง ต้องออกกำลังกาย ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ มีเครื่องช่วยเสริมเข้ามาอย่างนี้
ใจก็เหมือนกันนะลูก ให้หมั่นสังเกต หมั่นดักความคิดในใจ ถ้าอะไรก็ตามที่เป็นอกุศล เราก็ไม่รับเอาไว้ แต่ถ้าเกิดขึ้นเองก็ให้เราทำเฉยๆ เพราะมันอยู่กับเราได้ไม่นาน..เดี๋ยวก็ผ่านไป มันเกิดชั่วคราวเดียวก็ดับ พอเกิดขึ้นตั้งอยู่ เดี๋ยวอารมณ์นั้นก็เสื่อมสลายหายไป นี่คือเครื่องเสริม พอเสริมอย่างนี้มากเข้า เมื่อเรามานั่งธรรมะใจจะรวมได้เร็ว เมื่อนั่งก็ให้เริ่มต้นจุดที่ง่ายที่สบาย ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นไปก่อนฝึกจนกระทั่งคล่อง..กระทั่งชำนาญในเส้นทางสายกลาง
หนทางที่เราเดินบ่อยๆ หญ้าจะไม่รก เราจะจัดเจนเส้นทาง ตรงไหนมีก้อนอิฐ ตรงไหนมีตอ มีหลุม มีบ่อ เราก็จะหลบเลี่ยงได้ ทางเดินของใจก็เช่นเดียวกัน เราฝึกให้คุ้น เดี๋ยวเราก็จะรู้ว่า ตรงนี้เป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นตอ อย่างนี้ก็แปลว่า เราสังเกตออก ในที่สุดก็จะชำนาญไปเรื่อยๆ
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๕
คุณครูไม่ใหญ่