ฉันทะเป็นหัวขบวน
ฉันทะเป็นหัวขบวน : ก็นั่งกันดีทุกรูปเลย (พระลูกชาย: ผมหลับตานิ่งๆ แป๊บนึงก็ถูกดูดเคลื่อนเข้าสู่ภายใน มีความสุขอยากจะมานั่งเองครับ) มีฉันทะเอง ถูกต้องเลย แสดงว่าลูกครอบครองฉันทะได้แล้ว ฉันทะเป็นหัวขบวนเลย หลวงพ่ออยากให้ได้แบบนี้กัน หมดทุกรูปเลย เพราะถ้ามีฉันทะ เดี๋ยวอีกสามตัวก็จะตามมาเอง ฉันทะแต่เดิมเรารู้จากตัวหนังสือ จากในตำราที่เราได้เคยศึกษามา ตอนนี้เราได้สำเร็จรูป แต่เราจะไปรู้ว่าฉันทะจริงๆ เป็นอย่างไร เราต้องครอบครองฉันทะให้ได้ ซึ่งมาจากการได้สุขจากสมาธิ เพราะใจนิ่งถูกส่วน ถ้าครอบครองฉันทะได้ วิริยะ ความเพียร จะตามมาเอง ไม่อยากมาก็ต้องมา จะปฏิเสธวิริยะก็ไม่ได้ เพราะมีความสุขถูกหลักวิชชา จะทำให้มีฉันทะ เพราะเราได้สุขจากสมาธิ ที่สุขเพราะใจนิ่งแล้ว (พระลูกชาย: ครับ ผมได้ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มีความเพียรนั่งต่อหลัง ๕ โมงเย็น มีความสุข จะไปนั่งตรงไหนก็ได้ นั่งใต้ต้นสนมีความเพียร เห็นดวง เห็นองค์พระชัดเท่าลืมตาเห็นครับ) ดีๆ ๆ (พระลูกชาย: จากการที่หลวงพ่อได้ให้โอวาท ก็ได้มีการมาทบทวนโอวาทและได้ติวกัน จากเดิมผมว่าใจของผมนุ่มนวล มีความสุขมาแล้ว พอได้มาทบทวน โอวาทหลวงพ่อและได้ติวแชร์ประสบการณ์กัน ผมก็มาปรับใจนุ่มนวลและมีความสุขมากขึ้นครับ) ดีๆๆ (พระลูกชาย: ผมแปะติดองค์พระตลอดเวลา ผมชอบที่หลวงพ่อบอกว่านิ่ง ๆ เฉย ๆ ผมก็นั่งเฉย ๆ มีความสุข เห็นแสงสว่าง ดวง องค์พระ ครับ) คนที่ไม่มีประสบการณ์ให้ดู คือคนตายแล้ว
ความเพียร : ผู้มีความเพียรย่อมสมความปรารถนา ที่ไม่สมความปรารถนาเป็นไปไม่ได้ สำหรับผู้ที่มีความเพียร เพียรต่อไป นะลูกนะ เอาให้คล่องให้ชำนาญเลย ให้มีอารมณ์ดี อารมณ์เดียว อารมณ์สบาย อารมณ์เดียวก็อารมณ์ดีนั่นแหละ ถ้าคิ้วไม่ผูกโบว์ก็ได้แน่เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา แต่นี่เป็นภูเขาขึ้นครก เข็นเขาพระสุเมรุขึ้นครกมันไม่ได้ยาก แต่มันก็ไม่ง่าย อย่าลืม ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ แค่ศอกเดียว ยึดไม่ได้ให้มันรู้ไป
คุณครูไม่ใหญ่
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๒