เมื่อใดใจติดที่ศูนย์กลางกาย...ใจจึงพ้นได้จากอวิชชา

วันที่ 27 มิย. พ.ศ.2565

27-6-65-2-b.jpg

เมื่อใดใจติดที่ศูนย์กลางกาย...ใจจึงพ้นได้จากอวิชชา
 

              ถ้าจะให้สว่างก็ต้องหยุดนิ่ง ฝึกใจไปเรื่อยอย่างสบาย ๆ ด้วยความเบิกบาน สนุกสนาน เหมือนคนที่เขาสนุกกับการทำงาน สนุกกับการเรียน สนุกกับการเล่น หรือสนุกกับการดูการละเล่น เพลิดเพลินในสิ่งที่ตัวชอบ ต้องมีความสุขสนุกสนานกับการปฏิบัติธรรม เพื่อฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง สิ่งที่ยากมันก็จะง่าย สิ่งที่ง่ายมันก็ง่ายมากเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นแสนง่าย...ล้านง่าย
 

               ทุกอย่างยังเป็นความลับของชีวิตที่ทำให้เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งภาษาธรรมะเรียกว่า “อวิชชา” ไม่มีความรู้เรื่องราวความจริงของชีวิต อวิชชามาบดบังหนาแน่น ทั้งหุ้มเคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น สวมซ้อน ร้อยไส้ บังคับในธาตุ ในธรรม ในเห็นในจำในคิด ในรู้บังคับกันหนาแน่นมองไม่เห็นเลย เราจึงไม่รู้ เหมือนคนตาบอดอยู่ในที่มืดแถมโดนผูกตาเสียอีก...ทำให้ไม่รู้อะไรเลย อวิชชาที่เข้ามาบังคับก็เหมือนกัน มันหนาแน่นหลายชั้นมาก ไม่ใช่แค่ ๓ ชั้นดังที่ยกตัวอย่างไว้ แต่ว่ามันนับชั้นไม่ถ้วน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นความลับของชีวิต จนกว่าเมื่อใดที่เราทำความสว่างให้เกิดขึ้นในใจของเราด้วยการหยุดการนิ่ง สิ่งเหล่านี้ก็จะถูกเปิดเผยออกมา เมื่อใดใจของเราติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายเหมือนติดกาวอย่างดีไว้กับศูนย์กลางกาย ความสว่างจะเจิดจ้า ยิ่งเข้าถึงพระธรรมกายในตัวจะยิ่งเจิดจ้าเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
 

คุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๕

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.024630649884542 Mins