ธรรมกายสู่พระนิพพาน

วันที่ 02 ตค. พ.ศ.2566

2-10-66_1b.png

ธรรมกายสู่พระนิพพาน
 

                    ข้าพเจ้าเข้าวัดพระธรรมกาย (ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม) ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๑๙ และคิดว่าเข้าไปด้วยแรงดึงดูดอะไรสักอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เข้าไปแบบคนกำลังมีทุกข์แล้วเข้าวัดเพื่อให้พระช่วยปัดเป่าความทุกข์ แรงดึงดูดที่เรียกร้องให้ข้าพเจ้าเข้าไปนั้นก็คงจะเป็นบุญของข้าพเจ้านั่นเองที่ทำให้ข้าพเจ้าได้สร้างบุญต่อ ได้มีโอกาสรับใช้หลวงพ่อธัมมะชโยท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
 

                   เมื่อได้รับการอบรมสั่งสอน - ศึกษาธรรมะในวัดพระธรรมกายนานวันเข้า ก็ได้ทราบว่าที่วัดปากน้ำ (ซึ่งหลวงพ่อวัดปากน้ำได้เป็นผู้รื้อฟื้นวิชชาธรรมกายมาเผยแผ่สั่งสอน ฝึกให้คนเข้าถึงธรรมกาย) มีอภินิหารเกิดขึ้นต่างๆ มากมาย ทั้งจากพระของขวัญของหลวงพ่อวัดปากน้ำ รวมทั้งปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันสำคัญๆ ทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา เป็นต้น โดยที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสามารถใช้ธรรมกายของท่านไปอาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอายตนะนิพพานมาให้คนทั้งหลายเห็นได้ด้วยตาเนื้อมากมาย
 

                 วัดพระธรรมกายได้เริ่มก่อสร้างอุโบสถตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.๒๕๒๐เมื่อเสร็จพอที่จะใช้ประกอบพิธีทางศาสนาได้ก็เริ่มมีการเวียนเทียนรอบอุโบสถวัดพระธรรมกายนี้ก็เช่นเดียวกันกับวัดปากน้ำหลวงพ่อธัมมะชโยท่านเจ้าอาวาสได้บอกกับพวกเราทุกคนที่จะมาเวียนเทียนให้พยายามนั่งสมาธิกันมากๆ เพื่อใจจะได้ละเอียดและผ่องใส เพราะในวันเวียนเทียน หลวงพ่อและคุณยายจะอาศัยธรรมกายของท่านไปอาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอายตนะนิพพานลงมาให้พวกเราได้เห็นด้วยตาเนื้อ และทุกๆ ปีก็มีคนได้เห็นพระพุทธเจ้ากันมากในรูปลักษณะต่างๆ กัน เล็กบ้างใหญ่บ้างตามที่ต่างๆรอบๆอุโบสถหรืออย่างน้อยก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ซึ่งความจริงพระไม่ได้สวดมนต์เลย
 

                    วันมาฆบูชาปีพ.ศ.๒๕๒๔ ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่งซึ่งอยากจะเห็นพระพุทธเจ้าด้วยตาเนื้อ ได้พยายามนั่งสมาธิทุกวันไม่ได้ขาดเลย พิธีเริ่มตั้งแต่เช้า ๙.๓๐ น.หลวงพ่อธัมมะชโยนำสวดมนต์ทำวัตรเช้า เสร็จแล้วนำนั่งสมาธิเพื่อทำใจให้สะอาดจะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญที่จะถวายผ้าป่าในตอนบ่ายและเวียนเทียนพร้อมจุดดวงประทีปในตอนค่ำ
 

                    ข้าพเจ้าพยายามทำใจให้สงบ ให้หยุด ให้นิ่งเพราะตั้งใจจะขอเห็นพระพุทธเจ้าให้ได้ในขณะเวียนเทียน เลิกพิธีตอนบ่ายก็พยายามสำรวมไม่พูดคุยกับใคร เพื่อใจจะได้ไม่ฟัง จิตจะได้ไม่หยาบ พอพิธีเวียนเทียนเริ่มขึ้นในตอนค่ำก็พยายามเดินด้วยใจที่สงบ ขณะเดินก็พยายามเอาไปจรดไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตลอดเวลา เดินเวียนรอบอุโบสถจนครบ ๓ รอบ พยายามมองไปรอบๆอุโบสถและบนท้องฟ้าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มองไม่เห็นอะไร ทุกคนแยกย้ายกันเข้าประจำดวงประทีปที่ปักอยู่รอบๆอุโบสถเพื่อเตรียมการจุดดวงประทีป ข้าพเจ้าได้ดวงประทีปที่อยู่ด้านทิศตะวันออก คือด้านหน้าของอุโบสถ เมื่อเข้ายืนประจำดวงประทีปแล้ว ก็พยายามสำรวม ยืนทำสมาธิพร้อมกับนึกอธิษฐานขอให้ได้เห็นพระพุทธเจ้าด้วยตาเนื้อดังต้องการ ได้ยินประกาศว่า ถ้าดวงประทีปมีไม่ครบก็ให้ยืน ๓ คน ต่อดวงประทีป ๑ ดวง ข้าพเจ้า ลืมตาขึ้นก็พบว่า คุณวิชญา(นัส) ซึ่งเป็นอุบาสิกา ได้มายืนประจำดวงประทีปดวงเดียวกับข้าพเจ้า ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ข้าพเจ้าก็มองขึ้นไปบนอุโบสถ ก็ได้เห็นพระธรรมกายขาวใสมาก องค์ใหญ่ลอยนิ่งอยู่ระหว่างหน้าต่างแรกของอุโบสถ ลอยอยู่เหนือพุ่มดอกไม้ เป็นพระธรรมกายนั่งขัดสมาธิลอยนิ่ง ขาว และใสมาก ข้าพเจ้าไม่เชื่อสายตาตนเอง จึงเรียกคุณวิชญา และถามว่าเห็นอะไรบนหน้าต่างแรกของอุโบสถบ้าง คุณวิชญาก็บอกว่าเห็นพระธรรมกายขาวใสมาก ลอยอยู่บนพุ่มดอกไม้กลางหน้าต่างเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจึงชวนคุณวิชญากราบอธิษฐานขอพรท่าน ข้าพเจ้าได้เห็นพระธรรมกายลอยนิ่งอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งจุดดวงประทีปเสร็จสักพักจึงหายไป ในคืนนั้นปรากฏว่า ได้มีคนเห็นพระธรรมกายกันมากมายในขนาดต่างๆ กัน และในที่ต่างๆ กัน ข้าพเจ้ารู้สึกปีติมากพร้อมกับนึกกราบขอบคุณหลวงพ่อ และคุณยายที่ได้เมตตาอาศัยพระ
ธรรมกายของท่านไปอาราธนาพระพุทธเจ้ามาให้พวกเราได้เห็นกันหลายคน
 

                    ภารกิจอันหนักอีกอันหนึ่งของหลวงพ่อธัมมะชโยก็คือ การสร้างพระประธาน หลวงพ่อท่านตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะสร้างพระประธานของวัดพระธรรมกายให้เหมือนกับพระธรรมกายที่ท่านเห็นที่ศูนย์กลางกายหรือเหมือนกับพระธรรมกายที่ทุกๆคนมี ศูนย์กลางกายเช่นเดียวกัน เป็นพระปฏิมากรปางสมาธิ เกศดอกบัวตูม ท่านได้เพียรพยายามเพื่อให้ได้พระประธานที่เหมือนพระธรรมกายให้มากที่สุดที่จะมากได้ แต่อุปสรรคอันยิ่งใหญ่ของท่านก็คือการต้องหาปัจจัยเพื่อเร่งการก่อสร้างถาวรวัตถุให้วัดเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งต้องหาปัจจัยซื้อที่ดินเพื่อสร้างธุดงคสถาน ท่านต้องสร้างวัด สร้างพระประธานสร้างพระภิกษุ และสร้างคนไปในเวลาเดียวกันความวิริยะอุตสาหะของท่านยากที่จะหาผู้ใดเปรียบได้ แม้ว่าพระประธานที่ท่านได้สร้างเสร็จไปแล้วทุกคนเห็นก็จะต้องชมว่างามมาก แต่หลวงพ่อท่านก็บอกว่ายังไม่เหมือน เป็นแค่คล้ายเท่านั้น การสร้างพระประธานของหลวงพ่อธัมมะชโย ท่านทำโดยการนั่งเข้าที่ แล้วบอกให้ผู้ปั้นพระ ปั้นตามที่ท่านเห็นขณะที่ท่านเข้าที่ ใจของท่านจะจรดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฉะนั้นบุญจากพระนิพพานก็ย่อมจะหลั่งไหลลงมาตลอดเวลา ท่านสร้างพระประธาน พร้อมกับอัดบุญจากพระนิพพานไปด้วย พระที่สร้างจึงเป็นเสมือนพระเป็นไม่ใช่พระตาย พระประธานที่อยู่ในอุโบสถเวลานี้แม้จะยังไม่ใช่องค์จริง แต่ก็ได้แสดงอภินิหารให้คนที่เข้าไปกราบไหว้ได้เห็นเสมอมา ในรูปแบบต่างๆ กัน บางคนก็เห็นท่านหลับตา ลืมตาได้ บางคนที่เห็นท่าน ขยายใหญ่ขึ้นได้ บางคนเห็นเป็นพระธรรมกายซ้อนๆ เรียงๆ กันหลายองค์ บางคนที่เห็นพระธรรมกายตามฝาผนังด้านหลังบ้าง สำหรับข้าพเจ้าได้เห็นเป็นเหมือนท่านเปล่งรัศมี หรือเปล่งฉัพพรรณรังษีรอบๆ องค์ท่านเป็นแสงสว่างเปิดๆปิดๆ อยู่ชั่วขณะหนึ่ง เป็นความสว่างที่มีประกายไม่เหมือนแสงสว่างจากไฟฟ้าหรือจากไฟฉาย ไม่เหมือนแสงพระอาทิตย์หรือแสงพระจันทร์ เมื่อข้าพเจ้าเห็นแล้วข้าพเจ้าแน่ใจได้เลยว่าพระพุทธเจ้าได้เปล่งรัศมีหรือเปล่งฉัพพรรณรังษีให้ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว
 

                    แม้ว่าหลวงพ่อธัมมะชโยท่านยังมีภารกิจในการสร้างวัด สร้างพระประธาน ท่านก็ยังมุ่งที่จะสร้างคนให้มีประสิทธิภาพโดยการเข้าถึงพระธรรมกายเป็นสิ่งแน่นอนเหลือเกินที่ผู้ต้องการเข้าสู่พระนิพพานจะต้องพยายามให้เข้าถึงพระธรรมกายก่อน จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาติใด ภาษาใดศาสนาใด จะต้องเริ่มฝึกอบรมเรียนรู้วิชชาธรรมกายเพื่อให้ได้เข้าถึงพระธรรมกาย และเข้าสู่พระนิพพานในทีสุด
 

คุณหญิงอุไรวรรณ หงส์ประภาส, ภ.บ.
๙ มีนาคม ๒๕๒๗

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.026984302202861 Mins