พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ที่ ๒๐ ที่ตรัสพระพุทธพยากรณ์
ทรงพระนามว่า พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสรีระสูง ๗๐ ศอก
อายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น ๗ หมื่นปี
ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอรุณ และพระนางปภาวดี พระอัครมเหสี แห่งนครอรุณวดี
ทรงครองฆราวาสวิสัยอยู่ ๗ พันปี ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ เมื่อพระนางสัพพกามาเทวี ประสูติพระโอรสอตุละ จึงทรงช้างราชพาหนะออกมหาภิเนษกรมณ์ มีบุรุษตามเสด็จออกบวช ๑๓๗,๐๐๐ คน
ทรงทำความเพียรอยู่ ๘ เดือน
ผู้ถวายข้าวมธุปายาส คือ ธิดาของปิยเศรษฐี แห่งสุทัสสนนิคม
นิสีทนสันถัตกว้าง ๒๔ ศอก (บางแห่งว่า ๓๒ ศอก) ดาบสอโนมทัสสีถวายหญ้า ๘ กำ ประทับนั่ง ณ โคนต้นปุณฑรีกะ กุ่มบก บางแห่งว่ามะม่วงป่า)
พระอัครสาวกคือ พระอภิภู และพระสัมภวะ
พระพุทธอุปัฏฐากคือ พระเขมังกร
ทรงแสดงธรรม ๓ ครั้ง
ครั้งที่ ๓ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ใกล้ประตูสุริยวดีนคร เพื่อตัดความเมาและมานะของเหล่าเดียรถีย์ ให้ยอมรับนับถือพระองค์
มีสาวกสันนิบาตเกิดขึ้น ๓ ครั้ง
ครั้งที่ ๓ เนื่องในโอกาสที่พระบรมศาสดาทรงฝึกช้างชื่อ ธนบาลกะ ในธนัสชัยนคร
เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ ๗ หมื่นพรรษา ที่พระวิหารอัสสาราม พระบรมสารีริกธาตุรวมเป็นหนึ่งเดียว ไม่กระจัดกระจาย พระสถูปบรรจุสูง ๓ โยชน์ ประดับด้วยแก้ว ๗ ประการ งามเหมือนภูเขาหิมะ
พระเจ้าอรินทมะ
ในพระพุทธกาลนี้ พระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า พระเจ้าอรินทมะ ครองนครปริภุตตะ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมายังนครของพระองค์ ทรงดีพระทัยมาก ถวายบังคมที่พระบาทด้วยพระเศียร ถวายภัตตาหารตลอด ๗ วัน ถวายผ้าอย่างดีนับโกฏิผืน ถวายช้างพาหนะที่ประดับตกแต่งแล้วแด่พระพุทธองค์ ถวายสิ่งที่ควรรับแก่เหล่าภิกษุ ซึ่งมีน้ำหนักเท่าน้ำหนักตัวช้าง
พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพุทธพยากรณ์ว่า พระเจ้าอรินทมะโพธิสัตว์ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต นับจากนี้ไปอีก ๓๑ กัป พระโพธิสัตว์ปีติยินดีตั้งใจสร้างพุทธบารมียิ่งยวดขึ้นไปจนตลอดชีวิต