เทศน์ : การเผยแผ่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ความนำ

วันที่ 18 มิย. พ.ศ.2567

670619_b24-1.jpg

 

เทศน์ : การเผยแผ่ที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์


ความนํา

          มีผู้รู้ตามเห็นตามพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทรงวางรากฐานพระพุทธศาสนาได้เป็นปึกแผ่นแน่นหนา มีพระสาวกที่ออกบวชตามพระองค์ช่วยปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่ศาสนาไปทั่วทุกทิศ มีอุบาสกอุบาสิกาที่เป็นคฤหัสถ์ทุกระดับชั้นเป็นผู้อุปถัมภ์บำรุงทำให้พระพุทธศาสนาแผ่ขยายกว้างไกลออกไปเรื่อยๆ

 

          พระองค์ทรงปฏิบัติพุทธกิจในฐานะเป็นพระพุทธเจ้าอย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย เสด็จไปยังคามนิคมน้อยใหญ่ทั่วชมพูทวีป ทรงหว่านพืชคือธรรมะให้เจริญงอกงามในใจผู้คนทั่วทุกหัวระแหง ตลอดระยะเวลา ๔๕ ปีเต็มที่ทรงปฏิบัติพุทธกิจเช่นนี้โดยมิได้ว่างเว้นเลย

 

          ผู้คนทั่วไปในชมพูทวีปสมัยนั้นรู้จักพระพุทธเจ้าในนามว่าพระสมณโคดมเป็นอย่างดี ด้วยรู้กันว่าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐคืออริยธรรมแล้วเสด็จเผยแผ่ธรรมนั้นไปทุกหนแห่ง ทรงมีพระสงฆ์สาวก เป็นจำนวนมากมีลูกศิษย์มากทั้งที่เป็นพระราชามหากษัตริย์ เจ้าผู้ครองนคร และมหาเศรษฐีทั้งหลายในทุกแคว้น สมัยนั้นพระพุทธองค์ พระสาวก และพระพุทธศาสนารุ่งเรืองไพโรจน์ปานประหนึ่งดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวันที่พระพุทธองค์ทรงได้รับความสำเร็จในการวางรากฐานพระพุทธศาสนาในชมพูทวีปได้เช่นนั้นก็ด้วยทรงมียุทธศาสตร์อันสำคัญคือการเทศนาสั่งสอน แนะนำให้ผู้คนได้รู้จัก เข้าใจ และเข้าถึงพระพุทธศาสนาด้วยตัวของเขาเอง ทำให้ผู้คนไม่สงสัยเคลือบแคลงในคำสอนว่าดีจริงและมีผลจริงหรือไม่

 

          การแสดงธรรมจึงเป็นเครื่องมือแห่งการเผยแผ่ศาสนาของพระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวกมาแต่เริ่มต้น อันการแสดงธรรมนั้นนิยมเรียกกันในยุคหลังว่า “การเทศน์” เมื่อเอ่ยถึงวิธีเผยแผ่ศาสนาแล้ว นักการศาสนาทั้งหลายจะให้น้ำหนักไปที่การเทศน์มากกว่าวิธีอื่น เพราะได้ผลดีกว่าและเร็วกว่าวิธีอื่น ทั้งเป็นวิธีที่พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติด้วยพระองค์เองมาแต่ต้นจวบจนเสด็จดับขันธปรินิพพาน

 

          ความรู้เรื่องการเทศน์จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่สุดเพื่อการเผยแผ่ศาสนาอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งในยุคสมัยใหม่ที่เจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ผู้คนมีทางเลือกในการหาความรู้ทางศาสนาได้มากกว่าเมื่อก่อน ถึงกระนั้นก็ยังให้ความสนใจที่จะฟังเทศน์กันอยู่เพราะถือว่าเป็นบุญด้วย

 

          แต่หากการถ่ายทอดและการนำเสนอธรรมโดยผ่านวิธีการเทศน์มิได้มีการปรับหรือพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยแล้ว การเผยแผ่ศาสนาก็จะไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควรจะเป็นแต่ทั้งนี้มิใช่หมายความว่าจะละทิ้งวิธีการแบบเก่าเสียทีเดียวหากว่าต้องคงไว้ในส่วนที่ดีและนำให้เกิดความประทับใจ และนำเสนอส่วนที่เหมาะที่ควรแก่ยุคสมัยเสริมเข้าไป

 

เมื่อเป็นได้ดังนี้ การเผยแผ่ธรรมแบบเทศน์ก็จะไม่น่าเบื่อหน่าย หากแต่จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดใจผู้คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

 

ความรู้เรื่องการเทศน์จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามความสำคัญไปได้เลย

เพราะเป็นความรู้ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติคือเทศน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

          นำให้เกิดศรัทธาและปัญญาแก่ผู้ฟังได้ครบถ้วน ทั้งยังจะได้ชื่อว่ารักษาวิธีเผยแผ่ศาสนาที่พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติด้วยพระองค์เองจนตลอดพระชนมชีพอีกส่วนหนึ่งด้วย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.03690466483434 Mins