มีศีลก็มีสุข

วันที่ 29 กค. พ.ศ.2567

2567%20_07%20_29%20b.jpg

 

มีศีลก็มีสุข

 

           ความสุขเป็นที่ปราถนาของมนุษย์เราทุกคนเพราะความสุขทำให้ชีวิตมีคุณค่า    มีความหมาย แสดงว่าเราเพียบพร้อมสมบูรณ์ มีความสะดวก อบอุ่น สบายใจ ความสุขนั้นมีทั้งความสุขทางกายกับความสุขทางใจ เมื่อพูดถึงความสุขทุกคนย่อมเข้าใจดีเพราะสัมผัสได้รู้สึกได้ แม้จะเป็นความสุขที่มีคุณภาพแตกต่างกัน

 

             การที่คนเราที่ใช้เวลาชีวิตดิ้นรน    กระเสือกกระสนวุ่นวาย    กระโดดโลดเต้นและมุ่งมั่นเข้มแข็งทำกิจต่างๆ เพื่อให้ได้ทรัพย์สิน เกียรติยศชื่อเสียง ความมีหน้ามีตา ตลอดถึงคำสรรเสริญยกย่องต่างๆ ก็เพราะต้องการความสุขนี่เองเพราะสิ่งเหล่านี้นำความสุขมาให้ ทั้งความสุขทางกายและความสุขทางใจแม้จะได้ความสุขในระดับหนึ่งแล้วก็ยังดิ้นรนให้ได้เพิ่มมากขึ้นไม่รู้จบ โดยที่สุดแม้ได้ความสุขในโลกนี้แล้วก็ยังอยากได้ความสุขในโลกหน้าอีก


            คนเราแม้ปรารถนาความสุขด้วยกัน   แต่ความสุขที่ปรารถนานั้นต่างกันก็มีเหมือนกันก็มี เท่ากันก็มีไม่เท่ากันก็มี เช่น บางคนคิดว่ามีบ้านอยู่ มีเงินทองใช้จ่าย มีอิสระไปไหนมาได้ก็มีความสุขแล้ว บางคนที่มีเงินทองมาก มีความพร้อมมูลแล้ว ก็คิดว่าขออย่าให้มีโรคภัยมาเบียดเบียนก็เป็นความสุขแล้ว บางคนขอให้มียศตำแหน่งเป็นเจ้าคนนายคนได้ก็มีความสุขแล้ว บางคนคิดว่าขอให้มีข้าวกินทุกมื้อ มีเครื่องนุ่งห่มใส่ มีที่อยู่พอซุกหัวนอนได้ และมีคนดูแลบ้างเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ก็มีความสุขแล้ว ความสุขของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกันและไม่เท่ากันอย่างนี้


         ความสุขนั้นเล่า ในความเห็นของคนทั่วไปก็คิดว่ามาจากสิ่งต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ชีวิต เช่น มีเงินก็มีสุข มีสิ่งของเครื่องใช้สมบูรณ์ก็มีสุข มียศตำแหน่งก็มีสุข ไม่มีโรคก็มีสุข เพราะเข้าใจว่าปัจจัยทั้งปวงนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุข จึงดิ้นแสวงหาปัจจัยเหล่านี้กัน ยอมเสียเวลาทุ่มเทชีวิตลงไปเพื่อให้ได้มา เมื่อได้แล้วก็คิดว่ามีความสุขแล้ว


             อันที่จริง  แม้ในหลักพระศาสนาก็ยอมรับว่าปัจจัยต่างๆ  เช่น  อาหารเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ตลอดถึงทรัพย์สินต่างๆ เป็นปัจจัยให้เกิดความสุขได้ทั้งสิ้น จึงได้มีข้อธรรมไว้สำหรับปฏิบัติเพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยเหล่านี้เมื่อปฏิบัติตามแล้วก็ได้จริงและได้รับความสุขจริง


               แต่ยังมีอีกเหตุปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความสุขได้  เหตุปัจจัยนั้นคือ  ศีล  นั่นเอง

2567%2007%2029.b.jpg
                 ศีลทำให้เกิดความสุขได้อย่างไร

 

2567.07.29%20b.jpg


             เพราะว่าศีลเป็นข้อห้ามหรือเป็นข้อปฏิบัติที่ห้ามล่วงละเมิดการกระทำผิด ห้ามมิให้ไปปฏิบัติในสิ่งที่เป็นเวรภัย เช่น ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามประพฤติผิดในกาม เมื่อไม่กระทำผิดต่างๆ ก็จะไม่มีเวรภัยอะไรที่จะทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อไม่มีเวรภัย ความสุขก็จะเกิดมีตามมา ทั้งความสุขทางกาย เช่น มีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินก็ปลอดภัย ไม่ต้องระวังรักษาป้องกันการถูกลักถูกขโมย มีคู่ครองก็วางใจกันได้ไม่ต้องระหองระแหงแตกร้าว มีสุขภาพร่างกายดี ไม่มีโรคภัยเบียดเบียนโดยใช่เหตุ ทั้งความสุขทางใจ เช่น มีสติปัญญาว่องไว คิดนึกอะไรก็คิดนึกได้ตามปรารถนา มีสุขภาพทางใจที่สบาย ปล่อยได้วางได้ในหลายเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองและครอบครัว ทำให้สบายใจ หมดห่วงหมดวิตกกังวล


            เมื่อมีศีลรักษาศีลแล้วย่อมหาความสุขได้ไม่ยาก ชีวิตประจำวันก็เป็นไปอย่างปกติ ถึงเวลาก็กินอย่างปกติ ไม่ต้องระวังภัยจากอาหารที่อาจมีคนมาทําให้เกิดอันตราย ถึงเวลานอนก็นอนอย่างหลับสนิท ไม่ต้องหวาดวิตกหรือกังวลอะไร ถึงเวลาไปทํางานก็ออกจากบ้านไปโดยอิสระ ไม่ต้องมีคนล้อมหน้าล้อมหลังระวังภัยให้ จะเดินไปไหน จะพักที่ไหน ก็ไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีคนมาทำอันตรายอะไร เพราะตนไม่มีเรื่องอะไร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน


              หากไม่มีศีลก็จะเต็มไปด้วยความว้าวุ่น   วิตกกังวล   ระวังภัยอันตรายรอบด้าน  ทั้งอันตรายแก่ชีวิต แก่ทรัพย์สินแก่คู่ครองของตัว ตลอดถึงผลประโยชน์ที่ตัวเองมีอยู่ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะหาความสุขความสงบในชีวิตได้ยาก แม้จะอยู่ได้ก็อยู่อย่างไม่สุขแท้ แม้นอนหลับก็ยังหวาดผวา หลับไม่เต็มตื่น แม้จะทานอาหารที่คนอื่นจัดให้ก็หวาดระแวง จะไปไหนมาไหนต้องมีคนคอยป้องกันระวังภัย ทำให้ไม่มีอิสระอะไร


               จึงสามารถกล่าวได้เต็มปากว่า  “มีศีลก็มีสุข”


                 แม้ในพระศาสนาก็มีพระพุทธวจนะรับรองไว้ว่า      “ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชรา”

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.074244932333628 Mins