คุณธรรมข้อที่ ๔ อดทน ใจสู้ เรื่องที่ ๑ เศรษฐีขี้เบื่อท้าพนันลูกจ้าง

วันที่ 09 กย. พ.ศ.2567

 

2567_09_09_b_01.jpg

 

 คุณธรรมข้อที่ ๔ อดทน ใจสู้

 

เรื่องที่ ๑

เศรษฐีขี้เบื่อท้าพนันลูกจ้าง

 

2567_09_09_12.jpg

 

2567_09_09.jpg



              เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศในทวีปแอฟริกา....ชายคนหนึ่งทำงานเป็นคนใช้ในบ้านเศรษฐี เศรษฐีคนนี้เป็นคนขี้เบื่อเพราะมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการก็เลยเบื่ออยู่ตลอดเวลาต้องคิดหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ จึงจะได้ไม่เบื่อมาก ห่างออกจากเมืองที่เศรษฐีคนนี้อยู่ มีเทือกเขา และภูเขาสูงมากเป็นพันเมตร วันหนึ่งเขาก็พูดกับคนใช้ของเขา

 

2567_09_09_01.png



             “ฉันสงสัยว่า มนุษย์เราสามารถที่จะยืนบนยอดเขานั้นตลอดคืน เปลือยกาย ไม่มีเสื้อผ้า ไม่กินอาหาร ไม่ดื่มน้ำ ไม่มีไฟ ไม่จุดไฟ จะเป็นไปได้ไหม?”

              ที่เขาคิดแปลกๆ อย่างนี้ เพราะรวยมากเลยไม่รู้จะคิดอะไร ทีนี้ตามประสาคนใช้ก็เลยพูดได้แต่ “ครับ...ครับ...ครับ...” ไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ เศรษฐีจึงพูดต่อ

 

2567_09_09_02.JPG



             “เอาอย่างนี้ดีไหม พนันกัน ฉันพนันว่าเธอทำไม่ได้”

             “ผม...ผมไม่มีอะไรจะพนันครับ เจ้านายครับ...” คนใช้รีบบอกย้ำ

       
     “เธอไม่ต้องมีอะไรก็ได้ เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าเธอสามารถยืนเปลือยกายบนยอดเขาตลอดคืนไม่กินอะไร ไม่ดื่มอะไร ไม่มีไฟให้ผิง ฉันจะยกที่ดินให้สัก ๑๐ ไร่ วัว ๓-๔ ตัว เอาไหม?”


               คราวนี้คนใช้ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยง จึงตอบ “เอาครับ แล้วแต่เจ้านาย”

               เศรษฐีอยากหาเรื่องแก้เบื่อ ก็เลยตอบตกลง

 

2567_09_09_03.JPG



             พอตกลงกับเจ้านายแล้วกลับไปคิด “โอ้... แย่แล้ว....เราจะทำอย่างไรดี... ต้องหนาวตายแน่ๆ...” พอดีเขารู้จักกับหลวงพ่อรูปหนึ่งซึ่งอยู่บนภูเขาอีกลูกปืนเทือกเขาเดียวกัน เขาจึงไปหาหลวงพ่อ และเล่าให้ฟังว่าได้ตกลงกับเจ้านายไว้ว่าอย่างไร

               หลวงพ่อรู้ว่าบนยอดเขานั้นสูงนับพันเมตรตอนกลางคืนลมแรงมากและอันตราย

               ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงบอกว่า

     
        “ไม่ต้องกลัวหรอก ต้องทำได้ หลวงพ่อจะขึ้นอยู่บนยอดเขาลูกนี้และจุดไฟ ซึ่งจากยอดเขาที่เธออยู่จะมองเห็นไฟ ให้เธอยืนเพ่งที่ไฟของหลวงพ่อนะ แล้วให้ระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า หลวงพ่อผู้มีเมตตาต่อเรากำลังนั่งดูแลไฟให้ความอบอุ่นแก่เธออยู่”

 

2567_09_09_04.png

                คนใช้ตอบรับด้วยความดีใจ “ตกลงครับ !!”

                พอตอนกลางคืนก็ขึ้นเขา โดยมีลูกน้องของเศรษฐีอีก ๓-๔ คนไปด้วย เพื่อเป็นพยาน

              พอไปถึงบนยอดเขา ก็ถอดเสื้อผ้า
ลมพัด ฮู...ฮู...ฮู... หนาว !! เขาเพ่งมองไปที่ยอดเขาลูกที่หลวงพ่ออยู่ตามที่หลวงพ่อแนะนำ ยืนเพ่งด้วยความตั้งใจ พอมองเห็นไฟก็รู้สึกอบอุ่นใจ สบายใจ

             “โอ้ ! หลวงพ่อท่านเมตตาเรามาก หลวงพ่อท่านยังอุตส่าห์นั่งบนยอดเขา ดูแลไฟตลอดคืนเป็นเพื่อนเรา...” เขาก็ได้กำลังใจจากหลวงพ่อมาก

            เขาเพ่งที่ไฟแล้วก็พยายามนึกถึงความร้อนของไฟ นึกถึงความเมตตาของหลวงพ่อผู้จุดไฟด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ ถึงกายจะทรมาน หนาวมากจนเกือบไม่ไหว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถอยู่ได้ตลอดคืน

             
  “โอ้โห ! ชนะแล้ว ! เรารวยแล้ว !” เขาคิดและบอกกับตัวเอง

                  เขาใส่เสื้อผ้าเดินลงไปหาเศรษฐี เศรษฐีไม่เชื่อว่าจะทำได้ เป็นไปได้อย่างไร?

                  คนใช้ก็ยืนยันว่า “ผมทำได้จริงๆ ครับ! ไม่เชื่อ เจ้านายก็ถามคนอื่นที่ไปเฝ้าดู”

                  ลูกน้องคนอื่นๆ ก็เป็นพยานว่าเป็นเรื่องจริง

                  พอคนใช้เห็นเศรษฐีประหลาดใจ เขาจึงอธิบายด้วยความภาคภูมิใจ

 

2567_09_09_05.JPG



              “หลวงพ่อของผมไปอยู่บนยอดเขาอีกลูกหนึ่ง แล้วจุดไฟตลอดคืน ผมเพ่งมองไปที่ไฟ ทำให้รู้สึกอุ่นพอที่จะเอาตัวรอดได้ตลอดคืนครับ”

                   พอเศรษฐีได้ยินว่ามีการจุดไฟอยู่บนยอดเขาอีกลูก จึงถือโอกาสบอกว่าทำผิดสัญญา

       
         “ฉันบอกว่าไม่ให้มีไฟ เธอมีไฟตลอดคืน ไม่ให้ !! ที่ดินก็ไม่ให้ วัวก็ไม่ให้ !!”

         คนใช้เสียใจมาก อดทน ใจสู้ ถึงขนาดนี้กลับไม่ได้อะไรเลย จึงตั้งใจจะไปฟ้องศาลปรากฏว่าผู้พิพากษาเป็นเพื่อนของเศรษฐี จึงตัดสินว่า

 

2567_09_09_06.png



            “ไม่ได้หรอก อย่างนี้ถือว่ามีไฟ ตกลงกันว่าจะไม่มีไฟ มองอยู่ที่ไฟ เพ่งอยู่ที่ไฟ แสดงว่ามีไฟ ตามตัวหนังสือของกฎหมาย”

                   คนใช้เลยหมดหวัง จึงไปปรับทุกข์กับหลวงพ่อ

                หลวงพ่อบอกว่า
“ไม่เป็นไร หลวงพ่อมีลูกศิษย์คนหนึ่งเป็นเศรษฐีเหมือนกัน กลุ่มเดียวกับพวกนี้ เดี๋ยวจะเรียกมาปรึกษากัน”

 

2567_09_09_07.JPG



             หลวงพ่อเล่าให้ลูกศิษย์คนนี้ฟัง ลูกศิษย์คนนี้มีปัญญาและมีคุณธรรม เขารับจะไปจัดการให้ เขาลงไปในเมืองแล้วประกาศว่า พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองที่บ้าน ทุกคนที่ได้รับเชิญก็ตื่นเต้น เพราะรู้ว่าปาร์ตี้ของเศรษฐีคนนี้สนุกมาก อาหารก็อร่อย ทุกคนอยากไปเศรษฐีขี้เบื่อและเพื่อนผู้พิพากษาก็ได้บัตรเชิญ ทุกคนรีบไปกันตั้งแต่หัวค่ำ นั่งคุยกัน รอกันอยู่ในห้องรับแขก

 

2567_09_09_08.png



            กลิ่นอาหารก็โชยมา...โชยมา เป็นระยะๆ ด้วยความหอมของอาหารและด้วยความหิวของแขกที่มางาน ทุกคนก็จินตนาการต่างๆ นานา ว่าสงสัยจะมีอาหารอย่างโน้นอาหารอย่างนี้ มีความสุขกับกลิ่นอาหาร พอนานๆเข้า เอ ! ไม่เห็นเขาเอาอาหารมาสักที

 

2567_09_09_09.png



            “เอ๊ะ ! ทำไม? เจ้าของบ้านอยู่ที่ไหน?” นั่งทนอยู่นานท้องก็ร้อง จ๊อก...จ๊อก...จ๊อก !! เพราะว่ากลางวันไม่กล้าทานอะไรมาก เกรงว่าตอนกลางคืนจะทานไม่ได้เต็มที่ โอย ! ทุกข์จริงหนอ !!

                   สุดท้ายเศรษฐีเจ้าของบ้านก็เดินยิ้มเข้ามา ทุกคนเลยถามเกือบจะพร้อมกันว่า

                 
“อาหารอยู่ที่ไหน? พวกเรามานั่งคอยจนหิวจะแย่แล้วนะ”

                    เจ้าของบ้านบอกว่า “อ้าว ! พวกท่านได้กลิ่นอาหารไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ?”

                   “กลิ่นจะไม่มีความหมายอะไรเล่า มันยังหิวอยู่ กลิ่นไม่ใช่อาหารนี่”

                   “อ้าว ! ก็เหมือนกับลูกน้องของเศรษฐีเพื่อนเราไม่ใช่หรือ อยู่บนยอดเขาหนาวๆ ยืนเพ่งมองไฟจากยอดเขาอีกลูกหนึ่ง ไม่ได้ความอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว แต่ถูกตัดสินว่ามีไฟผิดสัญญา”

                    เศรษฐีขี้เบื่อฟังแล้วก็อาย หน้าแดง ผู้พิพากษาเพื่อนของเขาก็อาย หน้าแดง จากนั้นลูกศิษย์ผู้มีปัญญาของหลวงพ่อก็ขอโทษแขกที่ให้รอนาน และได้สั่งอาหารมาเลี้ยงแขก

                    หลังจากนั้น เศรษฐีขี้เบื่อก็เรียกคนใช้มา ตกลงยกที่ดินและวัวให้ตามที่เคยพูดไว้

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.057043317953746 Mins