เรื่องที่ ๒
เด็กน้อยอยากให้รถ Porsche กับน้อง
เคยลองสังเกตไหม เวลาเราอยากได้อะไรมากๆ อารมณ์จะเปลี่ยนเร็วมาก ถ้าได้ มันขึ้นสูง ถ้าไม่ได้ มันก็ตกต่ำ บางคนเวลาเขาได้อะไรสักอย่าง โอ้ ! เขาผ่องใสมากเหมือนกับปฏิบัติธรรมมาหลายวัน ทำไมเขาเบิกบานเหลือเกิน มันผ่องใส มันเบิกบาน เพราะเขาได้สิ่งที่เขาอยากได้
แต่ความผ่องใสเบิกบานนั้น สามารถพลิกเป็นแบบเศร้าหมองสุดขีด ในเมื่อเขาไม่ได้สิ่งที่เขาอยากได้ เพราะฉะนั้น ผ่องใสนี่ไม่ห้ามหรอก คนหมกมุ่นอยู่ในสิ่งที่อยากได้ อยากมี อยากเป็นเป็นความผ่องใสชั่วแวบเท่านั้นเอง ขึ้นลงๆ อยู่อย่างนั้น คนเราถ้าปล่อยวางความอยากต่างๆ ได้จิตใจเริ่มมีหลัก บางทีเราเห็น มันก็น่ารักดี
จะเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง มีคนหนึ่งได้รับ รถสปอร์ต Porsche เป็นของขวัญจากพี่ชาย พี่ชายรวย พี่ชายขายบริษัทอะไรสักอย่างได้เงินมาก ซื้อรถให้น้องชาย น้องชายนั่งอยู่ในรถหน้าบ้านมีเด็กผู้ชายเดินมา ดูน่ารักดี
เขาเห็นรถสวยน่ารัก เขาก็ทำเสียง
“ว้าว ได้มาจากไหนครับ? สวยจังเลย !”
“มันเป็นของขวัญจากพี่ชายผมเองครับ” เขาตอบด้วยความภูมิใจ
เด็กคนนี้ได้ยินก็ทำตาโต เขาบอกว่า “ผมอยาก...”
พอเขาพูดคำว่า “ผมอยาก ...”
เจ้าของรถก็เดาทันทีว่าเขาต้องพูดว่า “ผมอยาก มี พี่ชายอย่างนั้นบ้าง!” แต่พลิกล็อคเขาไม่พูดอย่างนั้น
เด็กกลับบอกว่า “ว้าว ผมอยาก เป็น พี่ชายอย่างนั้นบ้าง”
เจ้าของรถเขารู้สึก โอ้ เด็กคนนี้น่ารักจริง เขาก็เลยเมตตา
“อยากไปเที่ยวไหมล่ะ จะขับรถพาไปเที่ยว?” เขาชี้ชวน
“ขอบคุณครับ ไปครับ” เขาก็เลยขับรถออกไปด้วยกัน
สักพักเด็กก็ถาม “ขอโทษครับ จะขอขับรถผ่านบ้านผมได้ไหมครับ?” “ได้ซิ” เขาตอบพลางคิดนึกอยู่ในใจว่า สงสัยเด็กคนนี้อยากจะอวดทางบ้านว่าเขานั่งรถเก๋ง รถ Porsche อย่างนี้แต่ก็ไม่เป็นไร ให้เขาอวดหน่อยก็ได้
“ขอจอดหน้าบ้านได้ไหมครับ?” เด็กถามต่อ
“ได้ๆ ตกลง” เด็กก็ลงจากรถ เข้าไปในบ้าน จูงเด็กเล็กๆ ออกมาคนหนึ่ง
“เห็นรถคันนี้ไหมน้อง พี่คนนี้เขาได้รับรถคันสวยจากพี่ชาย พี่ชายเขาซื้อให้ ตอนพี่โตแล้วพี่ก็จะซื้อให้น้องเหมือนกัน”
อันนี้ระหว่าง ตัณหา อยากได้ กับ ความอยากให้ อันไหนมันงามกว่ากัน ไม่ต้องถาม ไม่ต้องตอบ เห็นของที่คนว่ามันดี ตัวเองไม่คิดว่าอยากได้ แต่ว่าอยากจะมีโอกาสจะให้คนอื่น อยากอย่างนี้ถึงจะเป็น ตัณหา มันก็เป็น ตัณหา ระดับน่ายอมรับ น่ารัก