.....ร้าน "ผักบุ้งลอยฟ้า" เจ้าอร่อยหน้าปากซอยบ้านดิฉัน ถือเป็นโรงครัวขนาดใหญ่ของคนในหมู่บ้านจัดสรร ๓-๔ หมู่บ้านแถบนั้น ดิฉันและพี่ๆ ฝากท้องไว้กับร้านนี้เป็นประจำ อาหารจานเด็ดของที่นี่คือ ผักบุ้งไฟแดง
.....ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมัน รอจนกระทะร้อนจัด ควันสีขาวลอยม้วนขึ้นเป็นระลอก เฮียหนึ่งยังใช้ตะหลิ่วเคาะขอบกระทะอย่างใจเย็น รอให้กระทะร้อนจัดอีกสักพัก แล้วค่อยๆ ยกจานผักบุ้งที่โป๊ะหน้าด้วยกระเทียมและพริกขี้หนู ทุบหยาบๆ ราดด้วยน้ำมันหอย เทพรวดใส่กระทะ จังหวะที่น้ำมันร้อนในกระทะกระเซ็นขึ้นมา ทำให้ติดไฟ ประกายไฟสีส้มแปลบปลาบ ลามเลียผักบุ้งในกระทะ เฮียหนึ่งใช้ตะหลิ่วผัดไปมาประเดี๋ยวเดียวก็ราไฟลง ตักผักบุ้งไฟแดงใส่กระบวยเตรียมพร้อมผักบุ้งไฟแดง สำหรับดิฉันแค่เห็นไฟแลบลงไปในกระทะก็ตื่นเต้นพอแรงอยู่แล้ว เฮียหนึ่งตวัดกระบวยในมือราวกับจอมยุทธ ผักบุ้งไฟแดงก็ลอยคว้างจากเตา มาลงจานในมือเฮียสอง ที่ยืนรอรับอยู่ข้างโต๊ะลูกค้า รับได้แล้วก็เสริฟทันที
.....กว่าเฮียหนึ่งกับเฮียสอง จะทำงานประสานสอดคล้องกันได้ขนาดนี้ ต้องผ่านการฝึกฝนมาไม่น้อย ดิฉันแอบเห็นร่องรอยการฝึกหนักบนหลังมือเฮียสอง ผิวหนังเป็นรอยไหม้เป็นจ้ำ หลายจุด
.....ดิฉันชอบทานผักบุ้งไฟแดง แต่ไม่ชอบผักบุ้งลอยฟ้า ดิฉันกำชับกำชาเฮียหนึ่งเสมอว่า "ไม่ต้องลอยฟ้านะเฮีย" เฮียถามว่า "ไม่ไว้ใจฝีมือเฮียหรือ?" ดิฉันตอบไปว่าไว้ใจ แต่เป็นห่วงกลัวว่าเฮียสองเกิดใจลอยคิดอะไรเพลินอยู่ เดี๋ยวผักบุ้งจะมาลงศีรษะดิฉันแทนที่จะลงจาน
.....วันหนึ่งดิฉันกับพี่สาวไปทานข้าวที่ร้านนี้ตามปกติ เลือกโต๊ะริมสุดด้านใน ดิฉันนั่งหันหน้าออกไปนอกร้าน วันนี้มีคนสั่งเมนูเด็ดอีกแล้ว มีเสียงเฮก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือกราวใหญ่จากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
.....สักพักเสียงคนไทยลูกค้าประจำเฮขึ้นบ้าง ดิฉันถามพี่สาวโดยไม่ได้หันกลับไปมองว่า "เฮียสองพลาดใช่ไหม?" พี่สาวถามดิฉันว่ารู้ได้อย่างไร ดิฉันตอบเธอไปว่า "ก็นี่เป็นธรรมชาติของคนไทย"
.....ดิฉันอดคิดไม่ได้ว่าระหว่างที่เฮียหนึ่งตวัดกระบวย ให้ผักบุ้งไปลอยคว้างอยู่ในอากาศนั้น ในเสี้ยววินาทีสั้นๆ นั้น ในใจแต่ละคนคิดอะไรอยู่ บางคนอาจจะเชียร์ให้เฮียสองรับผักบุ้งลงจานพอดิบพอดี บางคนอาจจะเชียร์ผักบุ้งให้เหินลอยเลยที่หมายไปหน่อย เสริฟบนโต๊ะโดยไม่ต้องใช้จานรอง หรือบางคนคิดเลยเถิดให้ผักบุ้งลงหัวใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเอง ต่างคนต่างความคิด
.....ความคิดดิฉันสะดุดลงเมื่อได้ยิน เสียงเฮดังลั่น พร้อมกับเสียงปรบมือดังกว่าเดิม ดิฉันหันไปมองทันได้เห็นเฮียสองโค้งอย่างสวยงามรับเสียงปรบมือ ใบหน้าเฮียเปื้อนยิ้ม ดิฉันยกหัวแม่มือซ้ายให้เฮียสอง ส่วนหัวแม่มือขวายกให้เฮียหนึ่ง เสียงเฮียหนึ่งหัวเราะลงลูกคอดังลั่นอยู่หน้าเตาไฟ
ภัทรา ประภาสชล