บุญตามมาช่วย ครั้งที่ ๖
ฝ่ายลูกชายตัวจริงของเศรษฐีกำลังเล่นอยู่กับเพื่อน เล่นแพ้อยู่เรื่อย เมื่อเห็นโฆสกะก็เรียกทันที “พี่ๆ ไปไหนหรือ”
โฆสกะ “พ่อสั่งให้พี่ไปหาช่างปั้นหม้อน่ะ”
น้องชาย “พี่ช่วยฉันเล่นหน่อย ให้ชนะพวกนี้ให้ได้ ฉันแพ้มาตั้งหลายครั้งแล้ว”
โฆสกะ “พี่กลัวพ่อดุเอา”
น้องชาย “ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันจะไปแทนพี่เอง แล้วเล่นให้ชนะนะ”
ที่น้องให้เล่นแทน เพราะรู้ว่าโฆสกะฉลาด เล่นเก่ง โฆสกะจึงบอกกับน้องว่า “น้องไปบอกช่างปั้นหม้อนะว่า งานที่พ่อให้ทำน่ะ รีบทำให้เสร็จเร็วๆ แค่นี้แหละ จำได้ไหม”
น้องชาย “โอ๊ย แค่นี้เอง จำได้”
แล้วรีบวิ่งไปบ้านช่างปั้นหม้ออย่างรวดเร็ว กะว่าเสร็จงานแล้วจะรีบกลับมาเล่นต่อ แต่อนิจจา เมื่อลูกเศรษฐีตัวจริงไปหาช่างปั้นหม้อ เขาก็ฆ่าลูกเศรษฐีนั้นตามที่เศรษฐีสั่งทุกอย่าง
(ถามว่าลูกจริงๆ ของเศรษฐีโชคร้ายไหม ก็คงตอบว่าโชคร้าย แต่ไม่ว่าโชคร้ายหรือโชคดี สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างลอยๆ เพราะผลทั้งหลายย่อมเกิดมาจากเหตุ ไม่ว่าจากอดีตช่วงใกล้ คือ นับตั้งแต่วันที่เกิดมาลืมตาดูโลก กระทั่งถึงเมื่อวานนี้ หรือดีตช่วงไกล คือ ชาติก่อนๆ ซึ่งมากมายนับไม่ถ้วนชาตินั่นเอง เหตุที่ลูกแท้ๆ ของเศรษฐีต้องตายอย่างนั้น เพราะไปทำปาณาติบาตตัดรอนชีวิตเขาไว้ในชาติก่อน ไม่ว่าจะฆ่าสัตว์เดียรัจฉานหรือฆ่ามนุษย์ก็ตาม บาปกรรมนั้นจึงตามมาส่งผลในชาตินี้)
ฝ่ายโฆสกะเล่นอยู่ตั้งนานไม่เห็นน้องมาสักที คิดว่าน้องอาจจะกลับไปที่บ้านแล้ว ก็กลับบ้าน เมื่อไปถึงบ้าน เศรษฐีเห็นเข้าก็ถามด้วยเสียงอันดังว่า “อ้าว โฆสกะไม่ได้ไปหาช่างปั้นหม้อตามที่ฉันสั่งไว้หรอกหรือ”
เมื่อฟังเรื่องราวจากโฆสกะจบ เศรษฐีร้องลั่นบ้าน เลือดในตัวสูบฉีดอย่างแรง ร้อนไปทั่วทั้งตัวทั่วใบหน้า รีบวิ่งออกไปหาช่างปั้นหม้ออย่างรวดเร็ว ปากก็ร้องตะโกนว่า “อย่าทำลูกฉันๆ”
ช่างปั้นหม้อเห็นเศรษฐีวิ่งตะโกนมาแต่ไกล จึงเอานิ้วมือแตะที่ปากทำเสียงจุ๊ จุ๊ บอก่วา “นาย อย่าเสียงดังไป งานที่ให้ทำน่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว” เศรษฐียิ่งทวีความโศกเศร้าเหมือนภูเขาไฟใหญ่มาท่วมทับเอาไว้ เริ่มเจ็บออดๆ แอดๆ ตั้งแต่นั้นมา เพราะความเสียใจอย่างใหญ่หลวงที่ลูกตัวเองต้องตายและแค้นที่ฆ่าโฆสกะไม่ได้สักที