สวากขาโต ภควตา ธัมโม
ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้แล้ว หมายถึง ทั้งปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรม และปฏิเวธธรรม เป็นธรรมที่นำไปสู่การหลุดพ้น และพระองค์ก็ได้ตรัสไว้ดีแล้ว คือ ตรัสเทศนาไพเราะทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย สมบูรณ์ด้วยอรรถและพยัญชนะ ทำให้ผู้ฟังสงบระงับดับเสีย ซึ่งความทุกข์ต่างๆ ที่มีกิเลสเป็นเหตุ ระหว่างประพฤติปฏิบัติตามก็มีแต่ความแช่มชื่นเบิกบานแจ่มใส สุขกาย สบายใจ หลังจากการประพฤติปฏิบัติยิ่งมีจิตใจอิ่มเอิบเป็นทวีคูณ ใกล้ความ สิ้นทุกข์ไปเรื่อยๆ สมความมุ่งหมายที่แสวงหามาช้านาน
สันทิฏฐิโก
เป็นธรรมที่บุคคลผู้ปฏิบัติจะเห็นประจักษ์เอง ได้แก่ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 ไม่ใช่เป็นธรรมที่เพียงแต่ได้ยินได้ฟังแล้วจดจำไว้เท่านั้น เป็นของที่สามารถเห็นแจ้งประจักษ์ด้วยปัญญาของตนได้ ในเมื่อชำระจิตสันดานของตนให้สงบหรือหมดสิ้นจากกิเลสมีราคะ เป็นต้น
อกาลิโก
พระธรรมเป็นสิ่งที่ให้ผลโดยไม่มีกาลสมัย คือ ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติดีจริงเมื่อใดผลดีก็เกิดได้เมื่อนั้น ไม่ต้องรอเวลา เช่น มรรค 4 มีโสดาปัตติมรรค เป็นต้น เมื่อปฏิบัติก็ย่อมให้ผล ตามลำดับของตน ไม่ต้องรอ ต่างจากพืชที่เราปลูก เมื่อปลูกแล้วต้องรอเวลาให้ผล แต่ธรรมไม่ใช่เช่นนั้น เพราะเมื่อมรรคจิตเกิดขึ้นผลจิตก็เกิดทันที ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ไม่ต้องรอคอย
เอหิปัสสิโก
เป็นพระธรรมที่ควรเชื้อเชิญเรียกให้ผู้อื่นมาดู เพราะเป็นสิ่งมีจริงเหมือนดวงจันทร์อยู่บนฟ้าที่ปราศจากเมฆ หรือเหมือนดวงแก้วมณีที่วางไว้ในผ้ากัมพล ควรมาชื่นชมกัน
โอปนยิโก
มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 เป็นธรรมที่พึงน้อมเข้ามาในใจด้วยการเจริญภาวนา และทำให้แจ้งในพระนิพพาน ควรปฏิบัติด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่แท้จริงเด็ดเดี่ยว แม้ถ้าจะมีไฟไหม้ บนศีรษะ หรือไหม้เครื่องนุ่งห่มที่ปกปิดร่างกายอยู่ก็ตามที ก็ไม่ใส่ใจดับไฟนั้น มากไปกว่าการปฏิบัติตามธรรม เพราะธรรมเหล่านี้เองปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวก็สามารถปิดประตูอบายได้
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
พระธรรมเป็นสิ่งที่ผู้มีปัญญาทั้งที่เป็นกัลยาณปุถุชน และอริยบุคคลทั้งหลายรู้ได้ เห็นแจ้งได้เฉพาะตน
------------------------------------------------------------------------
สมถกัมมัฏฐาน 40 วิธี