รวมบทสวดมนต์ คำกล่าวในศาสนพิธี

คำว่า บอก คือ แจ้งให้รู้บอกให้ทราบ แก่พวกคฤหัสถ์หรือพวกบรรพชิตต่างลัทธิ คำว่า อาบัติชั่วหยาบ ได้แก่ อาบัติปาราชิก

คำว่า อุตตริมนุสสธรรม หมายถึงธรรมที่ข้ามพ้นพวกมนุษย์, ธรรมที่ล่วงเลยพวกมนุษย์แล้วทำให้ลุถึงความเป็นพรหม

คำว่า มาตุคาม ได้แก่ หญิงมนุษย์ผู้รู้เดียงสาแล้ว คำว่า ธรรม ได้แก่ บาลีที่เป็นพุทธภาษิต สาวกภาษิต อิสิภาษิต เทวตาภาษิต

คำว่า มาตุคาม ได้แก่ สตรีหรือผู้หญิง แม้ที่เกิดในวันนั้น คำว่า นอนร่วม คือ นอนในที่เดียวกัน มีที่มุงที่บังเดียวกัน แต่มิได้

สิกขาบทนี้ช่วงแรกทรงห้ามมิให้ภิกษุนอนร่วมกับคฤหัสถ์โดยตรงแม้คืนเดียว เพราะมูลเหตุของต้นบัญญัติระบุว่า

คำว่าธรรม ได้แก่ บาลีที่เป็นพุทธภาษิตสาวกภาษิตอิสิภาษิตเทวตาภาษิต ซึ่งประกอบด้วยอรรถ ประกอบด้วยธรรม

คำว่าส่อเสียด มาจากคำว่า เปสุญญวาท หมายถึงคำพูดเหน็บแนม คำพูดกระแนะกระแหน คำพูดนินทาลับหลัง คำพูดประชด

คำว่า พูดดูถูก มาจากคำว่า โอมสวาท หมายถึง คำทิ่มแทง, คำถากถาง, คำดูหมิ่น, คำแดกดัน, คำถากถาง,

คำว่า พูดเท็จทั้งที่รู้อยู่ หมายถึงพูดปด พูดโกหก พูดเรื่องไม่จริงทั้งที่รู้ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องโกหก เป็นเรื่องไม่จริง

อนึ่ง ภิกษุใดรู้อยู่ น้อมลาภที่เขาน้อมไว้เป็นของจะถวายสงฆ์มาเพื่อตนเป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์

ออกพรรษาแล้ว อยากจะเก็บไตรจีวรผืนใดผืนหนึ่งไว้ในบ้านเมื่อมีเหตุก็เก็บไว้ได้เพียง ๖ คืนเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเก็บไว้ให้เกินไป ๖ คืนไป

คือตั้งแต่ขึ้น ๖ ค่ำเดือน ๑๑ ถ้าทายกจะถวายผ้าจำนำพรรษา ก็รับเก็บไว้แต่ถ้าเก็บไว้เกินกาลจีวรไป

ถ้าคฤหัสถ์ที่มิใช่ญาติมิใช่ปวารณา สั่งให้ช่างหูกทอจีวรเพื่อจะถวายแก่ภิกษุ ถ้าภิกษุไปกำหนดให้เขาทำให้ ดีขึ้นด้วยจะให้รางวัลแก่เขา

อนึ่ง ภิกษุใดขอด้ายมาเองแล้วให้ช่างหูกทอจีวรเป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์

อนึ่ง ภิกษุใดให้จีวรแก่ภิกษุเองแล้วโกรธ ไม่พอใจ ชิงเอามาก็ดี ให้ชิงเอามาก็ดี เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์

เหลืออยู่อีกกึ่งเดือน คือตั้งแต่ขึ้นค่ำหนึ่งเดือน ๘ จึงทำนุ่งได้ถ้าแสวงหาหรือทำนุ่งให้ล้ำกว่ากำหนดนั้นเข้ามาต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์

คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อยแล้ว เก็บไว้ฉันได้เพียง ๗ วันเป็นอย่างยิ่งถ้าให้ล่วงไป ๗ วัน ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์

ขอบาตรใบใหม่แต่คฤหัสถ์ที่มิใช่ญาติมิใช่ปวารณา ได้มา ต้องนิสสัคคิย-ปาจิตตีย์

คำว่าสันถัต หมายถึงเครื่องลาดชนิดหนึ่งเหมือนพรม ใช้เป็นผ้าหรืออาสนะสำหรับรองนั่ง เป็นสิ่งที่เขาหล่อขึ้นมา มิได้ทอเหมือนพรม

ใครเป็นไวยาวัจกรของท่าน ถ้าภิกษุต้องการจีวร พึงแสดงคนวัดหรืออุบาสกว่า ผู้นี้เป็นไวยาวัจกรของภิกษุทั้งหลาย

พึงเก็บอติเรกบาตรไว้ได้ ๑๐ วันเป็นอย่างยิ่ง เมื่อให้เกินกำหนดนั้นไป เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์