เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันเสาร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
วันนี้ เราได้พร้อมใจกันมาอัญเชิญจักรแก้ว ซึ่งเป็นประธานแห่งรัตนะ ๗ และจะได้จุดประทีปบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เป็นการบูชาบุคคลที่ควรบูชา ซึ่งถือว่าเป็นมงคล อันสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตของเรา
พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเป็นมหาปูชนียาจารย์ ที่เป็นต้นบุญต้นแบบของโลก เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมและคุณวิเศษ อุดมด้วยวิชชาและจรณะ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ มหาปัญญา และมหากรุณา
ความบริสุทธิ์ของท่าน เกิดจากการที่ท่านได้บำเพ็ญสมณธรรม เมื่อท่านได้บรรพชาอุปสมบทแล้ว วันแรกก็ลงมือปฏิบัติธรรมเรื่อยมา ไม่เคยขาดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว ปฏิบัติธรรมทุกวันจนกระทั่งตลอดชีวิต ท่านมีข้อวัตรปฏิบัติที่งดงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย ตลอดระยะเวลาแห่งการประพฤติพรหมจรรย์ ในเพศสมณะอันประเสริฐ ท่านได้ฝึกฝนอบรมตัว ตามพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกระทั่งทำความละเอียดได้เข้าไป ถึงต้นแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ภายใน สามารถหยุดใจได้ สมบูรณ์ ได้เข้าไปถึงพระผู้รู้ภายใน มากมายนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน เป็นพระธรรมกายที่เปี่ยมด้วย ความบริสุทธิ์ และความรู้อันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ และท่านก็ได้ศึกษาค้นคว้าความรู้กับท่านผู้รู้ทั้งหลายเหล่านั้น จนกระทั่งถึงคลังแห่งความรู้แจ้งเห็นแจ้ง อันไร้ขอบเขต ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของวิชชาธรรมกาย มหาปัญญาอันบริสุทธิ์จึงบังเกิดขึ้นกับท่าน
มหาปัญญาเป็นปัญญาเครื่องพ้นทุกข์ ที่จะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ในสังสารวัฏ หลุดพ้นจากการครอบงำของกิเลสอาสวะ จากการบังคับบัญชาของพญามาร เป็นวิชชาที่กำจัดอวิชชา สามารถขจัดไปถึงต้นเหตุ ของบาปอกุศลธรรม ที่จะไปดับต้นของพญามารได้ ไม่ใช่เป็นวิชชาที่ทำให้ล่วงวัฏฏะ แต่เป็นวิชชารื้อวัฏฏะ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา ท่านทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ งานรื้อวัฏฏะเป็นงานหลักที่แท้จริงของท่าน ที่ท่านตั้งใจมาเกิด แต่ละครั้งก็มาเพื่อการนี้ คือ มาทำความละเอียดในยุทธภูมิภายใน สู้รบกับพญามารไม่เคยถอนถอยเลย ภารกิจนี้เป็นกรณียกิจที่สืบสานกันมายาวนาน และเป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่ทำก็ไม่ได้ และต้องทำให้สำเร็จด้วย เพื่อยังสันติสุขอันเป็นนิรันดร์ให้บังเกิดขึ้น แก่มวลมนุษยชาติและธาตุธรรม
พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านมีมหากรุณาต่อพวกเราและชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้สละชีวิตอุทิศเป็นพุทธบูชา เพื่อค้นคว้าคำสอนดั้งเดิม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้หวนกลับคืนมาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราและชาวโลกได้รู้จักพระธรรมกายอย่างแท้จริง พระธรรมกายเป็นกายตรัสรู้ธรรม ของมนุษย์ทุกๆ คนในโลก ขึ้นชื่อว่ามีมนุษย์อยู่ที่ไหน ก็มีพระธรรมกายอยู่ที่นั่น เพราะพระธรรมกายมีอยู่แล้วในตัวของทุกๆ คนในโลก เป็นของสากลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ถ้าใจหยุดนิ่ง ไม่จำกัดด้วยเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ หากทำใจให้หยุดได้เมื่อไหร่ ก็เข้าถึงได้เมื่อนั้น และพระธรรมกายนี่แหละที่เป็นเนื้อแท้ของพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นตลอดชีวิตของพระเดชพระคุณ หลวงปู่ท่านจึงสอนให้ทุกๆ คนได้ปฏิบัติให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในตัว เพราะท่านรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยให้มวลมนุษยชาติพ้นจากความทุกข์ พ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร ดังนั้นทุกอณุวินาที ท่านจะมุ่งมั่นทำวิชชาปราบมาร พร้อมกับการทำหน้าที่เผยแผ่ไปด้วย เพื่อให้ชาวโลกมีความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องพระรัตนตรัย เรื่องการสร้างบารมี และเรื่องการตั้งเป้าหมายชีวิตที่ถูกต้องสมบูรณ์
ท่านเป็นปฐมาจารย์ผู้บุกเบิกที่เสียสละเยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์ จึงนับเป็น มหาปูชนียบุคคล ที่หาได้ยากยิ่งในโลก หากไม่มีการบังเกิดขึ้นของท่าน ไม่มีการบรรลุธรรมของท่าน และไม่มีการเผยแผ่ธรรมของท่าน เราก็จะหมดโอกาสมาพบกับแสงสว่างของชีวิต และอาจมีชีวิตอยู่อย่างไร้จุดหมาย แต่เพราะมีท่าน เราจึงดำเนินชีวิตได้ถูกต้องปลอดภัย และมีความมั่นใจในเรื่องพระรัตนตรัย เรื่องบุญกุศล เรื่องโลกนี้โลกหน้า เรื่องกฎแห่งกรรม สัมมาทิฏฐิจึงได้บังเกิดขึ้นในตัวเรา และเป้าหมายชีวิตของเราก็ชัดเจนขึ้น
ด้วยเหตุที่ท่านมีพระคุณต่อพวกเรา และชาวโลกมากอย่างนี้ เราจึงพร้อมใจกันบูชาธรรมท่าน ในวาระเฉลิมฉลองเทศกาลบุญปีใหม่ ด้วยการอัญเชิญจักรแก้ว ประธานแห่งรัตนะ ๗ มาประดิษฐานหน้ามหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เพื่อระลึกนึกถึงบุญ และเป็นการประดับบารมี เสริมสง่าราศีให้มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี สูงเด่นเป็นสง่า เสมือนหนึ่งทิพยปฏิมากรรม ที่ประดับในทิพยวิมานของมหาสมณเทวบุตร ในดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ และจักรแก้วก็เป็นของคู่บุญของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ที่ได้ครอบครองทวีปทั้งสี่ด้วยอานุภาพแห่งบุญ เราได้มีส่วนในบุญจักรแก้ว ก็จะทำให้เราเป็นผู้มีชัยชนะไปตลอดกาล
เมื่อเราอัญเชิญจักรแก้วแล้ว เราก็จะร่วมกันจุดประทีปบูชาพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เพื่อความสว่างไสวในชีวิต และความมีสิริมงคลของเรา การที่เราได้บูชาบุคคลที่ควรบูชาด้วยแสงสว่างแห่งประทีป ก็จะทำให้เราเป็นผู้มีดวงปัญญาที่สว่างไสว มีรัศมีกายที่สว่าง จิตใจก็จะสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส จะไม่มีความมืดของอวิชชา มาบดบังรู้ญาณของเราได้เลย เราจะมีดวงตาที่สดใสสวยงาม จะไม่เป็นโรคเกี่ยวกับตา กระทั่งมีดวงตาเห็นธรรม ได้บรรลุธรรมโดยง่าย โดยเร็วพลัน ธรรมอันใดที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้บรรลุ เราก็จะได้บรรลุธรรมนั้น และก็เป็นนิมิตหมายว่า ต่อแต่นี้ไป ชีวิตเราจะสว่างไสวรุ่งเรืองในธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทีปธรรมนี้ก็จะเป็นเสมือนดวงชวาลย์แห่งชีวิต ที่จะเป็นพลังบุญพลังชีวิต ที่รุ่งโรจน์พร้อมกับการก้าวขึ้นสู่ศักราชใหม่
ในวันขึ้นปีใหม่ เราก็ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าเดิม สิ่งใดที่ไม่ดีเราก็ไม่ควรไปประพฤติอีก ส่วนสิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ทำให้สมบูรณ์ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ให้เปลี่ยนแปลงอุปนิสัยใหม่ อุปนิสัยที่เป็นผู้นำบุญยอดนักสร้างบารมีที่ไม่มีวันหยุดยั้งในการสร้างบารมี ให้เสริมสร้างศักยภาพ ในการสร้างบารมีอย่างเป็นระบบ ง่ายต่อการปฏิบัติ และลัดต่อความสำเร็จ เพราะเรามาเกิดเพื่อการนี้ พึงเร่งสร้างบารมีกันให้เต็มที่เต็มกำลัง เราจะต้องสั่งสมบุญทุกๆ บุญ สั่งสมความรู้ และความบริสุทธิ์ทุกๆ วัน
ฉะนั้น ขึ้นปีใหม่ก็ให้ยกระดับการสร้างบารมี ให้มันสูงขึ้นแล้วก็ทุ่มเทชีวิตจิตใจ สร้างบารมีกันต่อไปอย่าได้ย่อท้อเบื่อหน่าย ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังไม่เบื่อหน่ายในการส่องแสงสว่าง เรายอดนักสร้างบารมีก็ต้องไม่เบื่อหน่ายในการทำหน้าที่เป็นแสงสว่างให้แก่โลก
ในวารดิถีขึ้นปีใหม่นี้ หลวงพ่อขออำนวยพร ให้มวลมนุษยชาติทั่วโลก พบกับสันติสุขอันแท้จริง ให้บ้านเมืองของเรา และเพื่อนบ้านสงบสุข ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ ให้ลูกทุกคนมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ให้ร่ำรวยเสมือนหนึ่งเรา เป็นแม่เหล็กดึงดูดมหาสมบัติทั้งหลาย ให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงจิตใจแข็งแกร่ง ให้เศรษฐกิจ กับจิตใจเจริญไปด้วยกัน ให้ลูกทุกๆ คนมีความสุข สมปรารถนาในสิ่งที่ดีงาม และให้หมั่นปฏิบัติธรรม ทั้งเช้าทั้งเย็น ให้เข้าถึงพระธรรมกาย ให้เตือนตัวเองบ่อยๆ ว่าอย่าประมาทในชีวิต พุทธศักราชใหม่ ๒๕๔๙ ที่จะถึงนี้ ให้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่หยุดนิ่ง เพราะหยุดคือทุกสิ่งที่ดีงาม ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สุขอันยิ่งใหญ่ ต่อตัวเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ตราบวันเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม
|