สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการมีลูกคือ การที่ลูก เป็น คน เลว ..!! มีผู้คนจำนวนมาก ที่หาเหตุผลไม่ได้ว่า การที่พ่อแม่ให้ลูกในทุกสิ่งแล้ว แต่ทำไมลูกถึงเป็นคนดีไม่ได้ ...
กระแสความกลัว กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่หยั่งรากลึกเข้าสู่จิตสำนึก ของผู้เป็นพ่อแม่ หรือแม้แต่ผู้ที่มีเด็ก หรือวัยรุ่นอยู่ในอาณัติปกครอง เพราะสังคมทุกวันนี้ เต็มไปด้วยค่านิยม ที่เสี่ยงต่อการเสียคนของเด็กวัยรุ่นสูงมาก
และในวันนี้ทีมงานเราจะขอเสนอเรื่องแนวนี้ แต่เราไม่ได้มาสัมภาษณ์ผู้ที่กำลังเป็นพ่อแม่ว่า ต้องเลี้ยงลูกอย่างไรลูกถึงจะเป็นคนดี แต่เรากำลังมาหาคนเดินเรื่อง ที่เป็นผลพวงจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ จึงทำให้เราได้มาพบกับ เด็กลูกครึ่งหน้าตาดี เรียนดี และรักดี .. คนหนึ่ง เมื่อถามเธอว่า “ ทำไมหนูถึงเป็นคนดี .. ?? ” คำตอบของเด็กวัย ๑๕ ปีคนนี้ ฟังแล้วเราถึงกับรู้สึกอึ้งปนทึ่ง ว่าหนูอายุ ๑๕ จริงหรือ !!!.. อะไรทำให้เธอคิดได้ขนาดนี้ .. ด้วยเหตุนี้เราจึงเชื่อมั่นว่า ความคิดของเธอ อาจทำให้คุณได้ข้อคิดอะไรบางอย่าง ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยน Look ของการเลี้ยงลูก หรือหลานที่คุณรักที่บ้าน ...
นันทวัน ริดเดล หรือ น้องวิว คุณพ่อเธอเป็นชาวแคนาดา ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย
“ที่จริงแล้ว.. ชีวิตวิวก็เหมือนกับเด็กหญิงทั่วๆ ไปคนหนึ่ง แต่วิวโชคดีที่คุณแม่พาวิวเข้าวัดตั้งแต่วิวอยู่ในท้อง คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะท้องวิว ท่านมาวัดบ้างแต่ไม่มาก เพราะบ้านเราอยู่ราชบุรี สมัยนั้นเดินทางลำบาก แต่พอคุณแม่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองท้อง นับตั้งแต่บัดนั้น ท่านจะพยายามมาวัดถี่ขึ้น เพราะอยากให้ลูกที่เกิดมาเป็นคนดี ...”
หลายคนคิดว่า การมาวัดนั้นไม่สำคัญ จะเป็นไปได้อย่างไร แค่การมาวัดเท่านั้นหรือ จะทำให้ลูกเป็นคนดี
“ ดูเผินๆ เหมือนไม่ ..! ซึ่งหลายๆ ครอบครัวมักจะคิดแค่ว่า หากพ่อแม่อบรมลูกดี ให้เข้าโรงเรียนดีๆ ก็เกินพอสำหรับการที่เขาจะเติบโตเป็นคนดีของสังคมได้ แต่ตรงกันข้ามเราพบว่า มีหลายครอบครัวที่ทำเพียงแค่นี้แล้วต้องพบกับความล้มเหลว ทั้งที่พ่อแม่ก็ให้การอบรมสั่งสอนลูกดี แต่กลับได้พฤติกรรมไม่ดีมาเป็นการตอบแทน อย่างวิวเห็นเพื่อนบางคนโดดเรียนไปหาแฟน หนีเรียนไปตบกัน ไม่เคารพครู สอบตก บางคนตั้งท้องในวัยเรียน เด็กนักเรียนชายบางคนก็ไปทำให้เขาท้องอีกด้วย คือ นำเรื่องกลุ้มใจมาสู่พ่อแม่ไม่รู้จบ และเมื่อพ่อแม่สอนอะไรก็จะเถียง เพราะพ่อแม่อาจจะลืมไปอย่างหนึ่งว่า เด็กวัยนี้ .. เป็นวัยที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง โดยธรรมชาติจะเป็นวัยช่างเถียง และขัดแย้งกับพ่อแม่สูงมากอยู่แล้ว ซึ่งหากพ่อแม่ใช้วิธีการบังคับ เด็กบางคนอาจประชดทำตัวไม่ดีจนต้องเสียคนไปจริงๆ
และอีกประเด็นหนึ่งที่ควรทำ ความเข้าใจคือ ความสนิทคุ้นเคยกับพ่อแม่มากๆ ความเคยชินอาจทำให้ลูก รู้สึกชินและไม่เชื่อฟัง แต่กลับเชื่อฟัง และศรัทธา “ฮีโร่ที่อยู่ในใจ ของเขาในขณะนั้น” ถ้าฮีโร่ดี .. ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ดี .. ก็จะได้รับตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วนำมาทำตามในที่สุด ซึ่งถ้าทำตามแล้ว แถมมีเพื่อนสนับสนุน เฮตามไปด้วย ก็ยิ่งเสียคนไปกันใหญ่เลย ดังนั้นการมาวัดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เป็นการเอาพลัง ความเชื่อมั่น ที่มีอย่างเหลือเฟือของวัยรุ่น มาใช้ในเชิงสร้างสรรค์ โดยมีกิจกรรม ของวัดรองรับ เป็นการเปิดโอกาส ให้เขาเห็น ต้นแบบที่ดีของวัยเดียวกัน เป็นการทำให้เขา มีสิ่งแวดล้อมที่ดีเพียงพอ ที่จะเติบโตเป็นคนดีอย่างแข็งแรง เพราะเด็กๆ จะสามารถซึมซับวัฒนธรรมที่ดี จากแบบอย่างของคนดีที่เขาเห็น ทำให้เขาคุ้นเคยกับความดี จนรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่า อยากทำความดีและมีความสุข กับการเป็นคนดี และที่สำคัญวัดพระธรรมกายเป็นวัดที่มีเพื่อน วัยเดียวกับเขามากันเป็นจำนวนมาก และเขายังได้มานั่งสมาธิเพื่อพัฒนาการเรียนอีกด้วย ”
สำหรับน้องวิวเอง ก็อยู่ในวัยนี้ ซึ่งเป็นวัยที่เชื่อมั่นและมีความคิดเป็นของตัวเองสูง เคยบ้างไหม ที่ขัดแย้งกับคุณแม่ ..?
“ เคยค่ะ .. อย่างเมื่อก่อนสมัยที่บ้าน ยังไม่ติดจานดาวเทียมถ่ายทอดธรรมะ หรือที่เรียกกันว่าจานดาวธรรม แม้วิวจะมาวัดกับแม่ก็จริง แต่ก็ยังเถียงกับแม่อยู่ ในเรื่องของความเป็นวิทยาศาสตร์กับศาสนา เพราะคิดว่าบางสิ่งของพระพุทธศาสนางมงาย แต่พอวิวได้มาฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อในช่อง DMC ทุกๆ วัน ทำให้วิวเปลี่ยนทัศนคติไปเลย ทำให้วิวเข้าใจพุทธศาสนา อย่างถ่องแท้มากขึ้น ทำให้วิวคิดว่าธรรมะ เป็นเรื่องของเหตุผลล้วนๆ แต่วิทยาศาสตร์ยังตามไม่ทันต่างหาก โดยเฉพาะเรื่อง Case Study เรื่องของกฎแห่งกรรม เมื่อฟังคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้ว ทำให้วิวคิดปรับปรุงแก้ไข ในสิ่งที่ไม่ดีของตัวเอง อย่างอัตโนมัติ อย่างเต็มใจ อะไรไม่ดีเราก็ไม่อยากทำเลย ทั้งๆ ที่วิวเองก็อยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง หลวงพ่อสามารถสอนให้เห็นถึงโทษ ของอบายมุขได้ชัดเจนมากๆ ทำให้วิวไม่เถียงแม่ในเรื่อง พระพุทธศาสนาอีกเลย และรู้สึกเข้าใจในความรักที่แม่ให้วิว ”
ปกติแล้ว วัยรุ่น หรือเด็กสมัยนี้ จะไม่ชอบและไม่ยอมมานั่งเฉยๆ เพื่อฟังเทศน์ กัน สำหรับเรื่องนี้น้องวิวคิดอย่างไร ...!!
“ ปัจจุบันเรากำลังพบว่าคนส่วนใหญ่นั้น เข้าไม่ถึงพระพุทธศาสนา เพราะติดภาพว่า ต้องนั่งนิ่งๆ แล้วฟังพระเทศน์ที่มีแต่หลักการล้วนๆ บางทีไปฟังแล้วหลับก็มี แต่พอวิวได้มาฟัง พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านเทศน์ดีมากๆ มีการใช้สื่อการสอนธรรมะที่ทันสมัยสุดๆ ไม่เบื่อ แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ก็มานั่งฟังกันได้ มีเพลงสอนเขา จนธรรมะค่อยๆ ซึมเข้าสู่จิตใจของเขาเอง คือหลวงพ่อท่านเทศน์ด้วยอารมณ์สบาย มีขำ มีหัวเราะ มีเพลง มีภาพ มีพูด มีสไตล์การเทศน์ที่รู้สึกกันเองมากๆ ซึ่งการเทศน์แบบนี้บางคนอาจจะคิดว่าดูกันเองเกินไป แต่สำหรับเด็กวัยอย่างวิวแล้ว หากท่านไม่เทศน์สอนแบบกันเองแบบนี้ วิวก็คงไม่ได้ฟัง ดังนั้นสไตล์การเทศน์ของท่าน อาจเป็นสไตล์ที่หลายคนไม่คุ้น แต่การเทศน์แบบนี้แหละ จะทำให้ทุกเพศทุกวัยฟังกันได้ทุกคน ”
น้องวิวมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับจานดาวธรรม
“ วิวว่า ทุกบ้านควรจะติดจานดาวธรรม ถ้าอยากให้ลูกเป็นคนดี เพราะจานดาวธรรมเป็นสื่อที่ดี แตกต่างจากทีวีทุกช่อง เป็นสื่อสีขาวล้วน ที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดี ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงเลย เราออกเฉพาะค่าอุปกรณ์เท่านั้น รายเดือนก็ไม่มี แล้วได้ดูรายการฟรีตลอดไป ซึ่งวิวว่าการติดจานดาวธรรมนี้คุ้มมากๆ
แล้วอีกอย่าง วิวไม่อยากให้ทุกคนที่เป็นชาวพุทธ รู้จักพระพุทธศาสนาเพียงแค่งูๆ ปลาๆ แล้วสรุปว่า พระพุทธศาสนางมงาย วิวอยากให้ลองมาพิสูจน์ วิวไม่อยากให้เราปิดกั้นตัวเอง เพราะการปิดกั้นตัวเอง เพื่อไม่ให้รับรู้ในสิ่งที่ดี เท่ากับเป็นการเอาไม้ไปจิ้มตาตัวเองให้บอด อย่าไปทำเลย มาเปิดโอกาสให้ตัวเอง และชวนลูกหลานที่คุณรัก เข้ามาศึกษาในสิ่งนี้กันดีกว่า ...”
เด็กวัย ๑๕ ปีคนนี้ ธรรมะทำให้เธอเป็นคนดี ทุกวันเธอจะตื่นเช้ามานั่งสมาธิ สวดมนต์ทำวัตรในใจบนรถเมล์ ขณะเดินทางไปโรงเรียน ตั้งใจเรียนจนได้เกรด ๓.๕ พอกลับถึงบ้านเมื่อทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ก็จะบูชาเจดีย์หน้า DMCต่อด้วยการดูรายการของ โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทุกวัน เพราะเธอรัก D..... ( DMC... )