ชาวพุทธควรปฏิบัติตนอย่างไรในช่วงเข้าพรรษานี้จึงจำได้บุญเต็มที่ครับ
ช่วงเข้าพรรษา พระเก่าพระใหม่ท่านก็อยู่พร้อมหน้า เมื่ออยู่พร้อมหน้ากันอย่างนี้ ก็เป็นโชคดีของญาติโยม โชคดีอย่างไรเนื้อนาบุญอยู่พร้อมหน้าญาติโยมตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดมา ท่านไม่ปล่อยให้พระท่านเข้าพรรษาเพียงลำพังหรอก ญาติโยมก็พลอยเข้าพรรษาไปด้วยเหมือนกัน แต่ว่าเข้าพรรษา ของญาติโยม เข้าพรรษาด้วยการอธิษฐานจิต
หลักธรรมในพระพุทธศาสนา มีแม่บทไว้ชัดอยู่ ๓ ข้อคือ
๑. ละชั่ว
๒. ทำดี
๓. กลั่นใจให้ใส
เมื่อพระท่านอยู่จำพรรษา ท่านก็มีหน้าที่ของท่านว่า ละชั่ว คำว่าละชั่วของพระไม่ใช่ชั่วหยาบๆ คายๆ อย่างที่มนุษย์เป็นกัน แต่ว่าละชั่วของท่านในที่นี้หมายถึงละกิเลสซึ่งโดยทางโลกแล้วมองไม่ออกหรอกว่าเป็นความชั่ว ความไม่ดี เช่นมีจิตใจฟุ้งซ่าน ความจริงก็อยู่ในใจท่าน คนอื่นมอง ไม่เห็นหรอก ถึงขนาดนั้นท่านก็พยายามจะละความฟุ้งซ่านของท่านให้ได้ ด้วยการเจริญภาวนา ให้ยิ่งๆ หรือทำสมาธิให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นต้น ท่านก็ละกิเลส หรือละชั่วที่ละเอียดๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป ให้สมภูมิแห่งความ เป็นพระของท่าน ความดีท่านก็ทำให้ยิ่งๆ ขึ้น
เช่น อยู่วัดพระเก่าก็เทศน์ ก็สอน ก็อบรมพระใหม่กันไป ส่วนพระใหม่ก็ตั้งใจศึกษาให้เป็นความรู้ เพิ่มพูนความดีให้กับตัวของท่านไป แล้วก็ ทำใจให้ใสพร้อมๆ กันด้วยการสวดมนต์ภาวนาเช้ามืดท่านก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี ๔ ตื่นขึ้นมาสวดมนต์ แต่เช้า เป็นต้น
ทีนี้ สำหรับพวกญาติโยมทั้งหลาย พอวันเข้าพรรษาก็อธิษฐานพรรษาเหมือนกันตั้งแต่สมัยโบราณ อธิษฐานอย่างไร ก็พรรษานี้ ๓ เดือนนี้ รู้ว่าอะไรเป็นนิสัยที่ไม่ดีในตัวเองก็อธิษฐานเลย พรรษานี้เลือกมาอย่างน้อย ๑ ข้อ เราจะแก้ไขตัวเองให้ได้ เช่น บางคนเคยกินเหล้า งวดนี้เข้าพรรษา แล้ว อธิษฐานเลิกเหล้าให้เด็ดขาด บางคนเคยสูบบุหรี่ อย่างน้อยพรรษานี้จะเลิกบุหรี่ให้เด็ดขาด อย่างนี้เป็นต้น เขาก็มีการอธิษฐานกันในวันเข้าพรรษาว่าพรรษานี้จะละความไม่ดีอะไรบ้าง ทั้งหยาบทั้งละเอียด ให้พยายามละกันทีเดียว คือทำตามพระให้เต็มที่นั่นเองในระดับของประชาชน
สิ่งใดที่เป็นความดี ก็พยายามที่จะทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เช่น เมื่อก่อนนี้ ก่อนจะเข้าพรรษา ตักบาตรบ้าง ไม่ตักบาตรบ้างวันไหนมีโอกาสก็ตัก วันไหนชักขี้เกียจก็ไม่ตัก ถ้างั้นพรรษานี้ พระอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาดีแล้ว ตั้งใจเลยที่จะตักบาตรให้ได้ทุกเช้า เมื่อก่อนไม่ทุกเช้า แค่เสาร์อาทิตย์ หรือวันโกนวันพระพรรษานี้พระอยู่พร้อมหน้า อธิษฐานเลยจะตักบาตรทุกเช้าทีเดียว ๓ เดือนที่เข้าพรรษา นี่ก็เป็นธรรมเนียมที่ปู่ย่าตาทวดทำกัน
|
บางท่านยิ่งกว่านั้น ธรรมดาเคยถือศีล ๕ เป็นปกติอยู่แล้ว พรรษานี้เลยถือศีล ๘ ทุกวันพระไปเลย แถมจากศีล ๕ ยกขึ้นไปเป็นศีล ๘ บางท่านเคยถือศีล ๘ ทุกวันพระถืออุโบสถศีลมาทุกวันพระแล้ว เมื่อพรรษาที่แล้ว พรรษานี้ถือศีล ๘ ถืออุโบสถศีลทั้งวันโกนวันพระ เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ ๒ วันขึ้นไป บางท่านเก่งกว่านั้นขึ้นไปอีก พรรษานี้จะรักษาอุโบสถศีล รักษาศีล ๘ กันตลอด ๓ เดือนเลย ก็แล้วแต่
ใครมีกุศลจิตศรัทธามากเพียงไหนก็ทำให้ ยิ่งๆ ขึ้นไปตามนั้น บางท่านยิ่งกว่านั้นขึ้นไปอีก ถึงกับอธิษฐานเลย พรรษานี้นอกจากถือศีลกันตลอดพรรษาแล้วยังไม่พออธิษฐานที่จะทำสมาธิทุกวัน ทุกคืนก่อนนอนวันละ ๑ ชั่วโมง ใครไม่เคยทำก็อธิษฐานวันละ ๑ ชั่วโมง คืนละ ๑ ชั่วโมง บางท่านเพิ่มเป็นคืนละ ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงก็ว่ากันไปตามกุศลศรัทธาอย่างนี้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ปู่ย่าตาทวดเราทำกันมา
อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะฝากก็คือ เนื่องจากปัจจุบันนี้สังคมเปลี่ยนไป ญาติโยมประชาชนส่วนมากหยุดงานกันวันเสาร์วันอาทิตย์ แต่พระเราแต่เดิมก็เทศน์กันวันโกนวันพระเป็นหลักเมื่อเป็นอย่างนี้เข้า จึงเหลือแต่คนเฒ่าคนแก่เท่านั้นไปฟังเทศน์ในวันโกนวันพระ
แต่ครั้งนี้เข้าพรรษาขอฝากหลวงพ่อหลวงพี่ด้วยก็แล้วกันถ้าจะเพิ่มวันเทศน์วันสอนธรรมะให้กับประชาชนในวันเสาร์วันอาทิตย์ ซึ่งญาติโยม เขาหยุดงานกันอีกสักวัน ๒ วันก็จะเป็นการดี แล้วก็ญาติโยมด้วย รู้ว่าพระท่านเทศน์วันโกนวันพระ แล้วครั้งนี้เข้าพรรษาท่านแถมวันเสาร์วันอาทิตย์ ให้ด้วย อย่าลืมไปฟังท่านเทศน์ด้วย ถ้าขยันกัน อย่างนี้ ก็จะมีแต่บุญกุศลกันตลอดทั้งพรรษา แล้ว ความเจริญรุ่งเรืองทั้งตัวเอง ทั้งพระพุทธศาสนา ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ก็จะบังเกิดขึ้นตลอดปีตลอดไป
...คำว่าละชั่วของพระไม่ใช่ชั่วหยาบๆคายๆอย่างที่มนุษย์เป็นกันแต่ว่าชั่ว
ของท่านในที่นี้หมายถึงละกิเลส ซึ่งโดยทางโลกแล้วมองไม่ออกหรอกว่าความชั่ว ความไม่ดี เช่นมีจิตใจฟุ้งซ่าน ความจริงก็อยู่ในใจท่าน คนอื่นมองไม่เห็นหรอก ถึงขนาดนั้นท่านก็พยายามจะละความฟุ้งซ่านของท่านให้ได้ด้วยการภาวนาให้ยิ่งๆ หรือทำสมาธิให้ยิ่งๆขึ้นไป...