ทบทวนบุญ ๒
เรื่อง : พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล
|
พิธีบูชาครูวิชชาธรรมกาย พระผู้ปราบมาร
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
_________________________________________________________________
วันนี้ เป็นวันครูวิชชาธรรมกาย ที่เราจะได้ร่วมกันประกอบพิธีบูชาครู คือ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร และจะได้ร่วมกันปิดแผ่นทององค์หลวงปู่ทองคำที่จะนำไปประดิษฐาน ณ วัดสองพี่น้อง ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
ในวันนี้เมื่อ ๙๔ ปีที่แล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้สละชีวิตบูชาธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะให้ความสำคัญกับธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระพุทธองค์ได้บรรลุ ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเหนือกว่าชีวิตมากมาย และท่านได้ตั้งมโนปณิธานว่า ถ้าท่านได้บรรลุธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรลุแล้ว ท่านจะเป็นทนายแก้ต่าง ยืนยันคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยชีวิตเช่นกัน เพื่อให้มวลมนุษยชาติผู้มีบุญทั้งหลาย ได้คุ้มค่าที่ได้ เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรม แล้วก็เข้าถึงธรรมเช่นเดียว กับพระองค์ด้วย
พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ท่านตั้งมโนปณิธานอย่างนั้น เพราะฉะนั้น วันนี้จึงเป็นวันที่สำคัญสำหรับท่าน แม้ท่านละจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม ยามใดที่ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ท่านจะหวนนึกถึงสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้สละชีวิตเป็นปรมัตถบารมี ได้ค้นคว้าคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้หวนกลับคืนมาใหม่ ท่านปลื้มใจทั้งที่อยู่ใน โลกมนุษย์และในเทวโลก
เพราะฉะนั้น วันนี้จึงเป็นวันสำคัญที่ลูกทุกคนซึ่งเป็นลูกหลานของท่านผู้มาในภายหลัง จะอยู่ในสายตาของท่านตลอด เพราะฉะนั้นให้ลูกทุกคนตั้งใจตรึกระลึกนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ด้วยจิตที่เลื่อมใส ด้วยความเคารพเทิดทูนอันสูงสุดอย่างไม่มีประมาณ
สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะกล่าวคำนี้เสมอจนตลอดอายุขัยของท่าน คือ "หยุดเป็นตัวสำเร็จ" ถ้าจะให้ถูกใจท่านละก็ ต้องหยุดนิ่งให้ได้ นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับลูกหลานของท่านทุกคน ที่จะต้องเข้าใจและทำให้ถูกหลักวิชชาในการปฏิบัติธรรม
เรื่องราวของท่านยังมีที่ลึกซึ้งกว่านี้มากมายนัก เพราะนอกจากจะค้นคว้าคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหวนกลับคืนมาใหม่แล้ว ท่านยังทำภารกิจที่สำคัญต่อจากนั้น คือ การ ปราบมาร ที่เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ทรมานของชีวิต ของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย ท่านทำอย่างนี้จนกระทั่งหมดอายุขัย ไม่ไปแรมราตรีที่ไหนเลย นิ่งอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ตั้งแต่เริ่มมีธาตุ มีธรรม มีเห็น มีจำ มีคิด มีรู้ ก็สู้รบ ปรบมือกับพญามารเรื่อยมาตลอดจนกระทั่งบัดนี้
ที่ต้องปราบมารเพราะว่า มารเป็นผู้ขัดขวางการทำความดีของเรา ของมวลมนุษยชาติ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ถ้าจะทำความดีเขาจะขัดขวาง ไม่ให้เราสามารถทำความดีได้ ไม่ว่า จะทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา เป็นต้น พญามารจะกันสุดฤทธิ์สุดเดชเลยทีเดียว
นอกจากนั้นก็ยังสนับสนุนส่งเสริมให้เราทำความชั่ว ให้เราได้ฆ่าสัตว์ ฆ่ามนุษย์ ให้ลักทรัพย์ คดโกง ให้ประพฤติผิดในกาม ให้พูดปด พูดส่อเสียด แล้วก็ทะเลาะกัน พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ไม่เป็นสาระแก่นสาร ล้วนเป็นเรื่องของพญามารทั้งสิ้น ให้เราทั้งสูบทั้งเสพสิ่งมึนเมา ให้เราได้ติดข้องอยู่ในอบายมุข เป็นต้น ให้เราเห็นผิดจากความเป็นจริง คิดผิด พูดผิด ทำผิด ประกอบการงานที่เป็นมิจฉาอาชีวะ ขยันในสิ่งที่ไม่ถูกต้องดีงาม แล้วก็ให้ใจเราจดจ่อในสิ่งที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร หรือถ้าทำสมาธิก็เป็นแบบมิจฉาสมาธิ ที่ไม่มีโอกาสรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต มีแต่รู้เรื่องที่ไม่ถูกต้อง แล้วก็ส่งเสริมสนับสนุนมิจฉาชีพ มิจฉาสมาธิ ให้มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพ มีสมบัติพัสถานอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น เป็นต้น
เรื่องผิด ๆ เหล่านี้ เป็นเรื่องของพญามารทั้งสิ้น อีกทั้งเอาความไม่รู้ หรือธาตุปิดธาตุบังมาหุ้ม เห็น จำ คิด รู้ ของเรา รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ให้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต แถมตรึงไปติดสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ แถมเกิดโทษต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นต้น ให้เราแก่ ให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย ให้เราตาย มาร ๕ ฝูง มี กิเลสมาร เทวบุตรมาร มัจจุมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร ที่ย่อ ๆ ว่า ก.ท.ม.ข.อ. แล้วก็เซตวิบากกรรม เซตโปรแกรมบังคับให้ทำ แล้วก็เตรียมโปรแกรมรองรับ คือถ้าทำบาปฆ่าสัตว์อย่างนี้ ก็จะมีภพของอบายภูมิรองรับ มหานรก อุสสทนรก ยมโลก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉาน เป็นต้น ภพของอบายทุคติภูมิ คอยรองรับ โดยเอาบาปศักดิ์สิทธิ์ที่เขาบังคับสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ เอาไปประกอบเป็นภพภูมิ รองรับ ประกอบกายใหม่ขึ้นมาให้เหมาะกับภพภูมิแห่งความทุกข์ทรมาน ประกอบเครื่องทัณฑ์ทรมานต่าง ๆ แล้วปิดบังไม่ให้มนุษย์ไปรู้ไปเห็นเรื่องนี้ จะได้ไม่เชื่อว่านรกมีจริง ผลแห่งบาปมีจริง หรือวิบากกรรมมีจริง ปิดเป็นชั้น ๆ นับชั้นไม่ถ้วนทีเดียว นี่ก็เป็น เรื่องราวที่สำคัญ