เรื่องจากปก
เรื่อง : จันทร์ซีโร่
พรรษานี้ บวชทดแทนคุณ เป็นเนื้อนาบุญให้แม่
ชีวิตมิใช่เรื่องลองเล่น ตายไปแล้วจะเกิดใหม่อีกเมื่อใดก็ไม่รู้ แม้หากได้มาเกิดแล้วจะมีบ้านเรือน คนรัก พ่อแม่ หรือสิ่งแวดล้อมเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ ดังนั้น เมื่อเราเกิดมาแล้วในชาตินี้ จึงควรที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ให้กับพ่อแม่ผู้มีพระคุณต่อชีวิต และให้กับโอกาสดีที่สุดที่ได้พบ พระพุทธศาสนา..และที่สำคัญก็คือ การได้เกิดมาเป็นลูกผู้ชายที่จะได้โอกาสบวชเรียน ศึกษาปฏิบัติตามพระพุทธธรรมคำสอนในเพศที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ อันเป็นเพศสูงส่งบริสุทธิ์ที่มนุษย์และเทวดากราบไหว้ บูชา...
ทดแทนพระคุณ น้ำนมแม่ เป็นชายแท้ต้องบวช ๑ พรรษา วัยหนุ่ม...บวชแล้วดีอย่างไร
คนหนุ่มที่เคยผ่านการบวชเรียนมาแล้ว ต่อมา เมื่อลาสิกขาไปสู่เพศฆราวาสแล้ว พบว่าส่วนใหญ่มักจะประสบผลสำเร็จในชีวิต และได้ประโยชน์จาก การบวชนานัปการ เช่น
๑. ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาในหน่วยงาน ให้มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้น ดังเช่น มีธรรมทายาทหลายท่านที่ผ่านการบวชมาแล้วและมาบวชอีก ได้เขียนรายงานผลการปฏิบัติธรรมของตนถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้ท่านอ่านออกอากาศทางช่อง DMC โดยเปิดเผยว่า หลังลาสิกขา ออกไป ได้รับตำแหน่งที่ดีขึ้น มีเงินเดือนสูงขึ้น ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างานเป็นอย่างดี แม้จะ ขอลาบวชอีกครั้งก็ยังสงวนตำแหน่งเอาไว้ให้
๒. มีความสัมพันธ์ภายในครอบครัวดียิ่งขึ้น ธรรมทายาทบางท่านเปิดเผยว่า ก่อนบวชก็ไม่ค่อยมีความสุขในชีวิตการครองเรือนเท่าใดนัก แต่เมื่อลาสิกขาไปแล้ว จิตใจดีขึ้น ควบคุมอารมณ์ และมีความรับผิดชอบในการกระทำของตนดีขึ้น ทำให้บรรยากาศที่บ้านสงบเย็น มีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ ก่อน
๓. ทำให้ได้เรียนรู้วิชาชีวิตที่ไม่เคยมีการ เรียนการสอนในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา ทางโลกแห่งใด โดยเฉพาะความรู้ธรรมะที่ได้ศึกษาอบรมนั้น มีพระอาจารย์ที่ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมและมุ่งปฏิบัติตนให้มีความบริสุทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยศีล สมาธิ และปัญญามาเป็นผู้สั่งสอนอบรม ซึ่งแต่ละท่านล้วน เมตตาถ่ายทอดความรู้อย่างจริงจังและจริงใจ ดังนั้น ความรู้ที่ได้จากพระอาจารย์จึงถูกต้องเที่ยงตรง สามารถทั้งแนะให้กระทำและนำให้ปฏิบัติได้ อีกทั้ง สามารถนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตในโลกแห่งความ จริงได้เป็นอย่างดี
บวชให้คนที่คุณรัก ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
เพราะนี่คือสิ่งเดียว ที่ท่านรอคอยมาทั้งชีวิต
๔. ทำให้มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้บวชตอบแทนพระคุณพ่อแม่ และยังได้แสดงให้พ่อแม่ทราบว่าเรารักเคารพท่าน ด้วยการบวชเป็นพระภิกษุ ตอบแทนคุณ ธรรมทายาทหลายท่านเปิดเผยว่า แต่ ก่อนเคยทำให้พ่อแม่ช้ำใจมาตลอด เคยมีพฤติกรรม เกะกะเกเรจนทำให้ท่านร้องไห้น้ำตาไหลด้วยความเสียใจและรันทดใจมานักต่อนัก การบวชจึงเป็นการ แสดงให้ท่านรู้ว่า ตัวเราพร้อมจะปรับเปลี่ยนตนเองให้ดีขึ้น ดังตัวอย่างของคุณยายสี จำปาดี อยู่จังหวัด สุพรรณบุรี ที่กล่าวว่าดีใจมากที่หลานเปลี่ยนพฤติกรรม มาเป็นคนดีได้ วันตัดปอยผมให้หลานที่เข้าพิธีลาบวช คุณยายมือสั่นด้วยความปลื้มใจ ส่วนผู้บวชก็น้ำตา ไหลด้วยความปลาบปลื้มที่ทำให้บิดามารดาและผู้มี พระคุณได้ปลื้มใจกับตน
๕. การบวชทำให้มีเวลาอยู่กับตนเองมากขึ้น มีธรรมทายาทหลายท่านเปิดเผยว่า ชีวิตที่ผ่านมาดำเนินไปกับกระแสโลกที่เขานำพาไปตลอด ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย เช่น ตั้งแต่วัยเด็กก็ต้องเร่งเรียนแข่งขันกัน เพื่อให้ได้คะแนนดี ได้เข้าเรียนในโรงเรียนดี ๆ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องเร่งรัดที่จะศึกษาให้ได้เกรดดี ๆ จะได้หางานที่ดีได้ง่ายขึ้น พอทำงานแล้วก็เคร่งเครียดกับการงานที่รับผิดชอบ เพื่อจะได้เงินเดือนและตำแหน่งที่สูงขึ้น หากตายจากโลกไปในขณะนั้น ก็นับเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายและคุณค่าของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ดังนั้น เมื่อมา บวชแล้วจึงทำให้รู้ว่าชีวิตมีสิ่งอื่น ๆ ที่น่าศึกษาและน่าสั่งสมอีกมากมายนัก
วัยเกษียณ เพียรสร้างหนทางสวรรค์บวชเรียน ๑ พรรษา ศึกษาพระธรรม วัยเกษียณ...บวชเรียนแล้วได้อะไร
การบวชไม่ใช่จำกัดเฉพาะวัยหนุ่ม มีธรรม-ทายาทหลายท่านที่มาบวชเมื่อผ่านชีวิตทางโลกมายาวนานแล้ว ซึ่งหลายท่านย่อมจะพบว่าชีวิตในทาง โลกไม่มีอะไรใหม่ มีแต่นำความแก่ชราและความร่วงโรยของสังขารมาให้ เมื่อมาบวชแล้ว หลายท่าน จึงได้พบว่า
๑. ได้เรียนรู้และสั่งสมสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตในภพชาติเบื้องหน้า เพื่อสร้างความมั่นคง ให้กับชีวิตตลอดการเดินทางในสังสารวัฏ โดยไม่สูญเสียเวลาทั้งหมดไปกับการแสวงหาสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ดังที่มีผู้กล่าวเปรียบเปรยไว้ว่า "สิ่งที่จะใช้กลับไม่ได้หา แต่สิ่งที่หากลับไม่ได้ใช้" กล่าวคือ สิ่งที่จำเป็นจะต้องใช้สำหรับชีวิตเบื้องหน้าคือ "บุญ" กลับไม่สนใจสั่งสมเอาไว้ กลับมัวใช้เวลาของชีวิตเมื่อยังแข็งแรงไปแสวงหาทรัพย์สมบัติภายนอก ใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับ การดิ้นรนขวนขวายในสิ่งที่นำไปใช้ในชีวิตเบื้องหน้า ไม่ได้ แม้มียศศักดิ์สูงเพียงใด ตายแล้วก็คือซากศพ ธรรมดา ดังนั้นการบวชจึงเป็นการเตรียมเสบียงบุญ ให้กับตนเองอย่างชาญฉลาด
๒. ได้นำความรู้และประสบการณ์ในชีวิตทางโลก นำมาใช้กอบกู้และฟื้นฟูพระพุทธศาสนา เพราะหลายท่านเคยเป็นนักบริหาร มีทั้งประสบการณ์และ คนรู้จักมากมาย เมื่อบวชแล้วหลายท่านก็ช่วยพัฒนา วัดวาอาราม วางระเบียบแบบแผนการทำงานของวัด ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้ หลายท่านที่เป็นนักวิชาการ ก็ได้นำความรู้ทางวิชาการมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา เช่น การทำหลักสูตร การเรียนการสอน หรือการเทศน์สอนด้วยเนื้อหาเทียบเคียงกับประสบการณ์ชีวิตของตน
๓. ได้มีเวลาให้กับการรักษาสุขภาพทั้งกายและใจของตน โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ เมื่อบวชแล้วได้ปฏิบัติธรรม ทำให้ใจสงบเย็น ไม่เป็นคนเครียดอารมณ์ร้าย แต่เป็นผู้มีอายุที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าใกล้ ไม่ใช่คนแก่ที่ใคร ๆ ก็อยากจะหลบหนี ซึ่งหากลอง ทบทวนถึงพฤติกรรมของตนที่เคยเคร่งเครียดกับการงานที่เร่งรัดมาแล้ว จะพบว่าบ่อยครั้งที่อารมณ์เสีย หลายครั้งที่แสดงออกถึงความโมโหโกรธา และ ไม่น้อยเลยที่รู้สึกท้อแท้หรือผิดหวังไม่ได้สมดั่งใจ สิ่งเหล่านี้มันฝังลึกในจิตใจ กลายเป็นลมร้ายในตัว คอยเวียนวนให้สุขภาพทางกายและสุขภาพทางใจทรุดโทรมอย่างไม่รู้สึกตัว และส่งผลให้อายุสั้นในที่สุด
๔. มีโอกาสที่จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นนักบวชที่สงบเสงี่ยม สง่างาม เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้ที่ได้พบเห็น เพราะชีวิตที่ผ่านมานั้น สามารถแยกแยะได้ในระดับหนึ่งแล้วว่า อะไรดีอะไรชั่ว อะไรคือความถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อะไรคือความควรและไม่ควร และเมื่อได้มาสัมผัสกับพระสุปฏิปันโนที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ก็เป็นโอกาสที่จะได้กระทำตามแบบอย่างที่ดีนั้น ซึ่งจะก่อให้เกิดความงดงามแก่หมู่สงฆ์ อย่างนี้แล้วภาพในทางลบที่มีการนำเสนอทางสื่อมวลชนก็จะค่อย ๆ หมดไป เพราะมีพระวัยเกษียณที่มาบวชเรียน เพื่อเพียรฝึกฝนตนเอง
๕. การบวชเมื่อวัยเกษียณ หรือวัยที่ผ่านโลกมาแล้วนั้น เป็นการบวชประดุจพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้อิ่มแล้วในทางโลก เคยมีชีวิตที่ถูกเติมเต็มด้วยสมบัติและวัตถุปรนเปรอจนมากพอ ในที่สุดก็ตัดสินใจออกบวช เพราะรู้ว่าชีวิตทางโลกไม่มีอะไรแน่นอน หาสาระมิได้ ดังเช่นพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง พอทอดพระเนตรเห็นเส้นพระเกศาเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาว แม้เพียงเส้นเดียว ก็ทรงสลดพระทัย เพราะแสดงว่า เวลาของชีวิตเริ่มน้อยลงแล้ว จึงเกิดความเบื่อหน่าย และเสด็จออกบวชเพื่อแสวงหาสัจธรรมในที่สุด
เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องบวชให้ได้อย่างน้อย ๑ พรรษา
บวชพรรษานี้ได้บุญใหญ่ ฉลองพุทธชยันตีครบ ๒,๖๐๐ ปี มีครั้งเดียว
ในพรรษากาลแห่งปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ อันเป็นปีที่ฉลองพุทธชยันตีครบ ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองค์นี้ จึงสมควรที่ลูกผู้ชาย ทั้งหลายจะย้อนมามองถึงชีวิตของตน มาพิจารณาถึงความโชคดีในเพศบุรุษผู้พบพระพุทธศาสนา แล้วมายกตนสู่ฐานะอันประเสริฐกันดีกว่า เพราะชีวิตนักบวชคือชีวิตของผู้ที่เห็นทุกข์ภัยในวัฏสงสาร และเป็นชีวิตที่มีคุณค่าสูงส่ง นอกจากนี้ การบวชยังส่งผลถึงบิดามารดาผู้มีพระคุณ ที่ท่านจะได้ปลื้มใจ ในการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีของลูกชาย ที่ไม่เพียงจะทำให้ท่านได้บุญใหญ่เท่านั้น แต่ยังทำ ให้ท่านได้เป็นญาติในพระพุทธศาสนาอีกด้วย