บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙ / ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์
ธัมมัสสวนมัย
ฟังธรรมเป็นนิจจิตแจ่มใส
“กาเลน ธมฺมสฺสวนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ
การฟังธรรมตามกาลเป็นมงคลอย่างยิ่ง”
ธัมมัสสวนมัย คือบุญที่เกิดจากการฟังธรรม ที่จัดเป็นบุญเพราะช่วยให้เข้าใจหลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญ ถ้าตั้งใจฟังธรรมย่อมได้ปัญญา ปัญญาอันเกิดจากจิตที่ผ่องใสจะนำไปสู่การคิดถูก พูดถูก ทำถูก คนที่ฟังธรรมเป็นประจำ ไม่ว่าจากการฟังเทป วิทยุ หรือจากสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง การอ่านหนังสือธรรมะ ล้วนจัดอยู่ในธัมมัสสวนมัยทั้งสิ้น
การฟังธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกชีวิต ยิ่งกว่าความรู้ทางโลกที่ร่ำเรียนมา เพราะจะทำให้เกิดดวงปัญญาสว่างไสว สามารถพิจารณาเห็น สิ่งต่าง ๆ ได้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ทำให้มีชีวิตอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ปลอดภัยจากอบายภูมิ มีสุคติสวรรค์เป็นที่ไป และถ้าจะให้ได้ประโยชน์มากจากการฟังธรรม ผู้ฟังจะต้องตั้งใจฟังจริง ๆ มุ่งฟังเอาเนื้อหาสาระเพื่อนำไปปฏิบัติ บุญกุศลที่เกิดจากการฟังธรรมจึงจะบังเกิดขึ้น
อิ่มธรรม อิ่มบุญ
สมัยพุทธกาล พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน ทรงแสดงธรรมเกี่ยวกับเรื่องนิพพานแก่ภิกษุสงฆ์สาวก วันนั้นมีนางยักษิณีตนหนึ่ง เป็นยักษ์ชั้นล่าง มีชีวิตที่อด ๆ อยาก ๆ อุ้มอุตราผู้เป็นธิดาและจูงปุนัพพสุผู้เป็นลูกชายแสวงหาอาหารริมกำแพงและริมคูคลองหลังวัด เมื่อไปถึงซุ้มประตู นางเห็นพุทธบริษัทสงบนิ่งไม่ไหวติง ฟังธรรมด้วยความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนเปลวประทีปตั้งไว้ในที่ที่ไม่มีลม จึงเกิดความเลื่อมใสพลางคิดว่า ตรงนี้คงจะมีของแจกให้เรากินเพื่อประทังชีวิตได้แน่ คิดดังนี้แล้ว นางก็จูงลูกทั้งสองเข้าไปภายในพระวิหาร ฝ่ายอารักขเทวาซึ่งสิงอยู่ที่ซุ้มประตูเห็นว่า นางยักษ์มาดี ไม่ได้มาร้าย จึงไม่ได้ห้ามนาง
นางยักษ์ได้ฟังพระสุรเสียงอันไพเราะของพระผู้มีพระภาคเจ้า เสียงนั้นไพเราะจับใจประดุจแทรกเข้าไปจรดเยื่อในกระดูกของนาง ประกอบกับความพร้อมเพรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียวของพุทธบริษัท ทำให้นางเกิดความเลื่อมใสในหมู่สงฆ์ถึงกับลืมที่จะไปแสวงหาอาหาร บุตรน้อยทั้งสองสะกิดนางยักษิณีผู้ยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่นางยักษิณีก็ไม่สนใจ และไม่คิดที่จะแสวงหาอาหารแต่อย่างใด
นางยืนเงี่ยโสตสดับพระธรรม ส่วนอุตรา ผู้เป็นธิดายังเด็กเกินไป ไม่สนใจในการฟังธรรม เมื่อถูกความหิวเบียดเบียนหนักเข้า จึงเตือนมารดาครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ทำไมแม่จึงยืนนิ่งไม่ไหวติงเหมือนตอไม้ ไม่แสวงหาอาหารมาให้ลูก นางยักษิณีกลัวลูก จะทำให้นางพลาดโอกาสได้ฟังธรรม จึงปลอบโยนลูกไปว่า
“นิ่งเสียเถิดลูกอุตรา เงียบ ๆ ไว้เถิด ลูกปุนัพพสุ แม่ปรารถนาจะฟังธรรมที่หาได้ยาก ในโลก ลูกทั้งสองจงเงียบเถิด จนกว่าแม่จะฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจบ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเรื่องนิพพานอันเป็นเครื่องเปลื้องตนจากกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวง อย่าให้แม่พลาดช่วงเวลาแห่งการฟังธรรมเลยนะลูก”
ปุนัพพสุแม้จะหิวกระหายแค่ไหน ก็อดทนอดกลั้นเอาไว้ บอกแม่ว่า “แม่จ๋า ฉันไม่รบเร้าแม่อีกแล้ว แม้อุตราน้องสาวของฉันก็จะไม่รบกวนแม่อีก ขอเชิญแม่ฟังธรรมเถิด การฟังพระสัทธรรมเป็นเหตุนำความสุขมาให้ เพราะแต่ก่อนเราไม่รู้พระสัทธรรม จึงต้องมาเสวยทุกข์มีความหิวกระหาย เที่ยวแสวงหาอาหารไปด้วยความยากลำบากเป็นเวลายาวนาน บัดนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม นำความสว่างไสวมาให้แก่เทวดาและมนุษย์ผู้หลงวนอยู่ในกระแสกิเลส ขอแม่ตั้งใจสดับพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดาเถิด”
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนา ยกเรื่องอริยสัจ ๔ มาแจกแจง ซึ่งได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นางยักษิณีกับบุตรยืนฟังธรรมอยู่ตรงนั้น ได้ส่งใจไปตามกระแสพระธรรมเทศนาในที่สุดก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล ส่วนธิดาของนางยักษิณี เนื่องจากยังเป็นเด็กเกินไป ไม่อาจจะเข้าใจพระธรรมเทศนาได้แจ่มแจ้ง แต่ก็ได้อุปนิสัยแห่งการบรรลุธรรมข้ามชาติ
เมื่อนางยักษิณีบรรลุธรรมแล้ว จึงกล่าวชื่นชมบุตรว่า “ดีแล้วจ้ะลูก น่าชื่นใจนัก ลูกของแม่เป็นคนฉลาด ปุนัพพสุเอ๋ย เจ้าจงมีความสุขเถิด วันนี้เราเป็นผู้ย่างก้าวขึ้นสู่หนทางพระอริยเจ้าแล้ว แม่และลูกเห็นอริยสัจ ๔ เป็นผู้ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา ไม่นานจักได้บรรลุนิพพานอันเกษม การอิ่มธรรมของแม่ยิ่งกว่าอิ่มอาหารมากมายนัก”
ทันใดนั้นเอง ด้วยอานุภาพแห่งการบรรลุเป็นพระโสดาบัน ทำให้นางยักษิณีละจากสภาวะ อันหยาบกระด้าง กลับได้อัตภาพอันเป็นทิพย์ พร้อมทั้งได้ทิพยสมบัติมากมาย และด้วยอานุภาพบุญที่เกิดจากการบรรลุธรรมของมารดา ส่งผลให้ลูกผู้มีจิตอนุโมทนาได้ทิพยสมบัติตามนางไปด้วย ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา นางกับลูกน้อยทั้งสองก็ได้อาศัยอยู่ที่วิมานในต้นไม้ที่อยู่ใกล้พระคันธกุฎีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ฟังธรรมทั้งเช้าเย็นอยู่ในพระวิหารนั้น ทำให้ได้สมบัติอันเป็นทิพย์ละเอียดขึ้นและประณีตขึ้นไปเรื่อย ๆ กลายเป็นยักษ์ผู้ใฝ่ธรรมที่เป็นที่รักที่เกรงใจของยักษ์และเทวดา ซึ่งพากันมาฟังธรรมในยามดึก ๆ เป็นประจำ
ผู้รู้เคยกล่าวไว้ว่า บุคคลใดได้สดับ พระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุคคลนั้นจะไม่ไปสู่ทุคติตลอดแสนกัป การบรรลุธรรมของนางยักษ์ชั้นล่างทำให้นางเลื่อนเป็นยักษ์ผู้สูงศักดิ์และยังปิดอบายได้อย่างถาวรอีกด้วย นับเป็นตัวอย่างของผู้ตั้งใจฟังธรรมที่น่าเอาเยี่ยงอย่างยิ่งนัก
ฟังธรรมอย่างไรให้ได้บุญ
การเป็นนักฟังธรรมที่ดีนั้น เราจะต้องไม่ดูแคลนหัวข้อธรรมที่พระเทศน์ว่าง่ายไป ฟังบ่อยแล้ว เพราะธรรมะทุกบท ถ้านำไปปฏิบัติจริง แม้เพียงข้อเดียวก็สามารถทำกิเลสให้หมดได้ และอย่าไปดูแคลนความรู้ของผู้แสดงธรรม ให้มุ่งฟังเอาเนื้อหาสาระเพื่อน้อมนำไปปฏิบัติ ขณะเดียวกัน ก็อย่าดูถูกตัวเองว่าไม่มีบุญพอที่จะฟังธรรมได้ เพราะยังกิเลสหนาปัญญาหยาบอยู่ ถ้าความคิดติดลบเสียแล้ว โอกาสแห่งการฟังธรรมก็หมดไป
ในการฟังธรรมนั้น แม้ยังฟังไม่เข้าใจ อย่างน้อยที่สุดผู้ฟังก็ได้บุญและจะเป็นอุปนิสัยติดตัวไปภายหน้า เมื่อได้ฟังซ้ำอีกก็จะเข้าใจได้ง่าย
ในขณะฟังธรรม ให้มีใจเป็นสมาธิ ฟังด้วยความตั้งใจ ไม่พูดคุย ยิ่งมีใจเป็นสมาธิมาก ความรู้ความเข้าใจในธรรมะก็มากขึ้น
ในสมัยพุทธกาล พุทธบริษัทมักหลับตา ทำสมาธิฟังธรรม เพราะหากใจยิ่งละเอียด การไตร่ตรองธรรมตามที่พระท่านแสดงก็จะละเอียดลุ่มลึกตามไปด้วย ทำให้มีผู้บรรลุมรรค ผล นิพพาน เป็นจำนวนมาก ดังนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการ คือผู้ฟังย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ย่อมเข้าใจชัดในสิ่งที่ได้ฟังแล้ว ย่อมบรรเทาความสงสัยเสียได้ ย่อมทำความเห็นให้ตรง และจิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส”
ท่านผู้มีบุญทั้งหลาย เวลาแห่งการฟังธรรมเป็นเวลาที่มีคุณค่ายิ่ง จะช่วยยกใจของเราให้สูงขึ้นจากนิวรณ์ทั้งหลาย เป็นการเพิ่มเติมปัญญาบารมีให้แก่ตัวเราเอง เป็นธรรมาวุธคอยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แม้ทุกท่านอาจเคยศึกษาศาสตร์ต่าง ๆ ในทางโลกมามาก แต่ความรู้เหล่านั้นเป็นเพียงวิชาทำมาหากิน ที่ช่วยเหลือตัวเองให้รู้จักหาความสุขในปัจจุบันเท่านั้น แต่การดำเนินชีวิตอาจยังไม่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ส่วนความรู้ที่เกิดจากการฟังธรรมเป็นความรู้อันบริสุทธิ์ ที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาชีวิตในเชิงบวก ทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีชัยชนะ ละโลกแล้วก็จะไปสู่สุคติสวรรค์ เสวยสุขในโลกหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป..
การฟังธรรมนั้น แม้ยังฟังไม่เข้าใจ
อย่างน้อยที่สุดผู้ฟังก็ได้บุญ
และจะเป็นอุปนิสัยติดตัวไปภายหน้า
เมื่อได้ฟังซ้ำอีกก็จะเข้าใจได้ง่าย