บุญใหญ่วันคล้ายวันละสังขาร
คุณยายอาจารย์ฯ
เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
ทำไมคุณยายอาจารย์ฯ จึงทอดกฐิน ?
ด้วยบุญจากการนั่งสมาธิทำวิชชาจัดว่าได้บุญมากที่สุดแล้ว แต่ทำไมคุณยาย
จึงต้องทอดกฐิน สู้เอาเวลามานั่งสมาธิอย่างเดียวไม่ดีกว่าหรือ ???
วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ผ่านมาไม่นานนี้ เป็นวันครบรอบวันละสังขาร ๑๙ ปี ของ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งพอถึงวันนี้ทีไร คณะศิษยานุศิษย์จำนวนมหาศาลต่างมาทำบุญกุศลเพื่ออุทิศแด่ท่าน และฟังสวดพุทธมนต์ อีกทั้งยังระลึกถึงคุณธรรมคำสั่งสอนของท่านเหมือนครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนจำได้ดี ในครั้งที่เคยสัมภาษณ์ พี่อารีพันธ์ุ ตรีอนุสรณ์ อุปัฏฐากใกล้ชิดคุณยาย ผู้เขียนได้เรียนถามพี่เขาว่า “พี่อารีพันธ์ุคะ ด้วยบุญจากการนั่งสมาธิทำวิชชาจัดว่าได้บุญมากที่สุดแล้ว แต่ทำไมคุณยายจึงต้องทอดกฐิน สู้เอาเวลามานั่งสมาธิอย่างเดียวไม่ดีกว่าหรือคะพี่ ???”
ตอนนั้น พี่อารีพันธุ์บอกว่า “ในเรื่องนี้ คุณยายท่านเคยพูดให้พี่ฟังว่า ยายอยากได้ทั้งบุญหยาบและบุญละเอียด บุญหยาบ หมายถึง บุญที่ทำออกมาแล้วเห็นเป็นรูปธรรม เช่น สร้างวัด บวชพระ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ฯลฯ ถ้าทำบุญหยาบแล้วอานิสงส์ที่ได้ก็คือ เราจะได้ทรัพย์สมบัติที่มีความสมบูรณ์ บริบูรณ์ เกิดไปทุกภพทุกชาติ ก็จะสร้างบารมีอย่างไม่ลำบาก”
ถ้าใครเคยอ่านในพระไตรปิฎกก็จะเห็นว่า พระอรหันต์บางรูปที่แม้บรรลุธรรมแล้ว เวลาท่านไปเดินบิณฑบาตยังไม่ได้ภัตตาหารเลยก็มี เพราะท่านไม่ได้ทำบุญอย่างนี้ไว้ แต่ถ้าเคยทำบุญนี้ไว้อย่างพระสีวลีผู้เป็นเลิศทางด้านมีลาภมาก จะไปแห่งหนตำบลใดก็ตาม ท่านก็จะมีความสมบูรณ์และความบริบูรณ์ มีความสะดวกสบายในการสร้างบารมีตลอด เพราะฉะนั้น บุญหยาบนี้สำคัญ ฉะนั้นคุณยายถึงเห็นความสำคัญของการทอดกฐินมาก...
และอีกไม่นานเกินรอ ก็จะถึงวันทอดกฐินแล้ว ซึ่งจะดีเพียงใดหากเราได้ทำบุญนี้ด้วยความตระหนักในบุญ ปลื้มในบุญ โดยตั้งจิตตั้งใจเป็นอย่างดี เพราะหากทำได้อย่างนี้ เวลาบุญส่งผลก็จะได้ผลานิสงส์อันไม่มีประมาณ...