อานิสงส์บุญ
เรื่อง : รัดเกล้า
จำเป็นไหมที่ต้องบูชาเจดีย์ด้วยดอกไม้ ?
ดอกไม้ ถือเป็นหนึ่งในวัตถุทาน ๑๐ ประการ ที่ควรค่าแก่การนำมาบูชาพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หากศึกษาข้อมูลในพระไตรปิฎก ในมหาปรินิพพานสูตร ตอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน เหล่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลายต่างเอา
ดอกไม้ของหอมมาบูชาพระพุทธองค์
อีกทั้งใน พระสูตร ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ หรือใน ขุททกนิกาย อปทาน ก็กล่าวถึงอานิสงส์ของการบูชาด้วยดอกไม้ไว้อย่างมากมาย ที่ส่งผลทำให้ไม่ไปสู่ทุคติเลย ตราบจนกระทั่งได้บรรลุ เป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวกิเลส
การบูชาเจดีย์มีอานิสงส์อย่างไร ?
การบูชาเจดีย์ด้วยดอกไม้มีอานิสงส์มากมาย ซึ่งในที่นี้จะขอยกตัวอย่างเรื่องที่อยู่ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถาปีตวิมาน และใน อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ มัญชิฏฐกวรรคที่ ๔ ปีตวิมาน เรื่องมีอยู่ว่า
หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูทรงนำพระบรมสารีริกธาตุที่พระองค์ได้รับส่วนแบ่งมา ไปประดิษฐานไว้ในพระสถูปที่ทรงสร้างขึ้นและกระทำพิธีเฉลิมฉลองพระสถูปนั้น
ในครั้งนั้นเอง มีหญิงผู้หนึ่งซึ่งเป็นชาวเมืองราชคฤห์ เกิดกุศลศรัทธาอย่างแรงกล้าอยากจะไปบูชาพระสถูป จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า แล้วพยายามไปหาดอกไม้เพื่อนำไปบูชา ซึ่งดอกไม้ที่พอจะหาได้ดีที่สุดในตอนนั้น ก็คือ ดอกบวบขม จำนวน ๔ ดอก ซึ่งดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ที่ผู้คนไม่ค่อยให้ค่า แต่ก็ถือเป็นดอกไม้ที่ดีที่สุดของนางในตอนนั้นแล้ว
จากนั้น นางรีบมุ่งหน้าไปยังพระสถูป แต่ขณะเดินทางไปไม่ทันระวังอันตรายในระหว่างทางและทันใดนั้นเอง โคแม่ลูกอ่อนได้วิ่งสวนทางมาอย่างเร็ว และขวิดนางจนเสียชีวิตทันทีเมื่อนางเสียชีวิตแล้วได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดายังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ขณะที่ท้าวสักกเทวราชเสด็จเล่นกรีฑาในอุทยาน เทพธิดาที่เพิ่งไปเกิดใหม่นั้น ก็ได้ปรากฏร่างพร้อมกับเทวรถ ซึ่งมีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายเจิดจรัสมาก จนข่มรัศมีของเทพธิดาองค์อื่น รวมถึงข่มรัศมีของเหล่าบรรดาเทพธิดานักฟ้อนที่มากถึงสองโกฏิครึ่ง
เมื่อท้าวสักกเทวราชทอดพระเนตรเห็นรัศมีอันสว่างไสวของเทพธิดาผู้มาเกิดใหม่นี้ จึงมีพระทัยพิศวงเป็นอย่างยิ่ง จนต้องตรัสถามเทพธิดานั้นว่า ด้วยบุญอะไรหนอที่ทำให้เทพธิดาผู้นี้ได้เทพฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้ คือเป็นผู้มีผ้าเหลืองมีธงเหลือง ประดับด้วยอลังการเหลืองมีกายลูบไล้ด้วยจันทน์เหลือง ทัดทรงดอกอุบลเหลือง มีปราสาทเหลือง มีที่นอนที่นั่งเหลืองมีภาชนะเหลือง มีฉัตรเหลือง มีรถเหลือง มีม้าเหลือง มีพัดเหลือง...
เทพธิดาก็ได้ตอบว่า...
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระบาทได้น้อมนำดอกบวบขม ซึ่งมีรสขมชนิดที่ไม่มีใครปรารถนา จำนวน ๔ ดอก ไปบูชาพระสถูป แต่ขณะไปไม่ทันได้ดูหนทางว่ามีแม่โคกำลังมาทำให้แม่โคขวิดตายเสียก่อน โดยที่ยังเดินทางไปไม่ถึงพระสถูปเลย
เมื่อท้าวสักกะฟังดังนั้นก็รู้สึกทึ่งและอัศจรรย์ใจในอานิสงส์ผลบุญจากการบูชาพระสถูปคือ ทั้ง ๆ ที่ยังไปไม่ถึงและยังไม่ได้ทำการบูชาจนเสร็จสมบูรณ์ ก็ยังบังเกิดอานิสงส์มากถึงเพียงนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท้าวสักกะไม่รอช้า รีบแสดงธรรมแก่หมู่เทวดา ซึ่งมีพระมาตลีเทพสารถีเป็นประมุข ซึ่งกล่าวโดยสรุปว่า
ดูก่อนมาตลี ท่านจงดูผลแห่งกรรมอันวิจิตรน่าอัศจรรย์นี้ ไทยธรรมที่เทพธิดานี้กระทำแล้วถึงจะน้อย แต่บุญก็มีผลมาก ถ้ามีจิตเลื่อมใสในพระตถาคตสัมพุทธเจ้า หรือในสาวกของพระองค์ก็ตาม... ทักษิณาไม่ชื่อว่าน้อยเลย
ฉะนั้น จงมาเถิด..มาตลี แม้ชาวเราทั้งหลายก็ควรจะพากันบูชาพระบรมธาตุของพระตถาคตให้ยิ่งยวดขึ้นไป เพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้ เมื่อพระตถาคตยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม หรือเสด็จปรินิพพานแล้วก็ตาม เมื่อจิตสม่ำเสมอ ผลบุญก็ย่อมสม่ำเสมอ เพราะเหตุที่ตั้งจิตไว้ชอบ และด้วยบุญนี้จะทำให้ไปสู่สุคติ ไปสู่สวรรค์...
เมื่อท้าวสักกะตรัสอย่างนี้แล้ว จากนั้นทรงสั่งระงับการเล่นกรีฑาแล้วเสด็จกลับไป เพื่อทรงทำการบูชาพระจุฬามณีเจดีย์ ๗ วันอย่างต่อเนื่อง เพิ่มจากปกติที่พระองค์ได้มาบูชาอย่างเนือง ๆ อยู่แล้ว
จากเรื่องนี้ จะเห็นว่าด้วยอานิสงส์การบูชาพระสถูปเจดีย์ด้วยจิตที่เลื่อมใส แม้ยังไปไม่ถึงพระสถูป ก็ยังได้ผลบุญมากถึงขนาดนี้ ฉะนั้น หากเราได้บูชาพระสถูปเจดีย์อยู่เป็นประจำด้วยการปลูกดอกไม้จำนวนมากมายหลายชนิด เพื่อบูชาเจดีย์ไปตลอดด้วยจิตที่เลื่อมใสเราจะได้บุญมากขนาดไหน...