...หากวันนั้น เธอยอมให้ความตระหนี่
มีอิทธิพลเหนือชีวิต...!
โซ่ตรวนแห่งความจน... คงผูกมัด
ชีวิตเธอและครอบครัวไปอีกหลายภพชาติ...
... พลิกชีวิต
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑ รถคันนี้ดูแปลกแตกต่างจากรถบัสคันอื่นๆ ผู้โดยสารทุกคนล้วนแต่งชุดขาวและมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับไม่เคยพบทุกข์มาก่อน ภาษาที่เขาพูดกันก็ยิ่งแปลกล้วนเป็นถ้อยคำที่ฟังแล้วใจที่เคยแห้งแล้งกลับชุ่มชื่นมีความหวัง ยกใจให้มีพลังขึ้นมาอย่างประหลาด
คุณแม่ในวัยสามสิบเศษกับลูกสาวทั้งสองตั้งใจที่จะโดยสารไปกับรถคันนี้ด้วย...ก้าวแรกที่ขึ้นไปบนรถ "สวัสดีค่ะ ไปทำบุญด้วยกันค่ะเบาะนี้ว่างนั่งได้เลยค่ะ" คนกล่าวทักทายยิ้มพร้อมยกมือไหว้... เธอรู้สึกดี แต่ในขณะนั้นเธอทำได้ดีที่สุดแค่พยักหน้ารับไหว้แบบขัดๆ "ไมตรีแบบนี้มีอยู่อีกหรือ" ชุดแดงที่เธอสวมชุดสีเขียวและชุดสีฟ้าของลูกสาวดูเด่นที่สุดในรถคันนั้น รถแล่นออกจากสมุทรปราการ ไปทางทิศเหนือกรุงเทพมหานคร... มุ่งสู่วัดพระธรรมกาย
ผู้นำบุญผู้นำรถสลับกันออกมาเล่าธรรมะหน้ารถ เธอตั้งใจฟังและจำทุกถ้อยคำ "วันนี้เป็นวันบุญใหญ่ วันมาฆบูชาหากใครได้บุญสร้างพระไว้บนพระเจดีย์จะได้บุญมหาศาล บุญนี้จะพลิกชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี หมดทุกข์ หมดโศก จากจนมารวย ..."
"พลิกชีวิต" คำนี้ช่างโดนใจ เพราะก่อนหน้าที่เธอจะตัดสินใจไปวัดพระธรรมกาย ตามคำชวนของลูก มรสุมใหญ่กำลังเข้ามาในครอบครัว ปัญหาหนักคือเงิน ดอกเบี้ยบวกเงินต้นเกือบ ๒ ล้าน บ้านรถยนต์ขาดส่งงวด เพื่อนที่พามาร่วมงานเบี้ยวเงินบริษัทนับแสน ลูกน้องในสายงานทำเสาทางด่วนแตกอีก ๔ ต้นๆ ละแสน สามีมาแจ้งข่าวร้ายด้วยความเครียด "เพ็ญ วันนี้นายยื่นคำขาด ให้เวลาพี่เคลียร์ตัวเองภายใน อาทิตย์หน้าถ้าทำไม่ได้ให้ออกจากงาน" การเดินทางไปวัดในวันนี้ เธอไม่ได้หวังว่าจะพบทางออก ไปเพราะตัดความรำคาญทนลูกๆ ชวนรบเร้าไม่ไหวจึงตัดใจไป... เกินคาดเมื่อเธอได้มาสัมผัส เธออยากทำบุญสร้างองค์พระขึ้นมาทันที
"แอน เอ๋ แม่จะสร้างพระ ๑ องค์"
"ดีจังเลยค่ะ แม่สร้างให้หนูด้วยนะ..ขอหนูด้วยองค์นึง"
"งั้นตกลงเราสร้างกันคนละองค์และต้องสร้างให้พ่อด้วย เพราะพ่อเป็นคนหาเงิน เดี๋ยวจะเสียใจ เราสร้างองค์ละ ๑๙๙ บาท ก็แล้วกัน"
เมื่อถึงวัดพระธรรมกายเธอยิ่งตื่นตะลึง สาธุชนทุกเพศทุกวัยสงบเป็นระเบียบนับแสน เพราะมีพิธีอัญเชิญพระบรมพุทธเจ้าซึ่งหล่อด้วยเงินยวงหนัก ๑๔,๐๐๐ กิโลกรัม (๑๔ ตัน) เพื่อประดิษฐานในแกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ด้วย
"...ตอนนั้นใจอยากสร้างพระมาก แปลกนะคะพอคิดว่าเราจะสร้างพระ มันลืมความจนไปเลย ดีใจมากได้รับใบสร้างพระ ๔ ใบ เขียนหมดเลยลืมดูว่าเขาให้สร้างองค์ละเท่าไร กลัวอย่างเดียวกลัวจะไม่ได้สร้าง พอรู้ว่าต้องสร้างองค์ละ ๑๐,๐๐๐ ก็ไปกด ATM ซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้าย กดออกมาหมดเลยได้ ๔๐,๐๐๐ พอดี เมื่อถวายขาดจากใจ เกิดความปีติมาก ขนลุก อิ่มอกอิ่มใจ ได้รับพรยิ่งประทับใจ "ให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีผู้ใจบุญนะ ให้หมดทุกข์หมดโศก" ชอบมากมีกำลังใจขึ้นมาทันที"
ในวันนั้นเธอได้ร่วมทุกกิจกรรมบุญของวัด จนถึงภาคค่ำจุดมาฆประทีปเป็นพุทธบูชา ก่อนกลับเธอได้พลัดหลงจากหมู่คณะกว่าจะหาพบกลับถึงบ้านห้าทุ่มเศษ เวลาแห่งความสุขของเธอผ่านไปอย่างรวดเร็ว.. เมื่อเธอก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ ตกใจกลัว หากสามีรู้ว่าเธอนำเงินก้อนสุดท้ายไปทำบุญหมดแล้ว วันนี้คงถูกเตะแน่ สามแม่ลูกพร้อมใจกันพึ่งบุญโดยไม่ต้องนัดหมาย คุณบำเพ็ญและลูกสาว รีบนำใบอนุโมทนาบัตรมาอธิษฐานจิตทันที
"สาธุด้วยบุญที่ลูกทำมา ขอให้สามีใจเปิด ได้ร่วมอธิษฐานจิตกับการสร้างองค์พระครั้งนี้ด้วยเถอะ เขาเป็นคนโมโหร้าย ขออย่าให้เขาพูดอะไรและขออย่าให้ลูกถูกเตะเลย"
นับเวลาถอยหลัง พ่อบ้านนอนรอลูกและภรรยากลับด้วยความเครียดจากงานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเห็นทั้งสามคนเดินเข้ามา นึกในใจว่า ไปวัดกันแบบไหนนะตั้งแต่ตีห้าพึ่งกลับเข้าบ้านตอนห้าทุ่ม ทำไมทุกคนดูหน้าซีด... แล้วก็แย่งกันพูด
"พ่อจ๋าหนูไปทำบุญมา...พี่เพ็ญไปทำบุญสร้างพระมา พี่นำใบอนุโมทนาไปอธิษฐานซิ
บุญใหญ่นะ จะได้หมดเคราะห์หมดโศก ร้ายก็จะกลายเป็นดี เราจะได้ผ่านอุปสรรคตรงนี้ไปได้
เขารับใบอนุโมทนาบัตรไปจบอธิษฐานตามคำบอก อธิษฐานอยู่นาน แล้วจึงค่อยๆ ดึงใบอนุโมทนาบัตรออกมาดูทีละใบๆ ท่าม กลางสายตาที่พล่านพรายของภรรยาและลูกๆ เสร็จแล้วก็ยกซองใส่ใบอนุโมทนาบัตรทั้งหมดวางไว้หัวเตียง เงียบไม่มีเสียงใดๆ ออกจากปากพ่อบ้าน เขาเอนตัวลงนอนแล้วหลับไปเลย
รุ่งเช้าพ่อบ้านอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน "บ้านเงียบและเย็นมากในช่วงนั้น เขาไม่โมโหไม่ดุ ไม่พูด ซึ่งปกติเขาจะไม่เป็นแบบนี้ เพ็ญพยายามทำทุกอย่างให้เรียบร้อย และหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้าแต่พอเขาออกจากบ้านไปเพ็ญก็ลืมทุกที ออกไปพูดไปบอกเพื่อนบ้านให้ได้รู้ข่าวและได้สร้างองค์พระเขาจะได้มีความสุขเหมือนเรา
ครบ ๗ วัน ในวันที่ ๘ สามียิ้มแฉ่งเข้าบ้านมาบอกว่า เจ้านายเรียกตัวเข้าไปพบยกหนี้ให้หมดเลย ๕ แสน แล้วให้ไปหาคนงานเพิ่มอีก ๑๐๐ คน จะให้รับงานเพิ่มอีก ๒ เท่าตัว เขาบอกว่า ในวันนั้นที่ไม่ได้พูดอะไรกับเพ็ญ เพราะเมื่ออธิษฐานนึกถึงบุญตามที่บอก เขารู้สึกตัวเบา ใจเบา อาการปวดหัว ความเครียดมันหายไปหมด สรุป เราได้เงินมาทันที ๕ แสนบาท และงานทางด่วนโทล์เวย์ที่ทำในครั้งนั้น ๔ เดือนเราสามารถปลดหนี้ ๒ ล้านได้อย่างอัศจรรย์"
ทิฏฐิเสมอกัน
ครอบครัวของคุณบำเพ็ญ คุณธีระพัฒน์ เปลี่ยนจากยักษี-ยักษามาเป็นเทพบุตร-เทพธิดา ใช้หลักในการครองเรือนด้วยศีลเสมอกันเป็นพื้นฐานปรับความคิดเห็นให้ตรงกัน อยู่ในบุญตลอด ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา และทุ่มเทให้กับการทำหน้าที่กัลยาณมิตรผู้นำบุญ
"ที่ผมมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะคุณเพ็ญ เธอพยายามทำทุกอย่างให้ผมรู้จักบุญ ปกติผมจะติดทางโลก เราอยู่ด้วยกันแบบไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักบาป ไม่มีศีล ผมครบทุกเรื่องดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน ผู้หญิง ถือว่าผมรับผิดชอบครอบครัวก็พอแล้ว อยากรวย ไปกู้เงินมาลงทุนก็ขาดทุนไปไม่รอด ไม่มีบุญมารองรับ
...ผมเริ่มเข้าใจวัด เข้าใจหลวงพ่อ ในช่วงที่วัดเกิดวิกฤต เพราะสื่อที่ออกไปกับภาพความเป็นจริงที่ผมเห็นมันไม่ตรงกัน พอดีช่วงนั้นงานก่อสร้างหมด ผมกับคุณเพ็ญจึงมาเร่ขายข้าวสาร เธอขายไปทำหน้าที่ไปด้วยนำข่าวต่างๆ ของทางวัดไปแจกด้วย คุณเพ็ญพูดผมก็คอยเสริมบางทีแย่งกันอธิบาย เราลุยเปิดบ้านกัลยาณมิตรให้ครบ ๑๐๐,๐๐๐ หลัง ชวนคนมาร่วมฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งที่ ๑ เราทำหน้าที่กันแบบสุดๆ หนึ่งเดือนเต็มที่เราหยุดขายข้าวสาร ไม่อดตายครับ มีคนโทรเข้ามาสั่งซื้อถึงบ้าน หลังเสร็จงานฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ๓ สัปดาห์ผมก็ได้งานใหม่ทำ เป็นงานสร้างเขื่อนท่าด่าน จ.นครนายก"
ขอคุณยายได้ทุกเรื่อง
คุณธีระพัฒน์เริ่มงานใหม่ด้วยความมั่นใจ ๑๐๐% เพราะมีหลักและยุทธวิธีในการครองใจ ครองตน ครองคน และครองงานที่ได้จากการเข้าวัดปฏิบัติธรรมและทำหน้าที่ผู้นำบุญ
"ทำงานก่อสร้าง เรื่องฝนเป็นอุปสรรคใหญ่ของงานเทปูน ทุกครั้งที่เทปูนผมจะโทรบอกคุณเพ็ญที่บ้านก่อน "วันนี้จะเทปูนอย่าไปไหนนะ ให้นั่งสมาธิอย่างเดียว" วันนั้นประมาณสิบโมงเช้างานตรวจผ่านแล้ว แผนต่อไปบ่ายโมงจะเทปูน ผมวิทยุเตรียมรถเครนอุปกรณ์ทุกอย่าง ทีมที่ปรึกษาพร้อม พอสั่งรถขนปูนมาเท่านั้น เมฆก้อนใหญ่ลอยข้ามเขามาเลย ทีมงานที่ปรึกษาสั่งเลิกเก็บงานทันที ผมบอก "ไม่" ยายผมต้องช่วย ผมต้องทำให้ได้ ผมก็ออกไปยืนพนมมือหลับตาบอกยาย "คุณ ยายวันนี้ลูกจะเทปูนนะขออานุภาพของยายช่วยลูกด้วยนะให้ฝนไปไกลๆ เลย ลูกไม่ได้เทปูนวันนี้ เงินแสนลูกละลายกับน้ำไปแน่เลย"
อานุภาพของคุณยายครับ สักพักเมฆวนรอบเขาออกไปตกฝั่งอื่น พื้นที่ของผมไม่ตกครับ วิทยุเป็นร้อยๆ เครื่อง ว.สื่อสารกัน "วันนี้พี่ไก่เทปูน ลูกศิษย์ธรรมกายเทปูนไม่ต้องกลัวฝนพวกเราเทเลย" กิตติศัพท์นี้จะรู้กันไปทั่ว เพราะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เป็นแบบนี้หลายครั้ง วันนั้นผมเทปูนไปได้ ๗๐๐ คิว
จะด้วยอานิสงส์ที่เราสองคนทำหน้าที่ชวนคนมาทำความดีพบหนทางที่ดีหรือเปล่า... จึงมีงานดีๆ มาหาผมอยู่เรื่อย งานตอนนี้รับไม่ทัน เราตัวเล็กๆ สามารถรับงานโครงการ ๕๐ ล้านได้ ไม่ธรรมดาเลยสำหรับเรา รวยแบบก้าวกระโดด ล่ำลือกันไปไกลเป็นกิโลๆ "เอ๊ะ ทำไมไอ้เพ็ญมันแปลกนะ ตะก่อนจนจัง ไปไหนก็นั่งวินมอเตอร์ไซด์ ทำไมเดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงหมด มีบ้านใหม่ ๒ หลัง หลังใหม่ใหญ่กว่าเดิม ๔๒ ตารางวา มีรถยนต์ขับอีกด้วย"
ปัจจุบันอุปสรรคที่มีมาในชีวิต ทั้งสองไม่เคยหวั่นเพราะรู้ว่าทุกปัญหาจะจบลงอย่างเย็นๆ ด้วยอานุภาพบุญ ที่ตนได้สั่งสมมา ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทดุจบัณฑิตในกาลก่อน เร่งสั่งสมบุญใหม่เพิ่มขึ้นทับทวี กับบุญสร้างองค์พระสามแสนองค์สามแสนปลื้มทั้งสองท่านให้ความสำคัญว่า
"ก่อนเข้าวัดสร้างองค์พระเพียง ๔ องค์ บุญพลิกชีวิตครอบครัวเราได้ขนาดนี้ องค์พระสามแสนองค์ที่อาคารภาวนา บุญจะมากขนาดไหน เราตั้งใจกันไว้ว่าจะร่วมสร้างองค์ละ ๑ บาท เราต้องให้โอกาสตัวเองสร้างบุญในครั้งนี้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง เราสุดๆ ในทุกบุญทั้งทำด้วยตนเองและทำหน้าที่ด้วย สร้างพระเพียง ๑ องค์ ยังมีอานุภาพขนาดนี้ แล้วครั้งนี้ทำทีเดียว ๓๐๐,๐๐๐ องค์ ผลบุญแตกต่างกันมาก ครั้งเดียวในชีวิต ไม่ต้องคิดมาก บุญคุ้มตั้งแต่วันนี้จนถึงที่สุดแห่งธรรม บุญนี้เราไม่ยอมพลาดแน่นอน"
ทุกคนสามารถออกแบบ(Design) ชีวิต ของตนเองได้ ด้วยผลของบุญและบาปอยากจะมีชีวิตแบบไหน เราเลือกได้ เพราะเราเป็นเจ้าของชีวิต ดั่งเช่นครอบครัวนี้ ซึ่งเขาและเธอประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย "บุญ"