หลวงพ่อครับ คนที่ไม่เชื่อเรื่องของนรกสวรรค์มีจริง เราจะมีวิธีการอธิบายเป็นเหตุเเป็นผลอย่างง่ายๆ ได้อย่างไรครับ ?
เรื่องนรกสวรรค์เป็นเรื่องที่มีจริง แต่การที่จะอธิบายให้ใครฟังแล้วให้เขาเชื่อนั้นก็ไม่ง่ายนักหรอก เพราะว่าคนที่จะเข้าใจรับฟังได้ง่าย จะต้องมีพื้นใจผ่องใสพอสมควร แล้วคนที่จะมีใจผ่องใสพอสมควร คือใครบ้าง
๑. เด็ก ตั้งแต่วัยเด็กเล็กชั้นอนุบาลเรื่อยขึ้นมาจนกระทั่งชั้นประถม เด็กๆ เหล่านี้ยังไม่ได้ไปแปดเปื้อนอะไร ยกเว้นไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี ไปเจอยาเสพติดเสียก่อน นั่นก็ย่ำแย่หน่อย ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เด็กๆ ใจจะใสตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้น ถ้าจะสอนสั่งในเรื่องของนรกสวรรค์ เด็กจะรับได้ง่าย
๒. ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยไปแตะต้องอบายมุข ไม่เคยไปจมอยู่ในวงเหล้า ไม่เคยไปท่องกลางคืน เที่ยวในแหล่งที่ไม่เหมาะสม ไม่เคยไปจมอยู่ใน วงไพ่ ผู้ที่ไม่ได้จมอยู่ในอบายมุขนี้ ถ้าพูดเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ ค่อนข้างจะรับได้ง่าย เพราะใจเขายังไม่เปื้อน
อย่างไรก็ตาม โลกปัจจุบันนี้ อบายมุขก็แพร่หลายกันเหลือเกิน ไม่ว่าใครจะใจมืด ใจบอด ใจเปื้อน ขนาดไหน เรามีหน้าที่จะต้องทำความเข้าใจถูกให้กับเขาให้ได้ในเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ เพราะว่า เขาอยู่ร่วมโลกกับเรา บางทีก็เป็นญาติ เป็นเพื่อนเรา เรารู้เห็นอะไรดีๆ ก็อยากจะให้เขาได้รู้ ได้เห็นความดีนั้นๆ ตาม เราด้วย
ด้วยหัวใจของกัลยาณมิตรที่เปี่ยมล้นอย่างนี้ หลวงพ่อมีข้อคิดฝากพวกเราก็คือ ในการที่จะไปอธิบายใครให้เข้าใจว่า นรกมี สวรรค์มี ต้องถามตัวเราก่อนว่า แล้วเรามีความเชื่อมั่นในเรื่องนรกเรื่องสวรรค์สักขนาดไหน ถ้าเรามีความเชื่อมั่นตรงนี้ยังไม่เต็มร้อย ก็ยากที่จะดึงใครให้เขาเข้าใจถูกในเรื่องนรกสวรรค์
ทีนี้ถ้าเรามีความเชื่อในเรื่องนรกสวรรค์เต็มร้อย มั่นใจเต็มที่ ถ้าอย่างนั้น โอกาสที่เราจะชักชวนใคร ก็มากขึ้น
เหตุผลที่เราจะนำมาชักจูงเขานั้น เราจะรู้ได้ด้วยตัวเอง คือถามตัวเองว่า เมื่อก่อนนี้เราก็ไม่ค่อยจะเชื่อเหมือนกัน แล้วทำไมวันนี้เราจึงได้เชื่อ ถามตัวเองได้อย่างนี้ แล้วเดี๋ยวคำตอบจะผุดขึ้นมาเอง
สำหรับหลวงพ่อเองนั้น เมื่อก่อนนี้ก็สงสัยว่า นรกสวรรค์มีจริงไหม ก่อนบวชได้เที่ยวตระเวนถามหลวงพ่อหลวงปู่ตามวัดต่าง ๆ มามากว่า "หลวงพ่อครับ หลวงปู่ครับ นรกสวรรค์มีจริงไหม"
บางรูปท่านบอกว่า "ท่านก็ไม่รู้เหมือนกัน"
บางรูปท่านก็บอกว่า "มีจริง" ท่านยืนยันเลย แต่พอไปถามท่านคำที่สอง "หลวงพ่อ หลวงปู่ เคยไปเห็นมาเหรอ "ท่านก็จะตอบหลวงพ่อชัดเลย" ไม่เคยหรอก"
"ไม่เคยแล้วหลวงพ่อเชื่อได้อย่างไรว่า นรกสวรรค์มีจริง"
"มี พระไตรปิฎกบอกเอาไว้"
"ทำไมหลวงพ่อเชื่อพระไตรปิฎกขนาดนั้นล่ะ"
ท่านตอบหลวงพ่อมาว่า "ผู้ที่บันทึกพระไตรปิฎกที่เขียนเอาไว้ เป็นพระอรหันต์หมดกิเลส ท่านไม่หลอกเราหรอก ไม่รู้จะมาหลอกเราทำไม" นี่ก็เป็นเหตุผลที่น่าเชื่อได้ระดับหนึ่ง
แต่ลึกๆ หลวงพ่อเองก็ยังเชื่อไม่เต็มร้อยอีกนั่นแหละ เพราะท่านเองท่านก็ไม่ได้ไปเห็นมา จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง มาเจอคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ครูบาอาจารย์ของพวกเรา ครั้งแรกที่ไปเจอท่าน หลวงพ่อยังเป็นนักศึกษาอยู่ ได้โอกาส ก็ถามคุณยายเลยว่า "ยายนรกสวรรค์มีจริงไหม"
คุณยายตอบชัดเจน "มีซิคุณ เมื่อยายเข้าถึงธรรมกายใหม่ๆ องค์พระชัดใส ยายเข้า ธรรมกายไปเยี่ยมพ่อ พ่อยายตกนรก ยายก็อาราธนาพระธรรมกายให้ศีลกับพ่อ เนื่องจากไฟนรกมันดับชั่วคราว พอพ่อตั้งใจรับศีลเท่านั้นนะ บุญที่เคยทำมาในอดีตชาติ ที่เกิดจากการให้ทาน รักษาศีลทำภาวนา ข้ามภพข้ามชาติมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ โน้น ก็ตามมาทัน พอนึกถึงบุญเก่าออก แล้วตั้งใจรับศีลจากธรรมกายใหม่เท่านั้น บุญเก่า บุญใหม่มาบรรจบกัน บุญนั้นพาพ่อยายพ้นนรกได้ แล้วก็เนื่องจากพ่อทำบุญทำทานอย่างอื่นไว้บ้าง ก็มีวิมานเก่าๆ อยู่ในสวรรค์ชั้นต้น พ่อยายก็เลยไปอยู่สวรรค์กับเขาได้เหมือนกัน"
หลวงพ่อได้ยินคุณยายพูดอย่างนี้ แสดงว่าต้องเป็นพวกมีศีลแล้วตั้งใจปฏิบัติจริง แล้วไปรู้ไปเห็นมาจริง หลวงพ่อเชื่อท่าน เลยถาม คุณยายต่อว่า "ยายถ้าอย่างนั้น อย่างผมจะมีโอกาสไปรู้ไปเห็นนรกสวรรค์อย่างยายบ้างไหม"
คุณยายตอบชัดว่า "ได้ซิคุณ" ให้ความมั่นใจ
"ทำไมจึงได้ยาย"
คุณยายก็บอกว่า "อย่างยายนะ อ่านก็ไม่ออกเขียนก็ไม่ได้ หนังสือไม่ได้เรียน แต่ว่าเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการฝึกสมาธิกับหลวงปู่วัดปากน้ำ(พระมงคลเทพมุนี) ยายเอาชีวิตเป็น เดิมพันในการฝึกสมาธิ ในที่สุดยายก็เห็นนรกได้เห็นสวรรค์ได้ คุณนะยังหนุ่มยังแน่น การศึกษาทางโลกก็มี เพราะฉะนั้นถ้าคุณตั้งใจฝึกจริงๆ ทำไมจะไม่ได้ เดี๋ยวคุณก็ได้"
หลวงพ่อได้ผู้ที่สามารถเห็นนรกสวรรค์มายืนยัน แล้วยังให้กำลังใจอีก หลวงพ่อเชื่อ แต่เชื่อก็เชื่อ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ แล้วจะทำอย่างไรจะครบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็มีทางเดียว ต้องลงมือฝึกทำภาวนาอย่างจริงๆ จังๆ แล้วให้ตัวเราเองไปเห็น เท่านั้นแหละจึงจะเชื่อครบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต ์
ตั้งแต่วันนั้นมา หลวงพ่อก็ตั้งใจฝึกภาวนาเรื่อยมา จบการศึกษาแล้วหลวงพ่อก็เลยมาบวช นี่ได้ ๓๔ พรรษาแล้ว ยิ่งบวชยิ่งมั่นใจว่า นรกมีสวรรค์มี
อย่างน้อยที่สุด สำหรับพวกเราที่จะไปชวนใครให้เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เราก็ต้องฝึกให้ได้ แม้ในที่สุดยังไม่เห็นนรกสวรรค์ แต่ฝึกแล้วได้ความสว่างข้างใน เราก็พอจะรู้แล้วว่า ถ้าพอจะไปเห็นนรกสวรรค์ได้ก็ต้องเห็นโดยอาศัยความสว่างที่เราฝึกได้นี่แหละ แต่ตอนนี้ยังได้ไม่มากก็ฝึกเข้าไป สักวันหนึ่งมากเข้าก็เห็นอย่างที่ คุณยายเห็น เห็นอย่างที่พระอรหันต์ท่านเห็น ฝึกต่อไป เราก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนรกสวรรค์มากน้อยแค่ไหนก็เล่าให้เขาฟังได้ ถ้าเขามีปัญญาพอเขาก็รู้ว่า เราไม่ได้โกหก เขาก็รู้ว่าเราตั้งใจฝึกจริง เดี๋ยวก็พอจะคุยกันได้ แล้วก็ชวนเขาฝึกตามมา วันหนึ่งเขาจะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง วันนั้นเขาจึงจะเชื่อ แต่ถ้าจะพูดกันให้ปากหัก แล้วให้เขาเชื่อ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นไปไม่ได้