------------------------------------------------------------------------------------
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
กฎแห่งกรรม คือ กฎแห่งการกระทำหรือ กฎแห่งเหตุและผล ประกอบเหตุเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น กรรม คือ การกระทำ ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ จะดีหรือชั่ว จะเจตนาหรือ ไม่เจตนา จะน้อยหรือมาก ล้วนมีผลทั้งสิ้น ที่ไม่มีผล ไม่มีเลย และก็ไม่มีเว้นแม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น เพราะว่ากฎแห่งกรรมนั้นมีฤทธิ์ มีอานุภาพ ใครๆ ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยง ได้
กฎหมายหรือ กฎเกณฑ์อะไรบางอย่าง ในโลกที่มนุษย์สมมติกันขึ้นมายังหลีกเลี่ยงได้ ยังเปลี่ยนแปลงได้ ปีนี้ใช้อย่างนี้ ปีหน้าเปลี่ยน ใหม่อีกแล้ว แต่กฎแห่ง กรรมไม่เคยเปลี่ยน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ปลูกถั่วก็ต้องเป็นถั่ว ปลูกงาก็ต้องเป็นงา
กฎแห่งกรรมเป็นสิ่งที่เราต้องศึกษาต้องเรียนรู้เอาไว้ ไม่รู้อันตราย ถ้ารู้แล้วรอดและปลอดภัย แม้ยังไม่หมดกิเลส แต่ก็จะมีชีวิตอยู่ในสังสารวัฏอย่างปลอดภัยจากอบาย เพราะว่าทำถูกหลักวิชชา จะท่องเที่ยวสร้างบารมีอยู่แค ๒ ภพภูมิ คือ ในมนุษยโลกกับเทวโลก ไม่พลัดไปอบาย แต่ถ้าไม่ได้ศึกษาเอาไว้ มีโอกาสที่จะดำเนินชีวิตผิดพลาดทำให้พลัดไปภพของอบายภูมิ ได้ ซึ่งมีความทุกข์ทรมานมาก แต่ถ้าเราได้ศึกษาแล้ว การผิดพลาดจะไม่ค่อยมี อาจจะแค่พลาดพลั้ง เผอเรอ ประมาทเลินเล่อ แต่ว่าส่วนใหญ่จะสั่งสมบุญบารมีกันมากกว่าอย่างอื่น
เมื่อมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใด ต่างตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องเรียนรู้และศึกษาเอาไว้ ซึ่งคำสอนเหล่านี้มีอยู่ในคำสอนของพุทธศาสนา ซึ่งได้ถ่ายทอดโดยผ่านจานดาวธรรม
ตอนนี้เป็นเทศกาลขยายจานดาวธรรม ได้ขยายกันไปทั้งในวัด นอกวัด ในวัดหลวงพ่อก็ เชิญชวนพวกลูกๆ นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลกไปถวายจานดาวธรรมแด่วัดกัลยาณมิตร หมื่นวัดแรกในสามหมื่น กว่าวัด เพื่อที่ว่าจะได้นำไปให้สามเณร ให้ญาติโยมที่มาเยี่ยมวัด หรือโยม รอบๆ วัดได้ดู จะได้มีจิตเลื่อมใสเหมือนค้างคาวที่ฟัง พระสวดอภิธรรมในถ้ำ แม้ฟังไม่รู้เรื่องแต่ด้วยจิตที่เลื่อมใสก็พ้นจากอัตภาพการเป็นค้างคาวไปเกิดในเทวโลกโดยเฉพาะสามเณรคือเทือกเถาเหล่ากอของสมณะ เป็นผู้ที่จะต้องรับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการสืบทอดรักษาพุทธศาสนาไว้เป็นที่พึ่งแก่ชาวโลก ต่อไป จึงควรจะได้ศึกษาเอาไว้ การได้เตรียมตัวศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ยังเยาว์วัยนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ด้วย สามเณรถือว่าเป็นผู้มีบุญมากจริงๆ ที่ได้มา บวชในร่มเงาพระพุทธศาสนาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ไม่ใช่ เป็นผู้ด้อยโอกาสอย่างที่ผู้ที่ไม่รู้พยายามจะยัดเยียด ให้เป็น ความจริงแล้วชีวิตของนักบวชนั้น เป็นชีวิตของผู้มีบุญ ผู้ได้โอกาส ที่ได้สั่งสมบุญกันมา นับภพนับชาติไม่ถ้วน
นอกจากจานดาวธรรมจะเป็นประโยชน์สำหรับพระภิกษุสามเณรและญาติโยมที่มาวัดแล้ว ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนในครอบครัว จานดาวธรรมไปอยู่บ้านไหนก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนผู้เฒ่า ผู้แก่ที่อยู่ในบ้าน เพราะคนหนุ่มคนสาวเขาออกไปทำงานนอกบ้าน ส่วนเด็กๆ ก็ไปเรียนหนังสือ ผู้เฒ่า ผู้แก่ก็อยู่โยงเฝ้าบ้านเฉยๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็เหงาๆ หงอยๆ ได้เปิดจานดาวธรรม ได้ฟังธรรมะ ใจท่านจะได้อยู่ในบุญกุศล เพราะว่าเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตที่จะต้องทำหนทางสวรรค์หนทางสว่างให้แก่ชีวิตของตนในบั้นปลายให้ได้ เนื่องจากในวัฏฏะนี้สูตรชีวิตเขาตัดสินกันที่ความใสความหมองของใจ ถ้าใจใสก็ไปดี ใจหมองก็ไปไม่ดี และใจจะใสได้เพราะจิตเป็นกุศล คือกุศลธรรมพรั่งพรูบังเกิด ขึ้นมา
ลูกๆ หรือเด็กนักเรียนเมื่อกลับมาจากโรงเรียนก็มีการ์ตูนสอนคุณธรรมให้ดู และรายการที่มีสาระน่าศึกษาเรียนรู้ หรือผู้ที่เป็นแม่บ้านก็เปิดได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ก็จะมีเรื่องราวอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิต เช่น Case Study ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าศึกษา น่าเรียนรู้
การขยายจานดาวธรรมก็คือ ขยายธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แยกย่อยแล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง แบ่งปันกันไป ชาวพุทธก็ฟังได้ ไม่ใช่ชาวพุทธ ก็ฟังดี ฟังกันไปเถอะ อย่าไปปิดหูปิดตาตัวเอง เพราะว่ามนุษย์ทุกคนควรจะมีส่วนในการรับผิดชอบ ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อสังคม จานดาวธรรมนี้จะช่วยได้ เช่น บางครั้งเราอยากจะแนะนำเพื่อนบ้าน หรือ ผู้ที่เป็นที่รักของเราให้เลิกเหล้า เลิกสุราเมรัยอะไรต่างๆ ก็ไม่รู้จะพูดยังไง พูดไปแล้วเขาก็ไม่สนใจ ก็จะได้เห็นตัวอย่างดีๆ ให้ดู เช่นรายการเทเหล้า-เผาบุหรี่ พอเห็นแล้วก็จะได้เกิดแรงบันดาลใจหักดิบ ตัดใจเลิกสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เหล่านั้น
เพราะฉะนั้น ไปช่วยกันขยายจานดาวธรรม ไปแบ่งปันสิ่งที่ดีงามให้แก่เพื่อนร่วมโลก ซึ่งทุกคนเขากำลังรอคอยเราอยู่