วาทศาสตร์ในพระไตรปิฎก
" อานิสงส์การกล่าววาจาสุภาษิต "
อานิสงส์การกล่าววาจาสุภาษิตนั้นมีหลายประการกล่าว คือ หากสร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะทำให้ได้ลักษณะมหาบุรุษดังนี้ คือ มีพระทนต์(ฟัน) 40 องค์(ซี่) มีพระทนต์ไม่ห่าง มีพระสุรเสียงดุจเสียงพรหมและนกการะเวก เป็นต้น หากสร้างบารมีเพื่อเป็นพระสาวกสาวิกา ก็จะได้อานิสงส์ลดหย่อนลงมาตามกำลังบุญ นอกจากนี้การกล่าววาจาสุภาษิตยังเป็นเหตุให้ปิดประตูอบายภูมิ ทำให้ได้เกิดในตระกูลสูง มีกลิ่นปากหอม มีเสียงไพเราะ เป็นที่รักของมหาชน เป็นต้น ในที่นี้จะยกตัวอย่างการกล่าววาจาสุภาษิตที่เป็นเหตุให้ได้ลักษณะมหาบุรุษ และอานิสงส์แห่งวาจาสุภาษิตของบัณฑิตในกาลก่อนดังนี้
1. ลักษณะมหาบุรุษอันเกิดจากการกล่าววาจาสุภาษิต
ลำดับ | การกล่าววาจาสุภาษิต | ลักษณะมหาบุรุษ |
1. | ละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์ มีถ้อยคำาเป็นหลักฐาน ควรเชื่อถือ ไม่พูดลวงโลก |
1. มีโลมา (ขน) ขุมละเส้น 2. มีอุณาโลมในระหว่างคิ้วมีสีขาวอ่อนเหมือนปุยฝ้าย |
2. | ละคำหยาบ เว้นขาดจากคำาหยาบ กล่าวแต่คำที่ ไม่มีโทษ เพราะหู ชวนให้รัก จับใจ ชนส่วนมากรักใคร่ชอบใจ |
1. มีพระชิวหา (ลิ้น) ใหญ่ 2. มีพระสุรเสียงดุจเสียงพรหม เมื่อตรัสมีกระแสดุจเสียงนกการเวก |
3. | กล่าววาจาประกอบด้วยอรรถ ประกอบด้วยธรรมแนะนำาประชาชนเป็นอันมาก เป็นผู้นำประโยชน์และความสุขมาให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้บูชาธรรมเป็นปรกติ |
1. มีพระบาทดุจสังข์คว่ำ 2. มีพระโลมาล้วนมีปลายช้อยขึ้นข้างบนทุก ๆ เส้น |
4. | เว้นขาดจากคำส่อเสียด สมานคนที่แตกร้าวกันแล้วบ้าง ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันแล้วบ้างยินดีในคนผู้พร้อมเพรียงกัน กล่าวแต่คำที่ทำคนให้พร้อมเพรียงกัน | 1. มีพระทนต์ 40 องค์ 2. มีพระทนต์ไม่ห่าง |
5. | เว้นขาดจากคำาเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ อิงธรรม อิงวินัยพูดแต่คำมีหลักฐาน มีที่อ้าง มีที่กำหนดมีประโยชน์ พูดโดยกาลอันควร | 1. มีพระหนุ (คาง)ดุจคางราชสีห์ |
6. | เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์ แล้วซักถามอรรถ เช่น ถามว่า กุศล และอกุศลเป็นอย่างไร กรรมที่มีโทษเป็นอย่างไร กรรมที่ไม่มีโทษเป็นอย่างไร ฯลฯ | 1. มีพระฉวี (ผิว) สุขุมละเอียด 2. ธุลีละอองไม่ติดพระวรกาย |
2. อานิสงส์แห่งวาจาสุภาษิตของบัณฑิตในกาลก่อน
ลำดับ | ชื่อ | กรรมในอดีตชาติ | อานิสงส์ |
1. | พระภูตเถระ | เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อเสนะ ได้กล่าวสรรเสริญพระสิทธัตถพุทธเจ้า 4 คาถา | 1. ไม่รู้จักทุคติตลอด 94 กัป 2. ได้เสวยสมบัติมิใช่น้อยในสุคติทั้งหลาย 3. เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 4 ครั้ง 4. บรรลุมรรคผลนิพพาน |
2. | พระลกุณฏกภัททิยเถระ | เกิดเป็นนกดุเหว่าขาว ได้ร้องเสียงอันไพเราะบูชาพระผุสสพุทธเจ้า | 1. ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต 2. เป็นเลิศด้านเสียงไพเราะ 3. บรรลุมรรคผลนิพพาน |
3. | พระสุคนธเถระ | ออกบวชในศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้าได้กล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณอยู่เป็นนิตย์ | 1. มีกลิ่นปากและกลิ่นกายหอม 2. เป็นผู้น่ารัก น่าชื่นชม 3. มีปฏิภาณอันวิจิตร 4. ไม่ถูกดูหมิ่น 5. ไม่รู้จักทุคติตลอด 1 พุทธันดร 6. บรรลุมรรคผลนิพพาน |
4. | พระญาณถวิกเถระ | บวชเป็นดาบส ได้สรรเสริญพระญาณของพระสุเมธพุทธเจ้า 6 คาถา | 1. รื่นรมณ์ในเทวโลก 77 ครั้ง 2. เป็นจอมเทวดา 1,000 ครั้ง 3. เป็นพระเจ้าจักรพรรดิกว่า 100 ครั้ง 4. เป็นพระเจ้าประเทศราช อันไพบูลย์นับครั้งไม่ถ้วน 5. มีความดำาริแห่งใจไม่บกพร่อง 6. มีปัญญากล้า 7. ไมบกพร่องในทรัพย์อีกเลย 8. ไม่รู้จักทุคติตลอด 30,000 กัป 9. บรรลุอรหัตผลตั้งแต่ 7 ขวบ |
5. | เด็กคนหนึ่ง | มารดาห้ามว่า อย่าไปเที่ยวในป่าเขาไม่เชื่อฟัง มารดาจึงด่าว่า ขอให้แม่กระบือจงไล่ขวิดมึง เมื่อเด็กนั้นเข้าป่าไปก็ได้เจอกระบือเช่นนั้นจริงแต่รอดมาได้ด้วยสัจจวาจา | เด็กคนนั้นได้ทำาสัจจกิริยาว่าสิ่งที่มารดาพูดด้วยปาก จงอย่ามี สิ่งที่มารดาคิดด้วยใจจงมีเถิด แม่กระบือจึงหยุดชะงักอยู่ ณ ที่นั้นนั่นเอง เหมือนถูกผูกไว้ |
จะเห็นว่าการกล่าววาจาสุภาษิตนั้นมีอานิสงส์มาก บางท่านกล่าวคำสรรเสริญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียง 4 คาถาเท่านั้นยังส่งผลให้ปิดนรกได้หลายกัป ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ และบรรลุมรรคผลนิพพานได้ นักศึกษาจึงควรฝึกกล่าววาจาสุภาษิตให้เป็นนิสัยแล้วจะได้อานิสงส์ดังกล่าวนี้เช่นกัน
*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎก
กลุ่มวิชาความรู้ทั่วไปทางพระพุทธศาสนา