กาลทานสุตตคาถา
ใช้สวดอนุโมทนา ในงานทำบุญตามกาล เช่น ทอดกฐิน เป็นต้น
กาเล ทะทันติ สะปัญญา วะทัญญู วีตะมัจฉะรา,
กาเลนะ ทินนัง อะริเยสุ อุชุภูเตสุ ตาทิสุ,
วิปปะสันนะมะนา ตัสสะ วิปุลา โหติ ทักขิณา,
ทายกทั้งหลายเหล่าใด, เป็นผู้มีปัญญามีปกติรู้จักคำพูดปราศจากความตระหนี่,
มีใจเลื่อมใสแล้วในพระอริยเจ้าทั้งหลายซึ่งเป็นผู้ตรง คงที่,
บริจาคทานทำให้เป็นของที่ตนถวายโดยกาลนิยมในกาลสมัย,
ทักษิณาของทายกนั้นเป็นคุณสมบัติมีผลไพบูลย์ ;
เย ตัตถะ อะนุโมทันติ เวยยาวัจจัง กะโรนติ วา,
ชนทั้งหลายเหล่าใดอนุโมทนา หรือช่วยกระทำการขวนขวายในทานนั้น ;
นะ เตนะ ทักขิณา โอนา เตปิ ปุญญัสสะ ภาคิโน,
ทักษิณาทานของเขามิได้บกพร่องไป ด้วยเหตุนั้น ชนทั้งหลายแม้เหล่านั้นย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนั้นด้วย ;
ตัส๎มา ทะเท อัปปะฏิวานะจิตโต ยัตถะ ทินนัง มะทัปผะลัง,
เหตุนั้น ทายกควรเป็นผู้มีจิตไม่ท้อถอย, ให้ในที่ใดมีผลมากควรให้ในที่นั้น ;
ปุญญานิ ปะระโลกัส๎มิง ปะติฏฐา โหนติ ปาณินันติ.
บุญย่อมเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า ฉะนี้.