มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๙
คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
“อนึ่ง ภิกษุใดบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุแก่อนุปสัมบัน เป็นปาจิตตีย์เว้นไว้แต่ภิกษุได้รับสมมติ”
เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
“ภิกษุบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุอื่นต่ออนุปสัมบันต้องปาจิตตีย์ (เว้นไว้แต่ได้สมมติ)”
อธิบายความโดยย่อ
คำว่า บอก คือ แจ้งให้รู้บอกให้ทราบ แก่พวกคฤหัสถ์หรือพวกบรรพชิตต่างลัทธิ
คำว่า อาบัติชั่วหยาบ ได้แก่ อาบัติปาราชิก และอาบัติสังฆาทิเสสการบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุอื่นเป็นการประจานความเสียหายของเพื่อนสหธรรมิกด้วยกัน เป็นการทำลายชื่อเสียงของหมู่คณะโดยภาพรวมทำให้หมู่คณะเสียหาย และทำให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา เพราะส่วนใหญ่จะเชื่อในเรื่องที่ภิกษุพูด ทั้งที่ความจริงส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่จริง ใส่ร้าย อันภิกษุผู้บาดหมางกัน ไม่ถูกไม่ลงรอยกัน ต้องการใส่ร้ายหรือต้องการประจานฝ่ายตรงข้ามให้เสียหาย ให้เสียชื่อเสียง
เจตนารมณ์ของสิกขาบทนี้
สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ภิกษุหาเรื่องภิกษุอื่น ห้ามมิให้นำความเสียหายของกันและกันไปประจาน เพราะเป็นความเสียหายทั้งแก่ผู้นำไปบอกและแก่ส่วนรวม
อนาปัตติวาร
ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ
(๑) ภิกษุบอกเรื่องราว ไม่บอกอาบัติ
(๒) ภิกษุบอกอาบัติไม่บอกเรื่องราว
(๓) ภิกษุได้รับสมมติ
(๔) ภิกษุผู้วิกลจริต
(๕) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรือภิกษุอาทิกัมมิกะ ได้แก่ พวกภิกษุฉัพพัคคีย์