เวลากับความดี

วันที่ 16 กย. พ.ศ.2553

sp530916.jpg

อโมฆํ ทิวสํ กยิรา อปฺเปน พหุเกน วา
ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ ฯ

ควรทำวันคืนไม่ให้เปล่าจากประโยชน์น้อยหรือมาก
เพราะวันคืนผ่านบุคคลใดไป ชีวิตของบุคคลนั้น
ย่อมพร่องจากประโยชน์นั้น

(ขุ.เถร. ๒๖/๓๓๕)

 

อย่าดูหมิ่นความดีว่าเล็กน้อย จึงละเลยไป

หรืออย่าเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ หดหู่ จนไม่เป็นอันทำอะไร

เพราะวันเวลาย่อมล่วงเลยไป

แต่บัณฑิต จะไม่ปล่อยให้ล่วงเลยไปเปล่า

มนุษย์ ไม่ควรพร่องจากความดี

ชีวิต ไม่ควรพร่องจากประโยชน์

 

ไหน ๆเ วลาจะผ่านเราไปแล้ว

ควรแปลงเวลาให้เป็นบารมีให้มากที่สุด

ด้วยวันเวลาในโลกมนุษย์นี้สั้นนัก

อายุเฉลี่ยของมนุษย์ยุคปัจจุบัน คือ ๗๕ ปีนั้น เป็นพียง

 

๓๖ ชั่วโมง ของสวรรค์ชั้นที่ ๑ (จาตุมหาราชิกา)

๑๘ ชั่วโมง ของสวรรค์ชั้นที่ ๒ (ดาวดึงส์)

๙ ชั่วโมง ของสวรรค์ชั้นที่ ๓ (ยามา)

๔.๕ ชั่วโมง ของสวรรค์ชั้นที่ ๔ (ดุสิต)

๒.๒๕ ชั่วโมง ของสวรรค์ชั้นที่ ๕ (นิมมานรดี)

หรือเป็นเพียง ๑.๑๒๕ ชั่วโมง ของสวรรค์ชั้นที่ ๖ (ปรนิมมิตวสวัตตี)

 

เห็นได้ว่าทั้งชีวิตของมนุษย์ คือ เศษเวลาของชาวสวรรค์

ดังนั้น จึงควรใช้เวลาอันน้อยนิดนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ใช้วันเวลาให้เกิดประโยชน์ตนและผู้อื่น

เป็นไปเพื่อความผ่องใสแห่งจิตตนและบุคคลทั้งมวล

 

ขอขอบคุณ หนังสือ ส่องธรรม ล้ำภาษิต เล่ม ๒
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0010444680849711 Mins