เรื่องที่ ๑๒๑ขายดีจนเหลือเชื่อ
คุณมัชฌิมา มงคลฤกษ์ สามีรับราชการที่กรมราชทัณฑ์ เล่าเรื่องว่า เคยมาวัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๑ เพราะต้องการทราบคำแปลของมงคล ๓๘ ที่อยู่ในบทสวดมนต์ เมื่อได้ฟังคำสอนของหลวงพ่อทัตตชีโวแล้วชอบใจมาก เพราะท่านอธิบายได้น่าฟัง
หลังจากนั้นได้ห่างเหินไป ไม่ได้มาวัดอีก จนกระทั่งมีความทุกข์ต่างๆ ประดังเข้ามาในชีวิต สามีถูกผู้บังคับบัญชาบีบคั้นทั้งที่ไม่มีความผิด ตนเองขายก๋วยเตี๋ยวเรือก็ขายไม่ดีจนต้องเลิกขาย ลูกชายคนเล็กอายุ ๔ ขวบ เป็นแผลที่ขาจนเน่าลุกลาม รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ธนาคารก็ยึดบ้านที่ผ่อนชำระไม่หมดเอาไป ต้องย้ายมาพักบ้านของทางราชการ รถยนต์ก็ยังผ่อนไม่หมด ทำให้คิดถึงวัดพระธรรมกาย จึงชวนสามีไปวัด
![](http://www.kalyanamitra.org/th/images/anuphap/16/images/121-1.jpg)
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
สามีไม่ชอบวัดนี้เลยในตอนแรก แต่วัดอื่นก็ไม่ชอบไป เมื่อคุณมัชฌิมา อ้อนวอนมากเข้าจึงจำใจ
ไปด้วย วันนั้นได้มีโอกาสกราบคุณยายอาจารย์ จึงกราบเรียนเรื่องอาการป่วยของลูก และให้ท่านดูแผลที่ขาเด็ก คุณยายอาจารย์ท่านมองเพียง
นิดหนึ่ง แล้วพูดว่า "เพี้ยงหาย" แล้วท่านก็ฟังปัญหาของคนอื่นๆ ต่อไป
สามีคุณมัชฌิมาหมดความอดทน พูดตำหนิคุณยายอาจารย์ว่า "ดูซิ ไม่เห็นรักษาอะไรให้ ก
ว่าจะพากันเข้าพบได้แทบตาย พอได้พบได้ยินคำพูดแค่นี้ จะลูบๆ คลำๆ ขาเด็กสักหน่อยก็ไม่มี"
ภรรยารีบห้ามปรามสามีเกรงจะบาปหนัก ตำหนิผู้ทรงศีลทรงธรรม พูดว่า "คุณยายท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์นะ ในเมื่อท่านว่าหายก็ต้องหายซี"
กลับจากวัด คืนนั้นอาบน้ำให้ลูกชาย รู้สึกแปลกใจมาก แผลของลูกแห้งไม่มีน้ำเหลืองเยิ้มเหมือนทุกวัน รีบเรียกสามีมาดู เขาทำหน้างุนงง พูดว่า "จริงด้วยแฮะ แปลกมาก"
![](http://www.kalyanamitra.org/th/images/anuphap/16/images/121-2.jpg)
(ภาพบน) คุณมัชฌิมา พร้อมกับสามีและ
บุตร ผู้ที่ได้รับอานุภาพบุญบันดาลกันทั้งครอบครัว
(ภาพล่าง) ด.ช.จักรกริช มงคลกฤษ์
บุตรชายของคุณมัชฌิมา ที่คุณยายพูดว่า "เพี้ยงหาย"
จากนั้นอีกไม่ถึงสัปดาห์แผลของเด็กหายไป เหลือเพียงรอยคล้ำๆ สามีถึงกับออกปากยอมรับนับถือ เกิดมีศรัทธา พอทราบเรื่องการทำบุญสร้างองค์พระ จึงจองสร้างแบบสะสมบุญ ๒ องค์ แต่ยังส่งไม่ครบ
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
พอดีมีข่าวเรื่องการสร้างองค์พระเต็มองค์ และจะได้รับพระมหาสิริราชธาตุ สามีจึงขายสร้อยคอทองคำของเขานำไปทำบุญของตัวเอง เพื่อให้ได้พระของขวัญ ส่วนคุณมัชฌิมาพยายามสวดสรรเสริญจนจำได้ และหมั่นสวดอยู่เสมอ เพราะอยากมีเงินทำบุญ จึงตั้งใจเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นมาอีกครั้ง
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
ครั้นวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ไปทำบุญที่วัด ได้เห็นเหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว มีปีติน้ำตาไหลพราก รู้สึกเหมือนตนเองเป็นคนมีชีวิตอยู่ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงดำรงพระชนม์และประทับอยู่ตรงหน้า
เธอจึงรีบอธิษฐานจิตขอพรอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลวงพ่อทั้งสององค์ที่วัดพระธรรมกาย และคุณยายอาจารย์ ว่าพรุ่งนี้จะค้าขายอีกครั้ง ขอให้ขายดี
นับเป็นเรื่องอัศจรรย์เหลือเชื่อ วันรุ่งขึ้นเปิดร้าน ใช้ธงหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่ได้รับแจกมาปักบนหัวเรือ ยังไม่ทันปักธงเสร็จ คนทั้งคันรถที่มาเยี่ยมนักโทษราว ๒๐ คน เข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวทันที พูดว่ากลิ่นน้ำก๋วยเตี๋ยวหอมมาก ทำให้รู้สึกหิว จากนั้นคนก็เข้ามาร้านเรื่อยๆ แน่นไปหมด กว่าคนขายจะได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลาถึงบ่าย ๒ โมง ขายดีจนใครๆ พากันแปลกใจ เป็นอย่างนี้ทุกๆ วัน ร้านคุณมัชฌิมาขายดีมาก มีรายได้มาก จึงได้ทำบุญสร้างองค์พระสำเร็จ
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
นอกจากนี้ยังมีความสำเร็จอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องชวนคนให้ทำบุญคือ ปกติแล้วคุณมัชฌิมาเป็นคนมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดวงตา ตาแห้งมาก มีน้ำตาน้อยกว่าปกติ ตาชอบอักเสบ อ่านหนังสือไม่ได้ ดูทีวีไม่ได้ ตาจะแสบพร่าไปหมด เคยรักษาหลายแห่งแต่ยังไม่หาย ออกนอกห้องต้องใส่แว่นกันแดด และสายตาทั้งเอียงทั้งสั้น
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
จากปัญหาเรื่องของตาเมื่อต้องการอ่านหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุมาก จึงต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมแล้วอ่าน
ต่อมาภายหลังคิดว่าอยากอ่านมาก บอดก็บอดเถอะ แล้วไม่ได้หยอดน้ำตาเทียมอีกเลย ก็อ่านได้ตลอดเหมือนคนสายตาปกติทั่วไป หายดีมาจนทุกวันนี้ เธอจึงเล่าเรื่องลูกชายหายป่วย และตาของตนเองหายเป็นปกติให้คนรู้จักกันฟัง ซึ่งคนผู้นี้มียาดีที่นำมาจากเมืองจีน ทาแผลใครๆ ก็หายทุกราย ยกเว้นลูกชายคุณมัชฌิมา คนผู้นี้เดิมไม่ชอบวัดพระธรรมกายมาตลอด พอฟังคำบอกเล่าแล้ว ได้ทำบุญสร้างองค์พระถึง ๓ องค์
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คุณมัชฌิมากล่าวตอนจบว่า "ตอนนี้ดิฉันจึงเอาประสบการณ์ของตนเอง เล่าให้พี่น้อง เพื่อนๆ เพื่อชักชวนให้พวกเขาสนใจทำบุญ ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระนั้น ใครๆ ที่ประสบด้วยตนเองต้องรู้ดีที่สุด
ถึงจะมีใครมาโจมตีหาว่าเป็นเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ เราก็อย่าไปใส่ใจ การร่วมกันสร้างมหาธรรมกายเจดีย์เป็นงานบุญใหญ่ ต้องมีมารมากเป็นธรรมดา ความจริงถ้ามหาธรรมกายเจดีย์เสร็จ จะมีชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ดังไปทั่วโลก พวกเราน่าจะได้รับการสรรเสริญ เพราะหมายถึงเราสามารถช่วยกันประกาศพระศาสนาแพร่หลายได้สืบไป และเรื่องทุกเรื่องในหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุก็ล้วนแต่ลงชื่อจริง นามสกุลจริง ไม่น่าสงสัยว่าเป็นเรื่องโฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใด ต้องขออนุโมทนาในความอดทนของบรรดาเหล่ากัลยาณมิตรทุกๆ คนมาด้วยค่ะ"