เรื่องที่ ๑๒๒ผลที่สุดก็ต้องเชื่อ
คุณปัญญรัตน์ กล้าหาญ มีอาชีพรับราชการ ลูกชายเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัด เคยได้รับทุนการศึกษาจากทางวัด เล่าว่า เมื่อคุณวัลลภา บูรณโกศล ชวนให้มาทำบุญสร้างองค์พระภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ และจะได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ แต่รู้สึกคลางแคลงใจ เมื่อฟังหลวงพ่อเจ้าอาวาสพูดว่า เนื้อหินที่นำมาทำพระของขวัญ มีอายุราว ๒๐๐ ล้านปี รู้สึกขำจนหัวเราะ และนึกตำหนิอยู่ในใจ
ต่อมาลูกชายได้นำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุมาให้อ่านอยู่เสมอๆ คุณปัญญรัตน์จึงจุดธูป ๙ ดอก ปักไว้กลางแจ้ง อธิษฐานจิตว่า
ถ้าเป็นเรื่องจริงตามที่เขียนเล่าไว้ในหนังสือ ขอให้ตัวเธอฝันเห็นพระของขวัญนี้
คืนนั้น คุณปัญญรัตน์ ฝันว่าตนเองแต่งกายด้วยชุดขาว สวมสร้อยคอห้อยพระมหาสิริราชธาตุเดินตามผู้คนไปทางมหาธรรมกายเจดีย์ จึงเป็นเรื่องแปลกที่ฝันตามอธิษฐาน รวมทั้งลูกชายขอร้องให้ทำบุญสร้างพระบ่อยๆ จึงทำให้คุณปัญญารัตน์ติดต่ออาจารย์ดวง บงกชเกตุสกุล ขอทำบุญสร้างพระภายนอก ๒ องค์ บังเอิญวันนั้นคุณปัญญรัตน์ได้เห็นพระมหาสิริราชธาตุองค์จริง ห้อยอยู่ที่คอของคุณศักดิ์วงศ์ แพงพรหมมา
มองเห็นมีแสงสีทองเปล่งเป็นรัศมีออกมาจากองค์พระได้อย่างอัศจรรย์ จึงต้องการจะทำบุญสร้างพระแกนกลาง โดยฝากให้อาจารย์ดวงช่วยติดต่อให้
คืนนั้นก่อนสวดมนต์คุณปัญญรัตน์จุดธูปอธิษฐานกลางแจ้ง ๓๒ ดอก ขออำนาจพระมหาสิริราชธาตุ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลวงพ่อธัมมชโย และคุณยายอาจารย์ หากมีบุญจะได้เป็นเจ้าของ ขอให้ทำบุญสำเร็จ
เมื่อได้ทำบุญสร้างพระแกนกลางสำเร็จ เธอรู้สึกดีใจมาก หมั่นสวดสรรเสริญท่านอยู่เสมอ ได้ฝันเห็นพระมหาสิริราชธาตุอยู่ในศูนย์กลางกาย
องค์โตจนเต็มท้อง ตื่นขึ้นก็ยังเห็นอยู่ จึงอธิษฐานจิตต่อพระที่เห็นขอให้โทรศัพท์ทวงหนี้จากคนที่ยืมเงินไป ๑๘ ปีแล้วสำเร็จ ปรากฏว่าได้มาจริงๆ จึงนำมาทำบุญเป็น
ค่าภัตตาหาร และทอดกฐินที่วัด
คืนหนึ่งนั่งสมาธิแล้ว จิตใจยังไม่สงบ คุณปัญญรัตน์จึงนอนในห้องพระ ฝันเห็นหลวงพ่อสดมากับพระภิกษุอีก ๒ รูป มาเทศน์ให้ฟัง รุ่งขึ้นเธอรีบนำภาพของท่านมาใส่กรอบ คราวนี้ฝันว่าท่านมาสอนวิธีนั่งสมาธิ แต่ยังไม่ทันทำตามก็ตื่นเสียก่อน จึงตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ให้สมกับที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านเมตตามาสอนให้ในฝัน
วันที่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุองค์จริงนั้นเธอรู้สึกดีใจมาก เป็นพระสวยงามมากตามที่คุณปัญญรัตน์ปรารถนา คือองค์พระเป็นสิทธิธาตุ จีวรเป็นพญาเหล็กเพชรดำ สังฆาฏิเป็นคำแก้วมณี พาดเฉียงจากไหล่ซ้ายลงมาถึงข้างล่าง เจ้าของต้องคุกเข่าลงต่อหน้าองค์พระกล่าวคำ สัมมา อะระหังๆๆ ทันที พร้อมทั้งนึกกล่าวขอขมาที่คิดล่วงเกินพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าอาวาส เพราะตอนนี้เห็นของจริงเชื่อแล้ว พร้อมทั้งอธิษฐานตั้งใจปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ ขอบารมีจากพระบรมพุทธเจ้า พระมหาสิริราชธาตุ และครูบาอาจารย์ทั้งหมด ให้ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวธรรมกายโดยเร็ววัน
ศูนย์ปฏิบัติธรรม "แก้วบงกช" ที่คุณปัญญารัตน์ไปปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ภายหลังจากที่ได้พบอานุภาพบุญ (คุณปัญญารัตน์ กล้าหาญ จากซ้ายคนที่ ๒ แถวหน้า)