อาม่าย้ง ผู้ตั้งมั่นอยู่ในบุญ
ผมชื่อ ฉันทวัฒน์ นิลประกอบกุล อายุ ๑๙ ปี กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมภาคภาษาอังกฤษ ผมจะขอกล่าวถึงสตรีผู้สูงอายุผู้หนึ่ง ผู้มีความอดทน เข็มแข็ง ใจบุญและใจดี เปี่ยมด้วยเมตตากรุณาอย่างสูง สตรีผู้นี้คือคุณยายของผมเอง ผมจะเรียกท่านว่า "อาม่า" เธอคือ อาม่าย้ง แซ่โล้ว
สาวๆ นั้น อาม่าไม่ค่อยได้พบลูก เพราะลูกๆ ต้องเรียนหนังสือ ส่วนอาม่าเป็นชาวเรือ จะไม่ค่อยอยู่กับที่เพราะต้องล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา จึงต้องฝากลูกให้อาเหล่าม่าช่วยเลี้ยง
ช่วงต้นๆ ของชีวิต อาม่าเป็นคนยากจนมาก มีหนี้สินมากมาย จนกระทั่งไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าเทอมให้ลูกๆ ต้องผัดผ่อนทางโรงเรียนเป็นประจำ กลัวว่าลูกจะโดนไล่ออกด้วย แต่ทางโรงเรียนก็เมตตาให้เรียน เพราะลูกๆ เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ
อาม่าบอกว่า สมัยก่อนอยากทำบุญมาก แต่ไม่ค่อยมีเงิน จึงไม่ได้ทำ จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนบ้านคนหนึ่งเป็นโรคมะเร็ง และได้เสียชีวิตด้วยโรคร้ายนี้ จึงคิดได้ว่า เพื่อนเราก็ตายไปแล้ว เราก็ต้องตายเหมือนกัน ถ้าจะรอให้หมดหนี้ แล้วค่อยทำบุญอาจจะตายก่อนก็ได้ ก็เลยตัดสินใจ แบ่งเงินมาทำบุญบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี และด้วยบุญที่ว่าทำด้วยความยากลำบาก แต่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาและตั้งใจอย่างแรงกล้า ใครมาบอกบุญอะไรก็จะทำเสมอตามกำลังปัจจัยที่พอจะแบ่งทำบุญได้ ด้วยอานิสงส์นี้ ก็ส่งผลให้ชีวิตได้เปลี่ยนแปลง จากการอยู่ในเรือกระแชงไม้ หลังคาสังกะสี ก็พัฒนามาอยู่เรือเหล็กขนาดใหญ่ขึ้น มีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น มีรายได้ดีขึ้นมาก
เส้นทางสู่วัดพระธรรมกาย
อาม่าย้งของผมเข้าวัดได้เพราะลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นน้าสาวของผม ปัจจุบันได้อุทิศชีวิตช่วยงานพระศาสนา เป็นอุบาสิกาอยู่ที่วัดพระธรรมกายแห่งนี้
น้าสาวของผม เรียนจบคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานที่บริษัท โมบิลออยล์ ไทยแลนด์ จำกัด ได้เงินเดือนเกือบสามหมื่นบาท ไม่เคยเข้าวัดเลย แต่เมื่อได้มานั่งสมาธิที่วัดพระธรรมกาย พบความสุขจากการนั่งสมาธิ และได้ทราบมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่จะขยายสันติสุขไปสู่ชาวโลก ก็เกิดความศรัทธาและอยากช่วยงานอันยิ่งใหญ่นี้ จึงคิดจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ประจำที่วัดนี้ โดยไม่คิดค่าตอบแทนนอกจากบุญ เมื่ออาม่าผมทราบ อาม่าบอกว่า "ตกใจ และเสียใจมาก" ถึงแม้จะเป็นคนใจบุญ ไหว้พระทุกวัน แต่การจะให้ลูกเข้าวัด เป็นเรื่องที่ยังรับไม่ได้ในขณะนั้น เพราะเดิมลูกสาวคนเล็กของอาม่าคนนี้ตั้งใจจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา อาม่าหวังจะให้ลูกมีชีวิตที่ก้าวหน้าในทางโลก แต่กลับตัดสินใจมาช่วยงานวัดไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ในที่สุดอาม่าผมก็ไม่ขัดข้องอะไร เพราะถือว่าชีวิตของลูก ก็อนุญาตให้ลูกเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง
อานุภาพบุญจากการนั่งสมาธิ
เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๙ อาม่าของผมมีอาการปวดท้องมาก ปวดแบบเหมือนลำไส้ถูกบีบ ปวดจนตัวงอร้องครวญตลอดทั้งคืน เมื่อคุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งตรวจพบว่า ลำไส้อักเสบและมีเนื้องอกต้องผ่าตัด อาม่าของผมกลัวมาก เพราะตัวเองอายุ ๗๐ ปีแล้ว กลัวว่าผ่าตัดแล้วจะฟื้นสุขภาพได้ยาก และลูกๆ ก็ไม่อยากให้ผ่าตัดด้วย ลูกสาวของอาม่าที่เป็นอุบาสิกาอยู่ที่วัด ได้พามากราบหลวงพ่อธัมมชโย โดยมีลูกๆ หลานๆ มาให้กำลังใจด้วย หลวงพ่อบอกว่า ให้ลูกๆ หลานๆ ทุกคนช่วยกันนั่งสมาธิทุกวัน ภาวนาสัมมาอะระหัง ไปเรื่อยๆ แล้วอธิษฐานให้อาม่าหายปวดท้อง ส่วนตัวอาม่าเองก็ต้องนั่งสมาธิทุกวันด้วย แล้วหลวงพ่อจะช่วย เมื่อกลับบ้าน ลูกๆ หลานๆ ก็ช่วยกันนั่งสมาธิให้อาม่า และอาม่าก็นั่งสมาธิด้วย ทำตามที่หลวงพ่อบอก ๑ เดือนผ่านไป อาม่าไปตรวจสุขภาพอีกครั้งที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ คุณหมอบอกว่า ไม่เห็นเป็นอะไรหนักเลย แค่ลำไส้อักเสบเล็กน้อย รับประทานยา ๒-๓ วันก็หาย แล้วอาม่าของผมก็หายป่วยจริงๆ ด้วย อานุภาพบุญจากการทำภาวนา สัมมาอะระหัง นี่เอง
ชีวิตในวัยชราอันทรงคุณค่า
ปัจจุบันอาม่าย้งของผมไม่ค่อยได้ทำอะไรมากแล้ว เพราะลูกๆ อยากให้พักผ่อน เพียงแต่คอยเป็นที่ปรึกษา และสอนลูกๆ หลานๆ เสมอๆ ว่า "ให้ทำบุญนะ บุญจะช่วยเราได้ อย่างอื่นช่วยไม่ได้หรอก" อาม่าย้งของผมจะพูดคำนี้เสมอๆ
ทุกวันพุธ อาม่าจะไปปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมภัทธา อยู่ในหมู่บ้านภัทราวิลล่า ซึ่งเพื่อนของอาม่าจัดตั้งขึ้น โดยอาม่าช่วยผลักดันให้ตั้งขึ้นด้วย และในวันอาทิตย์จะพาลูกๆ หลานๆ มาวัดทุกวันอาทิตย์ ประมาณกว่า ๑๐ คน ถ้างานบุญใหญ่จะพาเพื่อนๆ และลูกๆ หลานๆ มางานวัดได้กว่า ๒๐คน
ตั้งแต่เข้าวัดพระธรรมกาย อาม่าย้งของผมใจเย็นขึ้นมาก เป็นเพราะลูกสาวที่อยู่วัดบอกให้อาม่านั่งสมาธิทุกวัน "เพราะการนั่งสมาธิ จะเป็นผลดีกับตัวเอง ถ้ารักตัวเองก็ให้นั่งสมาธิทุกวัน" และเดี๋ยวนี้ท่านนั่งสมาธิเก่งที่สุดในบ้าน นั่งรวดเดียว ๒ ชั่วโมงในตอนเช้า ผมรู้สึกทึ่งมาก เพราะอาม่าอายุ ๗๑ ปี นั่งได้นานอย่างสบายๆ ถ้าเป็นผมคงเมื่อยแล้วเมื่อยอีก ผมรู้สึกประทับใจตรงนี้มาก ที่วัดพระธรรมกายสามารถเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยของอาม่าผมได้
ปัจจุบันนี้อาม่าของผมจะไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายเห็นผลทันตาจริงๆ เพราะครอบครัวมีความสุข ธุรกิจก็เจริญและขยายขึ้นเรื่อยๆ
ในบั้นปลายของชีวิต อาม่าย้งของผมจะตั้งใจทำบุญ รักษาศีล และนั่งสมาธิให้ยิ่งขึ้นไป จะสนับสนุนลูกๆ หลานๆ ทุกคนให้มาวัด และมาช่วยงานพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ โดยไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข เพราะท่านเห็นว่าชีวิตที่เหลือน้อยเต็มทีนี้ ต้องเอาบุญติดตัวไปให้มากที่สุดนั่นเอง