เรื่องที่ ๑๓๔น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
อะไรจะขนาดนั้น อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุบันดาลให้โรคหายไปได้เองทีเดียวหรือ
ข้าพเจ้าชื่อถวิล นามสกุลเดิมว่า บุญทรง อยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ ๔๔ สมัยยังรับราชการอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ ใครๆ ชอบเรียกว่าอาจารย์ถวิล เพราะมีปริญญาทางโลกพ่วงท้ายชื่ออยู่ ๒ อย่าง แถมเกียรตินิยมอีกต่างหาก เพราะเรียนทางโลกมามาก พอมาเรียนทางธรรมก็เชื่ออะไรๆ ยากอยู่เสมอ ต้องมีเหตุผลจนเชื่อถือได้ จึงจะยอมเชื่อโดยสนิทใจ ด้วยเหตุนี้กว่าจะปฏิบัติธรรมได้ผลบ้างเล็กๆ น้อยๆ จึงเสียเวลามากกว่าคนทั่วไป แต่โชคดีที่ได้ศึกษาปริยัติธรรมควบกันไปทั้งเรื่องหลักธรรมคำสอนทั่วไปในพระสุตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก ทำให้พอนำมารองรับสภาวธรรมของจิตในการบำเพ็ญภาวนาว่า มีเหตุมีผล ที่ไปที่มาอย่างไร ทำให้เกิดความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการศึกษาธรรมปฏิบัติ ไม่ใช่เอาแต่เชื่อตามคำบอกไปเสียหมด จะกลายเป็นความงมงาย
เรื่องที่เกิดขึ้นแก่ตนเองคราวนี้ แต่แรกยังหาคำตอบไม่ได้จึงไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เมื่อพิสูจน์จนแน่ใจ จึงขอนำมาเล่าไว้
เมื่อ ๖ ปีที่แล้ว ข้าพเจ้าป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ ๒ ที่มดลูก ได้ทำการผ่าตัดรักษาโดยวิธีการแพทย์สมัยใหม่ จนดูเหมือนหายดี มากระทั่งเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ที่ผ่านมา มีอาการผิดปกติ
มีน้ำเกิดขึ้นมาเองในช่องท้อง ทำให้ท้องโตเหมือนคนมีครรภ์แก่ ไปโรงพยาบาลตรวจพบว่า คราวนี้เป็นที่ตับระยะสุดท้ายเสียแล้ว หมอจะทำการรักษาแบบเดิม ข้าพเจ้าไม่ยอมรับ เพราะรู้ว่านอกจากจะไม่หายแล้ว ยังจะตายแบบทรมานด้วยซ้ำ ถ้าอย่างไรขอตายแบบมีสติเถิด อายุก็มากแล้ว ๖๕ ปี เรื่องกลัวตายไม่มี ถ้าจะกลัวก็กลัวขบวนการรักษาของหมอสมัยใหม่ก่อนตายนั่นแหละ ผ่าโน่น เจาะนี่ เสียบนั่น แทนที่จิตใจจะสงบก่อนตาย จะกลายเป็นทุรนทุรายนึกโกรธหมอโกรธพยาบาลไปเสียเปล่า
บังเอิญระยะตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นต้นมา ทางวัดพระธรรมกายได้ให้ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมบุญในการจัดทำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุด้วยคนหนึ่ง จึง
ได้มีโอกาสอ่านจดหมายของผู้คนที่เขียนเรื่องเล่าถึงอานุภาพพระของขวัญองค์นี้นับเป็นพันๆ ราย
รายอัศจรรย์เต็มทีที่ประทับใจมาก คงจะเป็นเรื่องราวผู้หญิงคยหนึ่ง เขียนเล่ามาเป็นคนแรกว่า เป็นโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไปไหนมาไหนลำบากมาก ผ่าตัดแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น มีเพื่อนบอกให้ใช้องค์พระมหาสิริราชธาตุแช่ลงไว้ในน้ำสะอาด สวดสรรเสริญท่าน อธิษฐานให้เป็นน้ำมนต์ แล้วนำมาดื่ม สตรีผู้นั้นก็ทำตาม แล้วอาการก็ทุเลาขึ้น ทำน้ำมนต์ดื่มอยู่เพียงสัปดาห์เดียวโรคก็หายไป
ข้าพเจ้าอ่านพบก็รู้สึกว่าอะไรจะขนาดนั้นอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุบันดาลให้โรคหายไปได้เองทีเดียวหรือ "แล้วคนอย่างเราเล่า เชื่ออะไรๆ ยากนักมาแต่ไหนแต่ไร จะโชคดีอย่างคนป่วยรายนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลย"
คิดแล้วก็เฉยๆ เรื่อยมา พอในท้องมีน้ำคั่งมากจวนเจียนหายใจจะไม่ไหวแล้ว ก็จะให้ลูกพาไปโรงพยาบาล เพื่อให้หมอเจาะเอาน้ำทิ้ง คราวละลิตร สองลิตร ตามที่หมอเห็นสมควร แต่เนื่องจากวิธีนี้ไม่ใช่การรักษา เป็นการแก้ไขตามอาการเท่านั้น ดังนั้นพอเจาะเอาน้ำออกไปได้วันสองวัน น้ำก็เกิดขึ้นมาเต็มท้องอีก ก็ต้องไปเจาะกันใหม่ และที่ทราบ โรคนี้ยิ่งเจาะ มันก็จะยิ่งเกิด และก็เป็นจริงตามนั้น เพราะระยะหลังดูเกิดเร็วมาก เจาะเพียงไม่ถึง ๓ วัน น้ำก็เต็มท้องแล้ว
แม้จะป่วยก็ไม่ย่อท้อ ยังคงช่วยทำงานหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุตลอดเวลา พบว่าเรื่องที่ส่งมาในระยะหลัง เมื่อทางวัดพิมพ์เรื่องน้ำมนต์ออกไปแล้ว มีผู้นิยมทำตาม และประสบความอัศจรรย์กันเป็นสิบๆ ราย ทำให้ข้าพเจ้าประหลาดใจ คิดอยากพิสูจน์ "ก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย แค่น้ำดื่มแก้วเดียว ถึงอย่างไรเราก็ต้องสวดสรรเสริญอยู่แล้ว ดื่มไม่หายก็แล้วไป ถ้าเกิดหายหรือดีขึ้น ก็จะเป็นประสบการณ์ของเราเอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้ว"
คิดแล้วข้าพเจ้าก็ทดลองทำน้ำมนต์ เมื่อแช่องค์พระมหาสิริราชธาตุลงในแก้วน้ำแล้ว ข้าพเจ้าและลูกๆ ก็สวดสรรเสริญท่าน ๓ จบ ทำสมาธิ อธิษฐานจิตขอพร นิมนต์ท่านสรงน้ำอยู่ตลอดคืน รุ่งเช้าจึงนำน้ำนั้นมาดื่มจนหมด
ปรากฏว่าเมื่อมาสังเกตอาการป่วยของตนเอง ก็เริ่มประหลาดใจ ปกติจะรู้สึกเสาะท้องอยู่เสมอ มันส่งเสียงร้องโครกคราก มวนๆ เจ็บจี๊ดๆ จ๊าดๆ เป็นครั้งคราว จะอยู่นิ่งๆ สงบๆ ได้ไม่นาน
พอดื่มน้ำมนต์วันแรก ลืมเจ็บท้องไปเป็นชั่วโมงๆ พอดื่มวันที่สอง ลืมอาการปวดไปทั้งวันเลย ท้องไม่โตขึ้น แถมคลำดูรู้สึกนิ่มๆ ปกติจะแข็งเหมือนลูกโป่งที่มีน้ำอัดอยู่เต็มที่ ทำให้นั่งยิ้มอยู่คนเดียว "อ๊ะ น้ำมนต์เนี่ยเข้าท่าแฮะ"
หมอดูอาการแล้วให้ความหวังว่ามีทางหาย มอบยาเป็นผงให้ชงน้ำร้อน รับประทานเช้าเย็น ข้าพเจ้าจึง
ดื่มน้ำมนต์ต่อจนถึง ๗ วัน อาการเจ็บและปวดมวนที่เป็นอยู่เสมอหายไปสิ้นเชิง ทำให้เพื่อนบ้านซึ่งเป็นโรคเจ็บเอว ปวดหลัง ปวดขาขวาทั้งแถบ ทำน้ำมนต์ดื่มบ้าง วันแรกอาการดีขึ้น พอวันที่สองหายขาดไปเป็นอัศจรรย์ น้ำในท้องข้าพเจ้าอยู่เท่าเดิมไม่เพิ่มขึ้น ยังไม่ต้องเจาะเอาออกอีก อยู่ได้อย่างสบาย ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งเชื่อมั่นว่า อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และพลังแห่งพุทธานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุสามารถต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บในตัวคนได้ บางรายไม่ต้องนำองค์พระไปแช่น้ำ เพียงวางน้ำไว้ใกล้ๆ อธิษฐานให้เป็นน้ำมนต์ ก็ใช้รักษาโรคสำเร็จ เพราะพลังพุทธานุภาพในเนื้อหินขององค์พระสามารถแผ่ไปถึง
อย่างไรก็ตามพลังความเชื่อ ความศรัทธา เป็นสิ่งจำเป็นยิ่งอีกประการหนึ่ง เพราะความเชื่อความศรัทธาทำให้เกิดกำลังใจ ช่วยเสริมอำนาจพลังความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุให้ทำงานได้ผลเต็มที่ เหมือนสายชนวนต่อเชื้อไฟให้วิ่งไปยังกองเชื้อเพลิง ถ้าปราศจากความเชื่อเหมือนไม่มีสายชนวน หรือเหมือนสาดน้ำดับไฟไปเสียเอง
ส่วนคนป่วยใกล้สิ้นใจ ญาติพี่น้องลูกหลานทำบุญต่างๆ หรือแม้นั่งสวดมนต์ให้ฟังเป็นกำลังใจ ทำให้คนป่วยรู้สึกว่าชีวิตตนเองมีค่าต่อคนรอบตัว ปลุกปลอบใจตนเองให้เข้มแข็งขึ้นมา เซลล์ในร่างกายมีกำลังทำงานดีขึ้น บุญในตัวก็เพิ่มขึ้น ย่อมสามารถหายป่วยได้เป็นอัศจรรย์เหมือนกัน
สำหรับเนื้อธาตุของพระมหาสิริราชธาตุ มีพลังพิเศษ โดยเฉพาะเป็นของขวัญที่มอบให้ผู้ร่วมทำบุญค้ำจุนพระพุทธศาสนา มีอานุภาพแห่งคุณของพระรัตนตรัยอยู่เต็มเปี่ยม รวมทั้งเจ้าของเคารพเลื่อมใสบูชาอย่างบริสุทธิ์ใจ เหมือนอาราธนาบุญอันศักดิ์สิทธิ์ผ่านองค์พระมาให้ตนเองตลอดเวลา ความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงในทุกๆ เรื่อง จึงเป็นอัปมาณัง คือนับประมาณไม่ได้
ใครมีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าของ จึงควรตั้งตนอยู่ในบุญกุศลต่างๆ ประกอบแต่คุณความดียิ่งๆ ขึ้นโดยสม่ำเสมอ เป็นที่อนุโมทนาของเทพยาดาผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาองค์พระ ชีวิตย่อมประสบความสุขความเจริญตลอดไป เพราะท่านย่อมเต็มใจคุ้มครองให้พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงได้อย่างอัศจรรย์