เรื่องที่ ๒๓๙ อย่างไรก็หาย
ทำน้ำมนต์ให้มารดาดื่ม ขอให้หายเป็นปกติเดินได้ ซึ่งรู้สึกว่ามีความหวังมากเพราะอาการต่างๆ ดีขึ้นมากเป็นอัศจรรย์
|
คุณกุณฑี หิรัญวัชนะ อยู่ที่แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพฯ เล่าว่าคุณแม่อายุ ๗๒ ปี ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๙ โรคนี้ไม่มีอาการบอกล่วงหน้าอะไรเลย จะเกิดขึ้นมาเอง อาการจะมากขึ้นเรื่อยๆ พาไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ไม่มีที่ใดยอมรับตัวไว้รักษา ทุกแห่งลงความเห็นว่าไม่มีทางรักษาหาย เพราะเป็นโรคของคนแก่ ให้พากลับไปดูแลกันเองที่บ้าน
พอดีเพื่อนบ้านแนะนำคุณกุณฑีให้พาไปโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา อยู่ที่คลองสาน โชคดีที่แพทย์ที่นั่นรับตัวไว้ทดลองรักษาอยู่ ๒ เดือน อาการไม่ดีขึ้นมีแต่ทรุดลง ต้องให้อาหารและยาทางสายยาง ไม่ยอมรับรู้เรื่องราวใดๆ เหมือนเจ้าหญิงนิทรา ลูกๆ ที่เฝ้าไข้ต้องคอยปลุกให้รู้สึกตัวอยู่เรื่อยๆ มิฉะนั้นอาจหลับนานและตายไปเลย เดือนกุมภาพันธ์ แพทย์แจ้งว่า คนป่วยคงอยู่ได้ไม่เกิน ๑ สัปดาห์ ให้ญาติทุกคนทำใจ ลูกๆ จึงได้เตรียมติดต่อวัดเอาไว้ ส่วนคุณกุณฑียังมีความหวังเรื่องให้มารดาทำบุญ บุญอาจช่วยชีวิตได้ จึงไปทำสังฆทานและซื้อโลงศพ รุ่งขึ้นเพื่อนชื่อ มยุรี เฟื่องฤทธิ์ โทรศัพท์มาหาที่ทำงาน คุณกุณฑีแปลกใจมาก เพราะไม่เคยติดต่อกันมานานราว ๓-๔ ปีแล้ว เพื่อเล่าเรื่องการทำบุญใหญ่ที่วัดพระธรรมกายและสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ให้ฟัง แนะนำให้สร้างองค์พระให้คุณแม่ เผื่อบุญจะช่วยให้หายป่วย
คุณกุณฑีเห็นดีด้วย รีบเบิกเงินให้เพื่อนทันที รุ่งขึ้นเพื่อนนำไปทำบุญให้ ได้รับพระของขวัญเวลานั้นเป็นเหรียญจุยเจียแก้วสลักรูปหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ คุณกุณฑีนำไปใส่ไว้ในมือมารดา อธิษฐานจิตขอให้แม่หายจากโรคทำอย่างนี้ทุกวันตามที่เพื่อนแนะนำ
เวลาผ่านไปประมาณ ๑ สัปดาห์ อาการของผู้ป่วยดีขึ้น จนคุณหมอผู้ทำการรักษาแปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร สัปดาห์ต่อมาจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ลูกๆ ก็เปลี่ยนกันดูแล ในที่สุดเริ่มรับประทานอาหารเองได้ ฟังอะไรรู้เรื่อง พูดได้ จำชื่อลูกๆ และญาติๆ ที่มาเยี่ยมได้ คุณกุณฑีจะพาไปพบแพทย์ผู้รักษาทุกสัปดาห์ เมื่อพบกับคุณหมอ คนป่วยยกมือไหว้คุณหมอได้ ทำให้คุณหมองงมาก บอกว่าโรคสมองฝ่อถ้าเป็นในผู้สูงอายุแล้วไม่มีทางรักษาให้หายเลย
การเจ็บป่วยด้วยโรครักษาไม่หาย มีสาเหตุมาจากเรื่องเดียว คือโรคจากกรรม กรรมที่ทำให้ร่างกายทุกข์ทรมานด้วยอาการต่างๆ มีเวรหนักๆ มาจากเรื่องปาณาติบาต และกาเมสุมิจฉาจาร
ปาณาติบาตเมื่อตามให้ผลทัน มักทำให้เจ็บปวดทุกข์ทรมานพิกลพิการ ตามอวัยวะที่เคยทำต่อชีวิตผู้อื่น เคยทำเขาแขนขาด ก็ต้องรับผลทำนองเดียวกัน เคยทำเขาตาบอด หูหนวก เป็นบ้า ตัวเองก็ต้องรับผลชนิดนั้น
ส่วนเวรกาเมสุมิจฉาจาร มักเป็นโรคที่ทำให้เจ็บป่วยที่อวัยวะเพศ เพราะทำบาปด้วยสิ่งนั้น และเนื่องจากทำให้ผู้อื่นเสียใจ อับอาย ก็ต้องมาประสบความเสื่อมเสียชื่อเสียง และความอับอายตามควรแก่โทษทัณฑ์
การจะลดการให้ผลของกรรมชั่วนั้น ตัวเองจะต้องทำกรรมดีในปัจจุบันชาตินี้ให้ได้มากที่สุด กรรมชั่วเสมือนเกลือ ส่วนกรรมดีหรือบุญเสมือนกับน้ำ เมื่อไม่ทำกรรมชั่วเพิ่มเติม ทำแต่กรรมดี ก็เหมือนยิ่งเติมน้ำ การให้ผลของกรรมชั่วก็ลดลง เหมือนกับเกลือที่ไม่ออกรสเค็มเมื่อละลายอยู่ในน้ำที่มีปริมาณมาก