เรื่องที่ ๒๔๑ เงินเดือนมหัศจรรย์
บอกทางบริษัทไปว่า ขอเงินเดือนๆ ละ ๑๒๐,๐๐๐ บาท กะว่าสิบเดือนได้เงินล้านสอง พอเป็นประธานรองได้
คุณสมนึก ฉินทองประเสริฐ
|
คุณสมนึก ฉินทองประเสริฐ เรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า เข้าวัดครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ และมาเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ สาเหตุที่มาวัด ไม่ใช่มาเพราะต้องการจะจับผิด แต่เคยรู้ว่าคนที่เข้าวัดนี้มีแต่คนเรียนสูงๆ คนรวยๆ จึงอยากทราบว่า ที่วัดนี้มีอะไรดี จึงได้มา
พอได้มาสัมผัสด้วยตนเอง รู้สึกว่าทุกอย่างดีหมด มีระเบียบ มีความสะอาด ทุกคนอ่อนน้อมถ่อมตน เอื้ออาทรต่อกัน เมื่อพบสิ่งดีๆ ดังนี้แล้ว จึงได้ชวนญาติพี่น้องมาวัด และในที่สุดก็ได้ร่วมกันทำบุญสร้างองค์พระหลายสิบองค์
ช่วงระยะที่ทางวัดมีการสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ รู้สึกเสียดายที่มาวัดช้าไป จึงรีบทำบุญองค์พระที่แกนกลางชนิดเทกระเป๋าเลย ๑๐ องค์ จากนั้นได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวองค์ละ ๑ หมื่นบาทอีก โดยทำเองบ้าง ชักชวนผู้อื่นบ้าง รวมทั้งหมดได้อีก ๔๐ องค์
คุณสมนึกกล่าวว่า "ความจริงไม่ได้มีเงินเก็บอยู่ก่อน แต่พอตั้งใจจะทำ เงินก็มาเอง บางทีมีคนเอามาให้ บางทีก็โทรศัพท์บอกมาว่า มีเงินให้ใช้ก่อน จะคืนเมื่อไรก็ได้ หรือจะไม่คืนก็ได้"
ต่อมาคุณสมนึกต้องการจะทำบุญเป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ ๑ ล้านบาท ซึ่งเหลือระยะเวลาอีกไม่ถึงปี คิดแล้วเดือนหนึ่งจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า ๑ แสนบาท จึงจะได้ปัจจัยเพียงพอ คุณสมนึกรีบเขียนใบปวารณาเป็นประธานรอง แล้วอธิษฐานขออานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ ขอไปทั้งๆ ที่ไม่ทราบว่า จะมีรายได้จากที่ไหนมา
ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะเคยส่งจดหมายสมัครงานไว้ ๒๐ แห่งเมื่อ ๒ ปีที่แล้ว และไม่มีใครตอบรับเลยสักแห่งเดียว แต่พออธิษฐานไม่กี่วัน มีบริษัทหนึ่งส่งจดหมายมาบอกว่าสนใจ ให้ไปสัมภาษณ์ได้เลย
คุณสมนึกจึงอธิษฐานต่อ ให้เขาเต็มใจรับเข้าทำงาน ให้มีรายได้พอที่จะเป็นประธานรอง เมื่อไปสัมภาษณ์ ทางบริษัทถามเรื่องเงินเดือน ได้ออกตัวว่าจะขอตอบทางโทรศัพท์ แล้วบอกเขาไปทางโทรศัพท์ว่า ขอเงินเดือนๆ ละ หนึ่งแสนสองหมื่นบาท กะว่าสิบเดือนจะได้เงินหนึ่งล้านสองแสนบาท พอที่จะเป็นประธานรองได้
ใบปวารณาเป็นประธานรอง
|