|
|
อาจารย์สุภาพร นาคแท้
ผู้เป็นกัลยาณมิตรให้กับสามี
|
|
อาจารย์สุภาพร นาคแท้ อยู่ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า ตนเองเข้าวัดครั้งแรกเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๘ และจากนั้นก็มาวัดตลอดเกือบทุกสัปดาห์ โดยมากับบุตรอีก ๒ คน ส่วนสามีชื่อคุณประสิทธิ์ นาคแท้ จะมาวัดทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนและวันงานบุญใหญ่ อาจารย์สุภาพรจะทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรคอยชักชวนสามี ญาติพี่น้อง บิดามารดา เพื่อนบ้าน ให้มาเข้าวัดด้วย แม้จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ก็ยังชักชวนต่อไปไม่เคยย่อท้อ เพราะในใจคิดอยู่เสมอว่า ต้องการให้คนที่เป็นที่รักและคนที่รู้จักทุกคน เข้าใจและศรัทธาในวัดพระธรรมกาย และมาวัดปฏิบัติธรรมกันทุกสัปดาห์ เหมือนกับที่เธอและลูกๆ ทำอยู่เป็นประจำ
ช่วงที่วัดถูกโจมตีต่างๆ นานา สื่อต่างๆ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับวัดมากมาย ไม่ว่าจะรุนแรงหรือมีมุมมองในแง่ร้ายเพียงใดก็ตาม อาจารย์สุภาพรก็ไม่เคยหวั่นไหว ยิ่งมีความรู้สึกอยากจะมาวัดมากยิ่งขึ้น อยากจะมาให้กำลังใจพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะทุกคน เพราะมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า ในสายตาของตนที่ได้เข้ามาสัมผัสและพิสูจน์ในข้อปฏิบัติและหลักคำสอนของวัดว่า เป็นสิ่งที่ดีงามทุกอย่าง สามารถที่จะนำหลักธรรมคำสอนไปใช้และเกิดประโยชน์ได้จริง อาจารย์สุภาพรบอกว่า "ไปวัดต่างๆ มาก็มากมาย แต่มาประทับใจวัดพระธรรมกายมากที่สุด นอกจากจะทำให้ได้พบความสุขจากการปฏิบัติตามหลักธรรมแล้ว ยังได้พบแต่เพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร คอยแนะนำชักชวนให้ทำแต่สิ่งที่ดีงาม" แม้วัดจะถูกโจมตีอย่างหนัก ก็จะเป็นทนายแก้ต่างให้วัดมาโดยตลอด เวลาไปบอกบุญ ชักชวนคนให้มาทำบุญ หรือชวนให้มาวัด ก็จะถูกหัวเราะเยาะ แล้วก็ไม่มา เธอคิดว่า คนอื่นไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่คนในครอบครัวต้องมา ซึ่งแม้กระทั่งสามีของเธอเอง เมื่อพบสื่อต่างๆ ออกข่าวโจมตีวัด ก็ยังคล้อยไปตามสื่อ แต่เธอก็พยายามพูดชี้แนะ ให้ข้อเท็จจริง และให้ลองมาพิสูจน์ดูด้วยตนเองที่วัด จนกระทั่งสามีได้มาเข้าวัดและก็เข้าใจในวัดพระธรรมกาย จนเมื่อวันที่ ๒๙-๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ สามีก็ได้มาบวชอุบาสกแก้ว
หลังจากที่สามีกลับจากงานบวชอุบาสกแก้ว และได้รับพระมหาสิริราชธาตุพิชิตมารมาบูชาแล้ว ก็ได้พบกับอานุภาพขององค์พระช่วยดึงดูดทรัพย์สมบัติ ดังนี้
คุณประสิทธิ์ นาคแท้ สามีของอาจารย์สุภาพร มีอาชีพขับรถส่วนตัวรับส่งชาวต่างประเทศประจำอยู่ที่โรงแรม Radisson หลังจากที่ได้พระมหาสิริราชธาตุพิชิตมารมาบูชาแล้ว ก็มีงานเข้ามามากมายกว่าปกติ มีชาวต่างชาติหลายคนถึงกับโทรศัพท์มาจองตัวและรถของสามีคุณสุภาพรทีเดียว ทำให้มีรายได้เข้ามามาก ไม่กี่วันมีรายได้ถึง ๕ หมื่นบาท ไม่รวมค่าเช่ารถ ชาวต่างชาติบางคนกลับไปแล้ว ยังเขียนจดหมายมาขอบคุณอีก บอกว่าสามีเป็นคนดีมาก ซื่อสัตย์ บริการดี ไม่เคยบ่น ไม่ว่าลูกค้าจะไปไหนดึกดื่นเพียงใด มีถึงขนาดที่ว่า มีชาวต่างชาติโทรศัพท์มาจองตัวให้ขับรถให้เป็นเวลาถึง ๔๒ วัน โดยมีรายได้ให้ถึงวันละ ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นจำนวนรายได้ที่มาก
ชาวต่างชาติจะพากันมาจองตัวและรถของสามี และชอบให้สามีขับรถพาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ มากผิดปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้งานไม่เคยมีมากถึงขนาดนี้ หลังจากที่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุพิชิตมารมาแล้ว ทั้งเงินและงานก็ไหลทะลักเข้ามาเรื่อยๆ สมดังคำอธิษฐานที่อธิษฐานอยู่เป็นประจำว่า "ขอให้เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ขอให้สามีทำงานได้เงินวันละเป็นหมื่นเป็นแสนบาท ให้มีรายได้เพื่อใช้สร้างทานบารมีได้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น จะได้นำเงินมาสร้างพระธรรมกายประจำตัวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้"
อาจารย์สุภาพรกล่าวในตอนท้ายว่า "อยากให้มหาธรรมกายเจดีย์เสร็จให้เร็วที่สุด ทุกคนที่ไม่เข้าใจ จะได้เข้าใจกันเสียทีว่า สิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย หมู่คณะและเหล่ากัลยาณมิตรทุ่มเทชีวิตจิตใจร่วมกันสร้าง ร่วมกันสถาปนานั้น เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด และจะยังประโยชน์มากมายมหาศาลให้แก่มวลมนุษยชาติทุกคน ทุกคนที่ทำบุญบริจาคทรัพย์ แรงกาย แรงใจ ลงไปด้วยจิตที่ศรัทธาเต็มเปี่ยมล้านเปอร์เซ็นต์ และรู้คุณค่าของพระรัตนตรัย รู้คุณค่าของบุญกุศลอย่างแท้จริง ไม่ได้ทำด้วยความโง่เขลาหรืองมงายเลย
ดิฉันสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ และนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมทุกวันไม่เคยขาดเลย และจะทำเช่นนี้ตลอดไป ดิฉันภูมิใจและดีใจมากที่ได้มาพบวัด เข้าวัด ได้พบหมู่คณะที่เป็นยอดกัลยาณมิตร ได้ร่วมบุญสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ และมีจิตศรัทธาอย่างแรงกล้า ไม่หวั่นไหวในการสร้างความดี"