อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๒๔๗ ของดีก็ได้คืน

 

เรื่องที่ ๒๔๗ ของดีก็ได้คืน

ทำตุ้มหูทองคำหาย เป็นของที่สามีให้ไว้ หาเท่าใดก็หาไม่พบ จึงอธิษฐานจิตและหมั่นสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ

 

 

 

 

 

 
 

 

คุณเบญจมาศ กฤษณะเดชา อยู่ที่ถนนสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เล่าว่า ได้ยินชื่อวัดพระธรรมกายมานาน แต่ไม่เคยไป จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๔๐ มีนิสิตนักศึกษามาชวนทำบุญ จึงได้โอกาสไปวัดเป็นครั้งแรก รู้สึกดีใจที่เห็นวัดมีระเบียบเรียบร้อย ห้องน้ำสะอาด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของวัดก็มีระเบียบวินัย มารยาทกิริยาวาจาอ่อนน้อมงดงาม จึงไปวัดอีกเป็นครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นงานทอดกฐิน ซึ่งมีคุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เป็นประธานกฐิน ได้ทำบุญสร้างองค์พระโดยการสะสมบุญ จนครบหนึ่งหมื่นบาท ได้รับของขวัญเป็นพระหยกและดวงแก้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ เธอนอนหลับฝันว่าได้ไปทำบุญทอดผ้าป่าที่วัดไหนก็ไม่ทราบ มีสาธุชนมาร่วมบุญกันมากมาย ทางวัดประกาศบอกว่า ให้ทุกคนที่มารับวัตถุมงคลไปบูชาที่บ้าน คุณเบญจมาศจึงเดินตามคนอื่นๆไป ครั้นผ่านโต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งมีวัตถุมงคลใส่ไว้ในพานทองมากมาย มีหลวงพ่อสูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่ คุณเบญจมาศมองดูวัตถุมงคลในพาน เห็นเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กๆ เลี่ยมไว้เรียบร้อย เป็นพระนั่งสมาธิสีชมพู สวยงามมาก อยากได้ไว้คล้องคอ เพราะยังไม่เคยมีพระคล้องคอเลย จึงพูดกับหลวงพ่อรูปนั้นว่า "หลวงพ่อเจ้าขา ลูกยังไม่เคยมีพระคล้องคอเลย ขอองค์พระสีชมพู ที่เห็นอยู่นี้ให้ลูกนะคะ ลูกอยากได้" พูดขอแล้วชี้มือไปที่องค์พระสีชมพูองค์เดียวที่เห็นอยู่ในพานทอง

หลวงพ่อรูปนั้นท่านมองหน้าคุณเบญจมาศ พร้อมกับกล่าวอนุญาตว่า "เอาไปซิลูก" เธอก็หยิบพระสีชมพูองค์นั้นมา แล้วก็ตื่นขึ้น

อีก ๒ วันต่อมา เป็นวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณศิริเพ็ญ เตชะวีรพงศ์ได้นำหนังสือสวดสรรเสริญสุวรรณนิธิ (โลหะสำหรับหล่อองค์พระ) สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ และหนังสือปาฏิหาริย์หลวงพ่อวัดปากน้ำมาให้ บอกข่าวเรื่องการทำบุญสร้างองค์พระบูชาธรรมหลวงพ่อองค์ละหนึ่งหมื่นบาท จะได้รับพระของขวัญมหาสิริราชธาตุพร้อมทั้งเล่าเรื่องอัศจรรย์ตะวันแก้วที่เกิดเมื่อวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ให้ฟัง

 
เธอฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่มีเงิน จึงตอบไปว่า ถ้ามีโชคถูกหวยงวดนี้จึงจะทำบุญ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง ๑๒ วัน จะปิดองค์พระภายนอกเจดีย์แล้ว จะหาเงินที่ไหนมาทำบุญทัน คุณศิริเพ็ญแนะนำให้อธิษฐานจิตขอพร เธอก็ยังไม่เชื่อ

ต่อมาคืนวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คราวนี้เธอฝันว่าไปขอพระจากผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แบบเดียวกับที่ขอจากพระภิกษุชรารูปนั้น ตกใจตื่นขึ้นนอนไม่หลับ ลุกขึ้นไปหยิบหนังสือปาฏิหาริย์มาอ่าน ด้านหลังหนังสือมีภาพพระมหาสิริราชธาตุ พิจารณาดูเหมือนพระของขวัญที่ได้รับในฝัน พอพลิกดูปกหนังสือด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ถึงกับตกใจขนลุก เพราะเหมือนพระภิกษุชราที่เห็นในฝัน คืนวันที่ ๒๖-๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ไม่มีผิด จึงพนมมือขึ้นอธิษฐานว่า "ถ้าลูกมีบุญเป็นเจ้าขององค์พระ ขอให้ลูกมีโชคดีได้เงินมาทำบุญสร้างองค์พระ"
 
 
 
หนังสือสุดยอดปาฏิหาริย์
 
ครั้นแล้วปรากฏว่าได้ลาภพิเศษ มีเงินมาทำบุญสร้างองค์พระทันในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ และยังมีบุญได้เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้วพร้อมลูกชาย ทั้งแม่ ทั้งลูกดีใจจนน้ำตาไหล คิดว่าตัวเองคงมีบุญอยู่บ้าง หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านยังอุตส่าห์ไปตามในความฝัน ให้ได้เห็นพระมหาสิริราชธาตุล่วงหน้า คุณเบญจมาศจึงตั้งใจปฏิบัติธรรมและไปวัดทุกวันอาทิตย์ เวลานี้แม้ยังไม่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุองค์จริง แต่ได้สวดสรรเสริญอยู่เป็นประจำ ในบางครั้งก็ได้พบอานุภาพของท่าน อย่างเช่นเรื่องทำตุ้มหูทองคำหาย รู้สึกเสียดายมาก เพราะเป็นของที่สามีให้ไว้ แต่เมื่อหาเท่าใดก็ไม่พบ จึงต้องทำใจ ระยะนั้นแม้ยังไม่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุ แต่คุณเบญจมาศก็หมั่นสวดมนต์ สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ โดยนำใบอนุโมทนาบัตร และรูปภาพมาบูชาแทน

คืนวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ ขณะสวดมนต์ สวดสรรเสริญ ทำสมาธิเสร็จแล้ว จึงเข้านอนใกล้จะหลับ ได้ยินเสียงผู้ชาย พูดว่า "ตุ้มหูไม่หายไปไหนหรอก อีกไม่นานจะได้คืน" ความจริงคุณเบญจมาศลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ได้ยินเสียงบอกจึงตกใจตื่น สงสัยว่าเสียงใครพูดแต่ไม่ได้นึกอะไร

วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นวันเสาร์ เธอบอกให้ลูกชายว่าช่วยล้างถังน้ำในห้องน้ำพอลูกชายล้างเสร็จ บอกคุณแม่ว่า "คุณแม่ครับ เจอตุ้มหูคุณแม่แล้ว อยู่ในถังน้ำนี่เอง"

คุณเบญจมาศขนลุกทั้งตัว นึกถึงเสียงพูดของผู้ชายที่ได้ยิน พร้อมทั้งนึกถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุ ขนาดสวดสรรเสริญ แต่เพียงภาพถ่าย ยังช่วยเหลือได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นพระของขวัญองค์จริงจะมีอานุภาพขนาดไหน ท่านไม่ใช่มีอานุภาพแค่ดูดทรัพย์เท่านั้น ยังช่วยดูแลรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่ให้ด้วย ทั้งที่ไม่ได้ขอร้องอะไร คุณเบญจมาศได้กล่าวไว้ตอนท้ายว่า

"ข้าพเจ้าอยากจะบอกกับยอดกัลยาณมิตรทุกท่านว่า อย่าลังเลเลยค่ะ มาสร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์ และรับพระของขวัญมหาสิริราชธาตุกันทุกท่าน เพื่อให้ท่านคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวต่อไปในวันข้างหน้า ทั้งมีส่วนช่วยสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ให้เสร็จเร็วๆ เพื่อสันติสุขของมวลมนุษยชาติ"

ความฝันของผู้เล่าเรื่องนี้เป็นชนิด เทพยดาบันดาล แสดงว่าคุณเบญจมาศเป็นคนมีบุญเก่าและเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ เคยทำบุญร่วมกับหมู่คณะไว้ เทพยดาที่มีหน้าที่ดูแลรักษา จึงสร้างภาพนิมิตในฝันให้เห็นล่วงหน้า ทั้งพระมหาสิริราชธาตุและหลวงพ่อวัดปากน้ำ เมื่อมาเห็นภาพในหนังสือตรงกับความฝัน จึงสะดุดใจได้คิด ปรารถนาอยากทำบุญ พอดีมีบุญเคยทำทานไวัในอดีต บุญบันดาลให้มีโชคลาภเกิดขึ้น ได้ทำบุญสมใจ

ส่วนเสียงผู้ชายที่พูดด้วยในเวลาใกล้หลับ อาจเป็นเทพยดาที่ดูแลองค์พระมหาสิริราชธาตุเมื่อคุณเบญจมาศทำบุญไปแล้วมีสิทธิ์ได้รับพระของขวัญ แม้ยังไม่ได้รับพระของจริงจากทางวัด แต่เทพยดาที่ดูและพระของขวัญองค์จริง ท่านย่อมทราบว่าใครเป็นเจ้าของ ท่านก็ทำหน้าที่ของท่านทันที ผู้คนทั้งหลายที่อธิษฐานกับภาพถ่ายแล้ว ประสพผลสำเร็จ ก็ทำนองเดียวกัน คือส่วนใหญ่สามารถหาทางทำบุญเป็นเจ้าขององค์พระได้ทุกราย
 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล